Bluegrass music is a form of Americ

Bluegrass music is a form of American roots music, and a subgenre of country music. Bluegrass was inspired by the music of Appalachia.[1] It has mixed roots in Irish, Scottish, Welsh, and English[2] traditional music, and also later influenced by the music of African-Americans[3] through incorporation of jazz elements.

Settlers from the United Kingdom and Ireland arrived in Appalachia during the 18th century, and brought with them the musical traditions of their homelands. These traditions consisted primarily of English and Scottish ballads—which were essentially unaccompanied narrative—and dance music, such as Irish reels, which were accompanied by a fiddle.[4] Many older bluegrass songs come directly from the British Isles. Several Appalachian bluegrass ballads, such as "Pretty Saro", "Barbara Allen", "Cuckoo Bird" and "House Carpenter", come from England and preserve the English ballad tradition both melodically and lyrically.[5] Others, such as The Twa Sisters, also come from England; however, the lyrics are about Ireland.[6] Some bluegrass fiddle songs popular in Appalachia, such as "Leather Britches", and "Pretty Polly", have Scottish roots.[7] The dance tune Cumberland Gap may be derived from the tune that accompanies the Scottish ballad Bonnie George Campbell.[8] Other songs have different names in different places; for instance in England there is an old ballad known as "A Brisk Young Sailor Courted Me", but exactly the same song in North American bluegrass is known as "I Wish My Baby Was Born".[9]

In bluegrass, as in some forms of jazz, one or more instruments each takes its turn playing the melody and improvising around it, while the others perform accompaniment; this is especially typified in tunes called breakdowns. This is in contrast to old-time music, in which all instruments play the melody together or one instrument carries the lead throughout while the others provide accompaniment. Breakdowns are often characterized by rapid tempos and unusual instrumental dexterity and sometimes by complex chord changes.

There are three major subgenres of bluegrass and one unofficial subgenre. Traditional bluegrass has musicians playing folk songs, tunes with simple traditional chord progressions, and using only acoustic instruments, with an example being Bill Monroe. Progressive bluegrass groups may use electric instruments and import songs from other genres, particularly rock & roll. Examples include Cadillac Sky and Bearfoot. "Bluegrass gospel" has emerged as a third subgenre, which uses Christian lyrics, soulful three- or four-part harmony singing, and sometimes the playing of instrumentals. A newer development in the bluegrass world is Neo-traditional bluegrass; exemplified by bands such as The Grascals and Mountain Heart, bands from this subgenre typically have more than one lead singer. Bluegrass music has attracted a diverse following worldwide. Bluegrass pioneer Bill Monroe characterized the genre as: "Scottish bagpipes and ole-time fiddlin'. It's Methodist and Holiness and Baptist. It's blues and jazz, and it has a high lonesome sound."[10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพลงคันทรี่ของอเมริกันเพลงเป็นรูปแบบของดนตรีรากอเมริกันและ subgenre ของเพลงคันทรี่ เพลงคันทรี่ของอเมริกันเป็นแรงบันดาลใจจากเพลงแห่ง [ 1 ] มันมีผสมรากไอริช , สกอต เวลส์ และภาษาอังกฤษ [ 2 ] เพลงแบบดั้งเดิม และต่อมาได้รับอิทธิพลจากเพลงของแอฟริกาอเมริกัน [ 3 ] โดยการรวมตัวกันขององค์ประกอบแจ๊ส

การตั้งถิ่นฐานจากสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์มาถึงเพลงล้อเลียนในช่วงศตวรรษที่ 18 และมากับพวกเขาประเพณีดนตรีของชนชาติของตน ประเพณีเหล่านี้ประกอบด้วยหลักของภาษาอังกฤษและสกอตแลนด์บัลลาดซึ่งการเล่าเรื่องเป็นหลักแต่ไม่มีเพลงเต้น เช่น ไอริช เพลา ซึ่งมาพร้อมกับไวโอลิน .[ 4 ] รุ่นเก่ามากเพลงคันทรี่เพลงมาโดยตรงจากเกาะอังกฤษ เพลงคันทรี่ของอเมริกันหลายแนวบัลลาด เช่น " สวย Saro " , " Barbara Allen " , " นกกาเหว่านก " และ " บ้านไม้ " มาจากประเทศอังกฤษ และอนุรักษ์ประเพณีทั้งภาษาอังกฤษและเพลงบัลลาดไพเราะเนื้อเพลง [ 5 ] ผู้อื่น เช่น TWA พี่น้องที่มาจากอังกฤษ แต่เนื้อเพลงจะเกี่ยวกับไอร์แลนด์ .[ 6 ] มีเพลงที่เป็นที่นิยมในเพลงคันทรี่ซอเพลงล้อเลียน เช่น " กางเกงขายาวหนัง " และ " สวยพอลลี่ " มีรากชาวสก็อต [ 7 ] เต้นเพลง Cumberland Gap อาจได้มาจากเพลงที่มาพร้อมกับเพลงชาวสก็อตบอนนี่ จอร์จ แคมเบลล์ [ 8 ] เพลงอื่น ๆที่มีชื่อที่แตกต่างกันในสถานที่ที่แตกต่างกัน ; เช่น ในอังกฤษมีเก่าเพลงที่เรียกว่า " แรงหนุ่มกะลาสีจีบฉัน "แต่เหมือนเพลงเดียวกันในเพลงคันทรี่ชาวอเมริกันเป็นที่รู้จักในฐานะ " อยากให้ลูกเกิดมา " [ 9 ]

ในคันทรี่ ในรูปแบบบางส่วนของแจ๊ส หนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งเครื่องมือแต่ละจะเปิดเล่นเพลง และ improvising รอบ ในขณะที่คนอื่น ๆดำเนินการไปด้วย นี่คือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง typified ในเพลง เรียกว่าเสีย นี้เป็นในทางตรงกันข้ามกับเพลงเวลาเก่าซึ่งทั้งหมดใช้เล่นเพลงด้วยกัน หรือเครื่องมือพกนำตลอด ขณะที่คนอื่นมีเครื่องประกอบ ความเสียหายมักจะมีลักษณะอย่างรวดเร็วและผิดปกติ บรรเลงทั้งในความคล่องแคล่วและบางครั้งโดยการเปลี่ยนแปลงคอร์ดซับซ้อน

มีสามหลักของเพลงคันทรี่ และไม่เป็นทางการ subgenres subgenre . เพลงคันทรี่ของอเมริกันแบบดั้งเดิมมีนักดนตรีเล่นเพลงพื้นบ้านเพลงที่มีทางเดินคอร์ดแบบง่ายๆ และใช้เครื่องดนตรีอะคูสติก มีตัวอย่างเป็นบิล มอนโร เพลงคันทรี่ของอเมริกันก้าวหน้าอาจใช้กลุ่มเครื่องมือไฟฟ้าและนำเข้าเพลงจากประเภทอื่น ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งหินกลิ้ง& . ตัวอย่าง ได้แก่ ฟ้า และ bearfoot คาดิลแลค . เพลงคันทรี่ของอเมริกันประเสริฐ " ได้เกิดขึ้นเป็น subgenre ที่สามซึ่งใช้ชื่อเนื้อเพลงสาม - สี่ส่วนมนุษย์หรือความสามัคคี ร้องเพลง และบางครั้งการเล่นของประชาชน . การพัฒนาใหม่ในโลกเพลงคันทรี่เพลงคันทรี่นีโอแบบดั้งเดิม ; exemplified โดยวงเช่น grascals และหัวใจภูเขา วงจาก subgenre นี้มักจะมีมากกว่าหนึ่งนักร้องนํา เพลงคันทรี่ของอเมริกันดนตรีได้ดึงดูดที่หลากหลายตามทั่วโลกเพลงคันทรี่ของอเมริกันผู้บุกเบิกบิล มอนโร ลักษณะ ประเภท : " สกอตปี่และ ole เวลา fiddlin ' มันคือระเบียบและความศักดิ์สิทธิ์ และรับบัพติศมา มันเป็นบลูส์และแจ๊ส และมีเสียงสูงเดียวดาย " . [ 10 ]