Material and methodsStudy siteThe m

Material and methods
Study site
The maned sloths were monitored in a cabruca located at the
Cabana da Serra Farm (15◦1120S; 39◦233W) in the municipality
of Una, in the lowlands of southern Bahia, Brazil. The study site is
located near the Una Biological Reserve and the Private Reserve
Ecoparque de Una, and is crossed by the Maruim River (Fig. 1).
Approximately 67% of the land encompassed by Una Biological
Reserve and its buffer zone (extending 10km beyond the Reserve’s
borders) is covered by primary and secondary forests (Instituto
de Estudos Socioambientais do Sul da Bahia, unpublished data).
Shaded cacao plantations and rubber tree plantations account for
60% of the cultivated land and represent the main crops in the Una
Biological Reserve buffer zone (Araújo et al. 1998).
Average annual temperature is 24–25 ◦C, and annual precipitation
is 1600–2000mm (Gouvêa 1969). The vegetation in the study
area is tropical lowland rainforest (Oliveira-Filho and Fontes 2000).
The mature humid forest at Una Biological Reserve is characterized
by a canopy 25–30m tall, high abundance of epiphytes and vines,
and clearly defined strata (Amorim et al. 2008). In the cabrucas,
the understory of original forest is replaced by cacao shrubs, tree
canopy density is lower than in mature forests, epiphytes are usually
reduced to canopy layer and vines are minimal (Alves 1990,
2005; Sambuichi 2006; Sambuichi and Haridasan 2007; Cassano
et al. 2009). Traditional cacao agroforests exhibit great variation
in vegetation diversity and structure as a consequence of both
tree diversity of the original forest and the agroforest management
(Sambuichi 2006). The cabruca where the study was conducted has
well-developed canopy strata, although it is lower and thinner than
that of mature forests. Barreto and Cassano (2007) found 30 trees
(11 species) with a DBH> 10 cm in 0.1 ha, most were early successional
species. Inga edulis, Tapirira guianensis and Senna multijuga,
for example, together comprised over 50% of the trees. The cacao
plantation where the study was conducted received little management: weeding happened only twice during the four years of the
study, tree epiphytes were neither pruned nor removed from cacao
plants, and agrochemicals were not used.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัสดุและวิธีการเว็บไซต์การศึกษาสลอธเคราขาวถูกตรวจสอบใน cabruca อยู่คาบาน่าดาฟาร์มเซียร์ (15◦11 20 S; 39◦2 33 W) ในเทศบาลของอู ในเขตภาคใต้บาเยีย บราซิล เว็บไซต์การศึกษาสำรองทางชีวภาพอูและสำรองส่วนตัวอูนาเดอ Ecoparque และข้ามแม่น้ำ Maruim (1 รูป)ประมาณ 67% ของแผ่นดินที่ห้อมล้อม ด้วยชีวภาพ Unaสำรองและของเขตกันชน (ขยาย 10 กม.นอกเหนือจากการสำรองเส้นขอบ) ปกคลุม ด้วยป่าหลัก และรอง (สไตล์Estudos เด Socioambientais ทำ Sul da Bahia ยกเลิกประกาศข้อมูล)สวนโกโก้ร่มและบัญชีสวนยางพารา60% ของที่ดินเพาะปลูกและเป็น พืชหลักในการอูทางชีวภาพสำรองบัฟเฟอร์โซน (Araújo et al. 1998)อุณหภูมิเฉลี่ย 24 – 25 ◦C และปริมาณฝนรายปีเป็น 1600-2000 มม. (Gouvêa 1969) พรรณไม้ในการศึกษาพื้นที่เป็นป่าที่ลุ่มเขตร้อน (Oliveira Filho และสาว 2000)ลักษณะป่าชื้นแก่ ๆ ที่ Una ชีวภาพสำรองหลังคาสูง 25 – 30 เมตร สูงมากมายเลี้ยงและเถาวัลย์และชั้นชัดเจน (Amorim et al. 2008) ใน cabrucasunderstory ป่าเดิมถูกแทนที่ โดยโกโก้ไม้พุ่ม ต้นไม้ความหนาแน่นของหลังคาอยู่ต่ำกว่าในผู้ใหญ่ป่า เลี้ยงมักลดชั้นหลังคา และเถาวัลย์ที่มีน้อยที่สุด (Alves 19902005 Sambuichi 2006 Sambuichi และ Haridasan 2007 Cassanoet al. 2009) ของไร่โกโก้แบบดั้งเดิมมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีในความหลากหลายของพืชและโครงสร้างเนื่องจากทั้งสองต้นไม้หลากหลายป่าเดิมและการจัดการเกษตร(Sambuichi 2006) Cabruca ที่ดำเนินการวิจัยได้พัฒนากระโจมชั้น แม้ว่ามันจะต่ำกว่า และบางกว่าที่ป่าผู้ใหญ่ พบต้นไม้ 30 Barreto และ Cassano (2007)(11 สายพันธุ์) กับ DBH 0.1 > 10 ซม.ฮา สุดถูกช่วงต่อเนื่องสายพันธุ์นี้ สุ edulis, Tapirira guianensis และแหล่ multijugaเช่น กันประกอบมากกว่า 50% ของต้น โกโก้สวนที่ดำเนินการวิจัยได้รับการจัดการน้อย: กำจัดวัชพืชเกิดขึ้นสองเท่าในช่วงปีสี่ของการการศึกษา ต้นไม้เลี้ยงถูกล้าง ไม่ถูกลบออกจากโกโก้ไม่ได้ใช้พืช และกสูบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัสดุและวิธีการ
เว็บไซต์การศึกษา
sloths เคราถูกตรวจสอบใน cabruca ที่ตั้งอยู่ที่
คาบาน่า da Serra การเกษตร (20 15◦11 ?? s;? 39◦2 33 ?? W) ในเขตเทศบาล
ของ Una ในที่ราบลุ่มของภาคใต้ เฮียบราซิล เว็บไซต์ศึกษาจะ
ตั้งอยู่ใกล้ทางชีวภาพสำรอง Una และเอกชนสำรอง
Ecoparque เด Una และข้ามแม่น้ำ Maruim (รูปที่ 1)..
ประมาณ 67% ของที่ดินที่ห้อมล้อมด้วย Una ชีวภาพ
Reserve และพื้นที่กันชน (ขยาย 10km เกิน สำรองของ
ชายแดน) ถูกปกคลุมด้วยป่าประถมศึกษาและมัธยมศึกษา (Instituto
de Estudos Socioambientais do Sul da Bahia ข้อมูลที่ไม่ถูกเผยแพร่).
ร่มเงาสวนโกโก้และสวนยางพาราบัญชีสำหรับ
60% ของพื้นที่เพาะปลูกและเป็นตัวแทนของพืชหลักใน Una
ชีวภาพสำรอง เขตกันชน (Araújo et al. 1998).
ปีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 24-25 ◦Cและประจำปีการเร่งรัด
เป็น 1600-2000mm (Gouvêa 1969) พืชในการศึกษา
ในพื้นที่เป็นที่ลุ่มป่าฝนเขตร้อน (Oliveira-Filho และ Fontes 2000).
ป่าชื้นผู้ใหญ่ที่ Una ชีวภาพสำรองเป็นลักษณะ
โดย 25-30m หลังคาสูงความอุดมสมบูรณ์สูงของ epiphytes และเถาวัลย์
และพื้นที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน (Amorim et al. 2008) ใน cabrucas ที่
understory ของป่าเดิมจะถูกแทนที่ด้วยพุ่มไม้โกโก้ต้นไม้
หนาแน่นหลังคาต่ำกว่าในป่าผู้ใหญ่ epiphytes มักจะ
ลดลงไปชั้นหลังคาและเถามีน้อย (อัลเวส 1990
2005 Sambuichi 2006 Sambuichi และ Haridasan 2007 คาสซาโน่
et al. 2009) ฤดูแล้งโกโก้ดั้งเดิมแสดงการเปลี่ยนแปลงที่ดี
ในความหลากหลายและโครงสร้างพืชเป็นผลให้ทั้ง
ความหลากหลายของป่าต้นไม้เดิมและการจัดการวนเกษตร
(Sambuichi 2006) cabruca ที่ศึกษาได้ดำเนินการได้
ทั้งการพัฒนาชั้นหลังคาแม้ว่ามันจะเป็นที่ต่ำกว่าและบางกว่า
ที่ป่าผู้ใหญ่ Barreto และคาสซาโน่ (2007) พบว่า 30 ต้นไม้
(11 ชนิด) ที่มี DBH> 10 ซม. ใน 0.1 ฮ่ามากที่สุดคือต้นต่อเนื่อง
ชนิด Inga edulis, Tapirira guianensis และมะขามแขก multijuga,
ตัวอย่างประกอบด้วยร่วมกันกว่า 50% ของต้นไม้ โกโก้
ไร่ที่ศึกษาได้ดำเนินการที่ได้รับการจัดการน้อย: การกำจัดวัชพืชที่เกิดขึ้นเพียงสองครั้งในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาของ
การศึกษา epiphytes ต้นไม้ถูกตัดค่ามิได้นำออกจากโกโก้
พืชและสารเคมีทางการเกษตรไม่ได้ใช้