Approximately 5% of the German popu

Approximately 5% of the German population have been diagnosed with diabetes mellitus. About 90% of them suffer from type 2 diabetes, which occurs most frequently in older people. About 5% of diabetics suffer from insulin-dependent type 1 diabetes, with onset mainly in childhood or adolescence. The other forms of diabetes mellitus are rarer. Many people can be expected to have diabetes without knowing it.
Whereas severe acute complications are rare these days thanks to modern therapies, accompanying illnesses and comorbidities - such as cardiovascular diseases, diabetic retinopathy, nephropathy, neuropathy and foot ulcers- are often present and may reduce the quality of life and life expectancy. Also, diabetes mellitus is responsible for increased health care seeking and expenditure for the health care system.
Since type 2 diabetes (unlike type 1) is closely associated to life style habits - especially regarding exercise and nutrition - there is a lot of potential here for primary and secondary prevention. The prevention and treatment of diabetes require a comprehensive, interdisciplinary approach and the active involvement of the patients themselves. Over the last few decades, modern therapeutic strategies and interdisciplinary, health-promoting services such as patient education have considerably improved the situation of diabetics. Even so, the services currently provided are still not optimal, and this seems to be due not so much to a lack of resources as to insufficient coordination between the different agencies involved. Integrated schemes (e.g. disease-management programs) and nationwide campaigns (such health targets or a national diabetes program) aim, among other things, to help improve coordination and further improve care services for diabetics.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประมาณ 5% ของประชากรเยอรมันได้รับการวินิจฉัยโรคเบาหวาน ประมาณ 90% ของภาวะเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เกิดขึ้นบ่อยในผู้สูงอายุ ประมาณ 5% ของเบาหวานภาวะอินซูลินขึ้นอยู่กับชนิดที่ 1 โรคเบาหวาน มีเริ่มมีอาการในวัยเด็กหรือวัยรุ่น จำลองรูปแบบอื่น ๆ ของเบาหวานได้ หลายคนสามารถคาดหวังการมีโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัวในขณะที่ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันรุนแรงมีวันนี้ขอบคุณรักษาทันสมัย ที่มาพร้อมกับความเจ็บป่วยและ comorbidities - โรคหัวใจ เบาหวาน โรค ไต neuropathy และเท้ามีแผลมักจะนำเสนอ และอาจลดคุณภาพชีวิตและอายุขัย ยัง หวานรับผิดชอบต้องดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นและรายจ่ายสำหรับระบบการดูแลสุขภาพตั้งแต่ชนิด หวาน 2 (แตกต่างจากชนิดที่ 1) มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับพฤติกรรมวิถีชีวิต - โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการออกกำลังกายและโภชนาการ - มีจำนวนมากของที่นี่มีศักยภาพสำหรับการป้องกันหลัก และรอง การป้องกันและรักษาโรคเบาหวานจำเป็นต้องใช้วิธีครอบคลุม สหวิทยาการและการร่วมของผู้ป่วยเอง ผ่าน ไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา กลยุทธ์รักษาที่ทันสมัย และบริการสาขา การส่ง เสริมสุขภาพเช่นป่วยมีมากขึ้นสถานการณ์ของเบาหวาน แต่กระนั้น การบริการในปัจจุบันจะยังไม่เหมาะสม และนี้น่าจะเป็นไม่มากการขาดทรัพยากรเป็นการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องไม่เพียงพอ บูรณาการแผนงาน (เช่นโปรแกรมการจัดการโรค) และแคมเปญทั่วประเทศ (เช่นเป้าหมายสุขภาพหรือโปรแกรมตับ) จุดมุ่งหมาย ในหมู่สิ่งอื่น ๆ เพื่อช่วยปรับปรุงการประสานงาน และการพัฒนาบริการการดูแลและการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประมาณ 5% ของประชากรเยอรมันได้รับการวินิจฉัยโรคเบาหวาน ประมาณ 90% ของพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ ประมาณ 5% ของผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นโรคเบาหวานขึ้นอยู่กับอินซูลินชนิดที่ 1 มีการโจมตีส่วนใหญ่อยู่ในวัยเด็กหรือวัยรุ่น รูปแบบอื่น ๆ ของโรคเบาหวานมีความยาก หลายคนสามารถคาดว่าจะมีโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว.
ในขณะที่ภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันรุนแรงเป็นของหายากวันนี้ขอบคุณกับการรักษาที่ทันสมัยประกอบการเจ็บป่วยและการป่วย - เช่นโรคหัวใจเบาหวานโรคไตอักเสบและเท้า ulcers- มักจะมีในปัจจุบันและอาจ ลดคุณภาพของชีวิตและชีวิตที่คาดหวัง นอกจากนี้โรคเบาหวานเป็นผู้รับผิดชอบในการแสวงหาการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายสำหรับระบบการดูแลสุขภาพ.
เนื่องจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (ซึ่งแตกต่างจากชนิดที่ 1) มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับนิสัยวิถีชีวิต - โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการออกกำลังกายและโภชนาการ - มีเป็นจำนวนมากที่มีศักยภาพที่นี่สำหรับ การป้องกันการประถมศึกษาและมัธยมศึกษา การป้องกันและการรักษาโรคเบาหวานจำเป็นต้องครอบคลุมวิธีการแบบสหวิทยาการและมีส่วนร่วมของผู้ป่วยเอง ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมากลยุทธ์การรักษาที่ทันสมัยและสหวิทยาการบริการส่งเสริมสุขภาพเช่นการศึกษาผู้ป่วยได้ดีขึ้นมากสถานการณ์ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ดังนั้นแม้การให้บริการในขณะนี้ยังคงไม่ดีที่สุดและนี่น่าจะเป็นเนื่องจากไม่มากจากการขาดทรัพยากรเพื่อการประสานงานระหว่างหน่วยงานไม่เพียงพอที่แตกต่างกันที่เกี่ยวข้อง รูปแบบบูรณาการ (โปรแกรมเช่นโรคการจัดการ) และแคมเปญทั่วประเทศ (เป้าหมายสุขภาพเช่นโปรแกรมหรือโรคเบาหวานแห่งชาติ) มีจุดมุ่งหมายในสิ่งอื่น ๆ เพื่อช่วยปรับปรุงการประสานงานและปรับปรุงการบริการดูแลสำหรับคนเป็นเบาหวาน