ABSTRACT. Chronic kidney disease (C

ABSTRACT. Chronic kidney disease (CKD) is a major public health problem. Conflicting evidence exists among community-based studies as to whether CKD is an independent risk factor for adverse cardiovascular outcomes. After subjects with a baseline history of cardiovascular disease were excluded, data from four publicly available, community-based longitudinal studies were pooled: Atherosclerosis Risk in Communities Study, Cardiovascular Health Study, Framingham Heart Study, and Framingham Offspring Study. Serum creatinine levels were indirectly calibrated across studies. CKD was defined by a GFR between 15 and 60 ml/min per 1.73 m2. A composite of myocardial infarction, fatal coronary heart disease, stroke, and death was the primary study outcome. Cox proportional hazards models were used to adjust for study, demographic variables, educational status, and other cardiovascular risk factors. The total population included 22,634 subjects; 18.4% of the population was black, and 7.4% had CKD. There were 3262 events. In adjusted analyses, CKD was an independent risk factor for the composite study outcome (hazard ratio [HR], 1.19; 95% confidence interval [CI], 1.07–1.32), and there was a significant interaction between kidney function and race. Black individuals with CKD had an adjusted HR of 1.76 (95% CI, 1.35–2.31), whereas whites had an adjusted HR of 1.13 (95% CI, 1.02–1.26). CKD is a risk factor for the composite outcome of all-cause mortality and cardiovascular disease in the general population and a more pronounced risk factor in blacks than in whites. It is hypothesized that this effect may be due to more frequent or more severe subclinical vascular disease secondary to hypertension or diabetes in black individuals.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ โรคไตเรื้อรัง (โรคไต) เป็นปัญหาสุขภาพสำคัญของประชาชน มีหลักฐานที่ขัดแย้งกันในหมู่ชุมชนศึกษาว่าโรคไตนี้ เป็นปัจจัยเสี่ยงอิสระผลเสียต่อหัวใจและหลอดเลือด หลังจากวัตถุที่ มีประวัติพื้นฐานของโรคหลอดเลือดหัวใจถูกแยกออก ถูกพูข้อมูลจากสี่เผย ชุมชนศึกษาระยะยาว: ความเสี่ยงของหลอดเลือดในชุมชนศึกษา ศึกษาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด การ ศึกษา Framingham หัวใจ และ ศึกษา Framingham ลูกหลาน อ้อมถูกการปรับเทียบระดับ creatinine ในซีรั่มในการศึกษา โรคไตถูกกำหนด โดย GFR ระหว่าง 15 และ 60 มล./นาทีต่อ 1.73 m2 ส่วนประกอบของกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคร้ายแรง โรคหลอดเลือดสมอง และความตายเป็นผลการศึกษาหลัก ค็อกซ์สัดส่วนอันตรายรุ่นถูกใช้เพื่อปรับการศึกษา ตัวแปรทางประชากร การศึกษาสถานะ และปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ หัวใจและหลอดเลือด จำนวนประชากรรวมวิชา 22,634 18.4% ของประชากรดำ และ 7.4% โรคไต มีกิจกรรม 3262 ในการวิเคราะห์ปรับปรุง โรคไตเป็นปัจจัยเสี่ยงอิสระสำหรับผลการศึกษาคอมโพสิต (อัตราอันตราย [HR], 1.19 ช่วงความเชื่อมั่น 95% [CI], 1.07-1.32), และมีการโต้ตอบที่สำคัญระหว่างการทำงานของไตและการแข่งขัน บุคคลดำกับโรคไตมีชม.การปรับปรุงของ 1.76 (95% CI, 1.35 – 2.31), ในขณะที่ขาวมีชม.การปรับปรุงของ 1.13 (95% CI, 1.02-1.26) โรคไตนั้นเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับผลรวมของอัตราการตายทุกสาเหตุและโรคหัวใจและหลอดเลือดในประชากรทั่วไปและเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เด่นชัดมากในดำกว่าในขาว มันคือตั้งสมมติฐานว่าผลกระทบนี้อาจรุนแรงมากขึ้น หรือบ่อยขึ้น subclinical โรคหลอดเลือดความดันโลหิตสูงหรือโรคเบาหวานในคนดำรองเนื่องจาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นามธรรม. โรคไตเรื้อรัง (CKD) เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ หลักฐานที่ขัดแย้งกันอยู่ในหมู่การศึกษาชุมชนตามเป็นไปได้ว่าโรคไตวายเรื้อรังเป็นปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดสำหรับผลที่ไม่พึงประสงค์ หลังจากที่อาสาสมัครที่มีประวัติพื้นฐานของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้รับการยกเว้นจากข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณชนสี่ยาวศึกษาชุมชนตามที่ได้รวบรวมความเสี่ยงหลอดเลือดในการศึกษาชุมชนการศึกษาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดศึกษาหัวใจรามิงแฮมและ Framingham Offspring ศึกษา ระดับ creatinine เซรั่มได้รับการสอบเทียบทางอ้อมผ่านการศึกษา โรคไตวายเรื้อรังได้รับการกำหนดโดย GFR ระหว่าง 15 และ 60 มล. / นาทีละ 1.73 m2 คอมโพสิตของกล้ามเนื้อหัวใจตายโรคหลอดเลือดหัวใจร้ายแรง, โรคหลอดเลือดสมองและความตายเป็นผลการศึกษาประถมศึกษา ค็อกซ์รุ่นอันตรายสัดส่วนถูกนำมาใช้เพื่อปรับสำหรับการศึกษาลักษณะทางประชากรสถานะการศึกษาและปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ประชากรทั้งหมดรวม 22,634 วิชา; 18.4% ของประชากรที่เป็นสีดำและ 7.4% มีโรคไตวายเรื้อรัง มีเหตุการณ์ต่าง ๆ 3262 ในการวิเคราะห์การปรับ CKD เป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับผลการศึกษาคอมโพสิต (อันตรายอัตราส่วน [HR], 1.19; 95% ช่วงความเชื่อมั่น [CI], 1.07-1.32) และมีปฏิสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างการทำงานของไตและการแข่งขัน บุคคลสีดำกับโรคไตวายเรื้อรังมีทรัพยากรบุคคลที่ปรับ 1.76 (95 CI% 1.35-2.31) ในขณะที่คนผิวขาวมีทรัพยากรบุคคลที่ปรับ 1.13 (95% CI, 1.02-1.26) โรคไตวายเรื้อรังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับผลคอมโพสิตของทุกสาเหตุการตายและโรคหลอดเลือดหัวใจในประชากรทั่วไปและปัจจัยเสี่ยงที่เด่นชัดมากขึ้นในคนผิวดำกว่าในคนผิวขาว มันคือการตั้งสมมติฐานว่าผลกระทบนี้อาจจะเกิดจากโรคหลอดเลือดบ่อยมากขึ้นหรือไม่แสดงอาการรุนแรงมากขึ้นรองเพื่อความดันโลหิตสูงหรือโรคเบาหวานในบุคคลที่เป็นสีดำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม โรคไตเรื้อรัง ( CKD ) เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ หลักฐานที่ขัดแย้งกันอยู่ในหมู่ชุมชนศึกษาว่าจะเป็น CKD เป็นปัจจัยเสี่ยงอิสระที่ไม่พึงประสงค์และผลลัพธ์ หลังจากวิชาที่มีพื้นฐานความเป็นมาของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้โดยข้อมูลจากสี่ต่อสาธารณะโดยรวม : หลอดเลือดตามยาวศึกษาความเสี่ยงในการศึกษาชุมชน การศึกษาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดหัวใจเฟรมิงศึกษาและ Framingham ลูกหลานศึกษา ระดับครีเอตินินในเลือดเป็นทางอ้อมโดยผ่านการศึกษา โรคไตวายเรื้อรังที่ถูกกำหนดไว้โดยการกรองระหว่าง 15 และ 60 มิลลิลิตรต่อนาทีต่อ 1.73 m2 คอมโพสิตของกล้ามเนื้อหัวใจตายที่ร้ายแรง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และความตายคือผลการศึกษาหลัก ผู้ที่สำคัญต่อรูปแบบถูกนำมาใช้เพื่อปรับการศึกษาประชากร สถานภาพการศึกษา และปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ประชากร ได้แก่ นักเรียน 22634 ; 18.4 % ของประชากร คือ สีดำ และ 7.4% มี CKD . มี 1753 ครั้ง ได้วิเคราะห์ รวมทั้งเป็นปัจจัยเสี่ยงอิสระ ผลการศึกษาประกอบด้วย ( อันตราย ) [ hr ] , ] ; ช่วงความเชื่อมั่น 95% [ CI ] 1.07 ( 1.32 ) และมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างไต และการแข่งขัน บุคคลสีดำกับ CKD มีปรับประมาณ 1.76 ( 95% CI , 1.35 – 2.31 ) ส่วนไข่ขาวมีการปรับประมาณ 1.13 ( 95% CI , 1.02 ( 1.26 ) รวมทั้งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับผลประกอบของการตายและโรคหัวใจและหลอดเลือดในประชากรทั่วไปและเด่นชัดมากขึ้น ปัจจัยเสี่ยงในผิวดำมากกว่าไข่ขาว คือ ผลกระทบนี้อาจจะเนื่องจากบ่อย หรือโรคหลอดเลือดซับคลินิเคิลรุนแรงมากขึ้นรองความดันโลหิตสูงหรือเบาหวานในคนผิวดำ