Technology is a pervasive and growi

Technology is a pervasive and growing component of accounting tasks and has been shown to change work processes. The meta-theory model for AIS research contained in this paper explicitly recognizes this factor. Currently, multiple research methods are being employed to investigate dual AIS/accounting problems. This is especially evident in managerial accounting, where experimental, ®eld, and analytical work has addressed the interrelationships between managerial tasks and AIS design and use. Less evident is an explicit combined strategy to employ multi-methods in a manner that most e€ectively uses the strengths of each approach (Peters, 1993). The meta-theory model develops a comprehensiveframeworkthatcan be used to help organize and interpret future research. The meta-theory model may also provide a vehicle to encourage the integration of AIS research with the other sub-disciplines of accounting research. Explicitly considering task commonalities and di€erences between sub-disciplines may avoid unnecessary duplication of research as well as accelerate the advance of AIS research. This paper develops a meta-theory model for AIS research that begins with a task focus and suggests a matching process between requirements of the task and system design alternatives at four di€erent levels of analysis. Further, the model suggests that technological, organizational, and cognitive contingency factors impact the outcome, task performance. The three contingency factors are developed from a review of the extant literature and are complimentary, each focusing on an important aspect of AIS design and use in addressing accounting issues. The model provides a nomological structure that can be used in future research to identify variable combinations and critical interactions for speci®c task settings. Four propositions for future research are also identi®ed using the proposed model. These propositions illustrate questions that have been under-researched regarding the temporal ordering of contingency factors, the relative importance of contingency factors for di€erent tasks, the consequences of system design choices and the complementarities in AIS.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคโนโลยีเป็นส่วนประกอบที่แพร่หลาย และเติบโตของงานบัญชี และได้รับการแสดงการเปลี่ยนกระบวนการทำงาน แบบ meta-ทฤษฎีวิจัยเอไอเอสมีอยู่ในเอกสารนี้ได้ตระหนักถึงปัจจัยนี้ ในปัจจุบัน วิธีวิจัยหลายถูกถูกว่าจ้างเพื่อตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับเอไอ/การบัญชีคู่ นี่คือ evident โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบริหารจัดการทางบัญชี ทดลอง, ® ภาย และงานวิเคราะห์ได้ส่ง interrelationships ระหว่างการบริหารงาน และการออกแบบของเอไอเอส และใช้ ชัดน้อยคือกลยุทธ์การรวมชัดเจนจะใช้วิธีการหลายอย่างที่สุด e ectively ใช้จุดแข็งของแต่ละวิธี (ปีเตอร์ส 1993) แบบ meta-ทฤษฎีพัฒนา comprehensiveframeworkthatcan ที่ใช้ในการช่วยจัดระเบียบ และแปลความหมายการวิจัยในอนาคต แบบ meta-ทฤษฎีอาจให้รถไปส่งเสริมการรวมงานวิจัยของเอไอเอสกับสาขาวิชาย่อยอื่น ๆ ของการวิจัยทางบัญชี อย่างชัดเจนพิจารณางาน commonalities และ di erences ระหว่างสาขาย่อยอาจหลีกเลี่ยงการซ้ำของงานวิจัย ตลอดจนเร่งล่วงหน้าของงานวิจัยของเอไอเอส กระดาษนี้พัฒนาแบบ meta-ทฤษฎีวิจัยเอไอเอสที่เริ่มต้น โดยมุ่งเน้นงาน และแนะนำกระบวนการจับคู่ระหว่างความต้องการของทางเลือกออกแบบงานและระบบที่สี่ di ระดับระหว่างการผลิตการวิเคราะห์ เพิ่มเติม แบบแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยี องค์กร และความรู้ความเข้าใจปัจจัยฉุกเฉินผลกระทบผล ประสิทธิภาพการทำงานของงาน สามแบบ contingency ปัจจัยพัฒนาจากการทบทวนวรรณกรรมยังหลงเหลืออยู่ และให้บริการฟรี เน้นความสำคัญของเอไอเอสออกแบบและใช้ในการลงบัญชีอยู่แต่ละปัญหา แบบมีโครงสร้างที่ใช้ในการวิจัยในอนาคตเพื่อระบุชุดตัวแปรและการโต้ตอบที่สำคัญสำหรับ speci nomological ® การตั้งค่างาน c ยังมีข้อเสนอที่สี่สำหรับการวิจัยในอนาคต identi ® ed ที่ใช้รูปแบบนำเสนอ ข้อเสนอเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงคำถามที่มีการวิจัยภายใต้เกี่ยวกับลำดับกาลเวลาของปัจจัยฉุกเฉิน ความสำคัญของปัจจัยฉุกเฉินสำหรับ di งานระหว่างการผลิต ผลกระทบของทางเลือกการออกแบบระบบ และ complementarities ในเอไอเอส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เทคโนโลยีเป็นองค์ประกอบที่แพร่หลายและการเจริญเติบโตของงานการบัญชีและการได้รับการแสดงที่จะเปลี่ยนกระบวนการทำงาน รุ่นอภิทฤษฎีสำหรับการวิจัยเอไอเอสที่มีอยู่ในบทความนี้อย่างชัดเจนโดยคำนึงถึงปัจจัยนี้ ปัจจุบันวิธีการวิจัยหลายมีการทำงานในการตรวจสอบเอไอเอส / ปัญหาบัญชีคู่ นี้เห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบัญชีบริหารที่ทดลอง®eldและการทำงานการวิเคราะห์ได้ที่ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารงานและการออกแบบและการใช้งานเอไอเอส เห็นได้ชัดน้อยเป็นกลยุทธ์รวมที่ชัดเจนในการใช้วิธีการหลายในลักษณะที่มากที่สุด ?? E ectively ใช้จุดแข็งของแต่ละวิธี (ปีเตอร์ส 1993) ที่ รุ่นอภิทฤษฎีพัฒนา comprehensiveframeworkthatcan ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยจัดระเบียบและตีความการวิจัยในอนาคต รุ่นอภิทฤษฎีอาจให้ยานพาหนะเพื่อกระตุ้นให้เกิดการรวมกลุ่มของการวิจัยเอไอเอสที่มีการย่อยอื่น ๆ สาขาของการวิจัยการบัญชี อย่างชัดเจนพิจารณา commonalities งานและดิ ?? erences ระหว่างสาขาย่อยอาจหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนที่ไม่จำเป็นของการวิจัยตลอดจนการเร่งความก้าวหน้าของการวิจัยเอไอเอส กระดาษนี้จะพัฒนารูปแบบ meta-ทฤษฎีสำหรับการวิจัยเอไอเอสที่เริ่มต้นด้วยการมุ่งเน้นงานและแสดงให้เห็นขั้นตอนการจับคู่ระหว่างความต้องการของงานและระบบทางเลือกการออกแบบที่สี่ di ?? ระดับต่างกันของการวิเคราะห์ นอกจากนี้รูปแบบการแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีขององค์กรและความรู้ความเข้าใจปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลฉุกเฉินประสิทธิภาพงาน สามปัจจัยฉุกเฉินได้รับการพัฒนาจากการทบทวนวรรณกรรมที่ยังหลงเหลืออยู่และฟรีแต่ละมุ่งเน้นไปที่สิ่งสำคัญของการออกแบบและการใช้งานเอไอเอสในการแก้ไขปัญหาการบัญชี รูปแบบการให้บริการโครงสร้าง nomological ที่สามารถใช้ในการวิจัยในอนาคตที่จะระบุอยู่รวมกันและการมีปฏิสัมพันธ์ตัวแปรสำคัญสำหรับการตั้งค่างานspeci®c สี่ข้อเสนอสำหรับการวิจัยในอนาคตนอกจากนี้ยังมีidenti®edใช้รูปแบบที่นำเสนอ ข้อเสนอเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงคำถามที่ได้รับภายใต้การวิจัยเกี่ยวกับการสั่งซื้อชั่วคราวของปัจจัยฉุกเฉินความสำคัญของปัจจัยฉุกเฉินสำหรับดิ ?? งานต่างกัน, ผลกระทบของการเลือกการออกแบบระบบและการ complementarities ในเอไอเอสที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นเทคโนโลยีที่แพร่หลายและเติบโตเป็นส่วนประกอบของงานบัญชีและได้รับการแสดงที่จะเปลี่ยนกระบวนการทำงาน แบบจำลองทฤษฎีเมตาสำหรับการวิจัย เอไอเอส ที่มีอยู่ในเอกสารนี้ยอมรับอย่างชัดเจน ปัจจัยนี้ ในปัจจุบัน วิธีการวิจัยหลายจะถูกใช้เพื่อศึกษาปัญหา Dual AIS / บัญชี นี้เป็นที่เห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบัญชี , การบริหารจัดการที่ทดลอง®ละมั่ง และวิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างงานและออกแบบงานบริหารเอไอเอส และใช้ เห็นได้ชัดน้อยลงอย่างชัดเจน รวมเป็นกลยุทธ์ที่จะใช้วิธีการหลายในลักษณะที่ส่วนใหญ่ E € ectively ใช้จุดแข็งของแต่ละวิธี ( Peters , 1993 ) ทฤษฎีเมตาโมเดลพัฒนา comprehensiveframeworkthatcan ถูกใช้เพื่อช่วยจัดระเบียบและแปลงานวิจัยในอนาคต ทฤษฎีเมตาโมเดลยังอาจให้ยานพาหนะเพื่อสนับสนุนการบูรณาการวิจัยจาก เอไอเอส กับอีกสาขาย่อยของการวิจัยทางการบัญชี โดยพิจารณาสามัญชนงานและ ดิ € erences ระหว่างสาขาวิชาย่อยอาจหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนที่ไม่จำเป็นของการวิจัย ตลอดจนเร่งความก้าวหน้าของการวิจัยโดย กระดาษนี้พัฒนาทฤษฎีเมตาโมเดลบริการการวิจัยที่เริ่มต้นด้วยงานที่มุ่งเน้นและแสดงให้เห็นกระบวนการที่ตรงกันระหว่างความต้องการของงานและทางเลือกการออกแบบระบบที่ 4 ดิ € erent ระดับของการวิเคราะห์ นอกจากนี้แบบจำลองแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีขององค์กรและการรับรู้ปัจจัยความไม่แน่นอนต่อผลการปฏิบัติงาน สามเงื่อนไขปัจจัยที่ถูกพัฒนาขึ้นจากการทบทวนวรรณกรรมและยังเป็นบริการฟรี แต่ละเน้นด้านการออกแบบที่สำคัญของเอไอเอส และ ใช้ในการจัดการกับปัญหาบัญชี แบบมีโครงสร้าง nomological ที่สามารถใช้ในการระบุชุดของตัวแปรสำคัญสำหรับกา® C การตั้งค่างาน สี่ข้อเสนอเพื่อการวิจัยในอนาคตจะยัง identi ®เอ็ด โดยใช้แบบจำลอง ข้อเสนอเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงคำถามที่ได้รับภายใต้การค้นคว้าเกี่ยวกับการสั่งซื้อชั่วคราวของปัจจัยความไม่แน่นอน , เปรียบเทียบความสำคัญของปัจจัยความไม่แน่นอนสำหรับ ดิ € erent งาน ผลของตัวเลือกการออกแบบระบบและ complementarities ในเอไอเอส .