Phytoremediation is a sound alterna

Phytoremediation is a sound alternative to soil decontamination, as it has lower costs and is more environmentally
friendly than other practices. The need to handle contaminated biomass after harvesting and the
search for new renewable energy sources have shifted research interests from typical edible or scenic plant
species to those that can be used to produce biofuels. The castor oil plant (Ricinus communis L.) is a fast growing
plant with high biomass production and is a potential phytoaccumulator of several metals. In recent
years, the federal government of Brazil has encouraged castor oil plant cultivation for biodiesel and bioethanol
production. The aim of the present work was to evaluate the phytoextraction potential of R. communis
L. and the effect of organicmatter addition (peat vs. filter cake) to a soil contaminated with scrapmetal residue
containing heavy metals and boron. The experiment consisted of a completely randomized block design
with two organic matter sources and four rates of amendment (0, 20, 40 and 80 Mg ha−1 organic
carbon). Treatments were replicated three times. The castor oil plants were harvested 74 days after sowing.
No accumulation of Cr, Ni, Cd, Cu, Pb or Zn was observed in the plants, but the concentration of B increased
to 626 mg kg−1 upon filter cake addition in castor oil shoots. Peat addition reduced by 2.7 years the time
needed for removal of 50% of soil B content compared to the treatment with no organic matter addition.
The transfer factor and transference index values obtained for B with castor oil plants in the present
study were comparable to those obtained for hyperaccumulator species. Although our results are promising,
further studies should be conducted to prove the usefulness of plants grown in contaminated areas
for remediation purposes and for biofuel production

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Phytoremediation เป็นทางเสียงการ decontamination ดิน มันมีต้นทุนต่ำ และมีสิ่งแวดล้อมมากขึ้นดีกว่าวิธีอื่น ๆ จำเป็นต้องจัดการกับชีวมวลปนเปื้อนหลังจากการเก็บเกี่ยวและค้นหาแหล่งพลังงานทดแทนใหม่เริ่มวิจัยประโยชน์จากพืชกิน หรือสวยงามทั่วไปพันธุ์เพื่อที่สามารถใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ โรงงานผลิตน้ำมันละหุ่ง (Ricinus communis L.) มีการเติบโตอย่างรวดเร็วโรงงานผลิตชีวมวลสูง และเป็น phytoaccumulator อาจเกิดขึ้นของโลหะต่าง ๆ ในล่าสุดรัฐบาลบราซิลได้สนับสนุนให้ปลูกพืชน้ำมันละหุ่งสำหรับไบโอดีเซลและ bioethanol ปีการผลิต จุดมุ่งหมายของการทำงานปัจจุบันเป็นการ ประเมินศักยภาพ phytoextraction ของ R. communisL. และผลของการเพิ่ม organicmatter (พรุเทียบกับเค้กกรอง) ในดินที่ปนเปื้อนสารตกค้าง scrapmetalประกอบด้วยโลหะหนักและโบรอน ประกอบด้วยการทดลองแบบ randomized สมบูรณ์บล็อกแหล่งอินทรีย์สองและสี่ราคาแก้ไข (0, 20, 40 และ 80 มิลลิกรัม ha−1 อินทรีย์คาร์บอน) รักษาถูกจำลองแบบแล้วสามครั้ง พืชน้ำมันละหุ่งถูกเก็บเกี่ยววัน 74 หลัง sowingไม่สะสมของ Cr, Ni, Cd, Cu, Pb หรือ Zn ถูกตรวจสอบในพืช แต่ความเข้มข้นของ B เพิ่มขึ้นการ kg−1 มิลลิกรัม 626 เมื่อกรองนี้เค้กในน้ำมันละหุ่งหน่อ นอกจากนี้พรุลดลง 2.7 ปีเวลาจำเป็นสำหรับการเอาออก 50% เมื่อเทียบกับการบำบัดด้วยการไม่เพิ่มอินทรีย์เนื้อหาดิน Bโอนปัจจัยและสติดัชนีค่าได้ B ด้วยน้ำมันละหุ่งพืชในปัจจุบันการศึกษาเปรียบเทียบได้กับได้สายพันธุ์ hyperaccumulator ได้ แม้ว่าผลของเรามีสัญญาว่าควรจะดำเนินการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์ความมีประโยชน์ของพืชที่ปลูกในพื้นที่ปนเปื้อนเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด และ การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การบำบัดเป็นทางเลือกที่จะปนเปื้อนเสียงดินที่มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าและมีสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตรกว่าการปฏิบัติอื่น ๆ
จำเป็นที่จะต้องจัดการชีวมวลที่ปนเปื้อนหลังการเก็บเกี่ยวและการค้นหาแหล่งพลังงานทดแทนใหม่ได้เปลี่ยนผลการวิจัยจากพืชที่กินได้หรือที่สวยงามทั่วไปสายพันธุ์ให้กับผู้ที่สามารถนำมาใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ น้ำมันละหุ่งโรงงาน (Ricinus communis L. ) เป็นที่เติบโตอย่างรวดเร็วของพืชที่มีการผลิตมวลชีวภาพสูงและเป็นphytoaccumulator ศักยภาพของโลหะหลาย เมื่อเร็ว ๆ นี้ในปีที่ผ่านมารัฐบาลของบราซิลได้รับการส่งเสริมการเพาะปลูกละหุ่งไบโอดีเซลและเอทานอลผลิต จุดมุ่งหมายของการทำงานในปัจจุบันคือการประเมินศักยภาพดูดซับของอาร์ communis L. และผลของการเติม organicmatter (พีทกับเค้กกรอง) ไปยังดินปนเปื้อนด้วยสารตกค้าง scrapmetal ที่มีโลหะหนักและโบรอน การทดลองประกอบด้วยการออกแบบบล็อกสุ่มสมบูรณ์ที่มีสองแหล่งที่มาของสารอินทรีย์และสี่อัตราการแก้ไขเพิ่มเติม (0, 20, 40 และ 80 มิลลิกรัมฮ่า-1 อินทรีย์คาร์บอน) การรักษาที่ถูกจำลองแบบสามครั้ง พืชน้ำมันละหุ่งเก็บเกี่ยว 74 วันหลังหยอดเมล็ด. ไม่มีการสะสมของโครเมียมนิกเกิล, แคดเมียมทองแดงตะกั่วหรือสังกะสีพบว่าในพืช แต่ความเข้มข้นของ B เพิ่มขึ้นไป626 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม 1 เมื่อนอกจากเค้กกรองน้ำมันละหุ่ง หน่อ นอกจากนี้พีลดลง 2.7 ปีเวลาที่จำเป็นสำหรับการกำจัดของ50% ของดินเนื้อหา B เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยการเพิ่มอินทรียวัตถุไม่. ปัจจัยที่โอนและดัชนีการเปลี่ยนแปลงค่าได้สำหรับ B กับพืชน้ำมันละหุ่งในปัจจุบันการศึกษาได้รับการเทียบได้กับสำหรับสายพันธุ์ที่ได้รับ hyperaccumulator แม้ว่าผลของเรามีแนวโน้มการศึกษาต่อไปควรจะดำเนินการเพื่อพิสูจน์ประโยชน์ของพืชที่ปลูกในพื้นที่ที่ปนเปื้อนเพื่อวัตถุประสงค์ในการฟื้นฟูและการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัชพืชเป็นทางเลือกที่เสียงไปในดิน เนื่องจากมีต้นทุนที่ลดลงและจะเพิ่มเติมสิ่งแวดล้อม
เป็นกันเองกว่าการปฏิบัติอื่น ๆ ต้องจัดการกับการปนเปื้อนน้ำหลังการเก็บเกี่ยวและ
ค้นหาแหล่งพลังงานใหม่ทดแทนได้เลื่อนผลงานวิจัยจากปกติกินได้หรือทิวทัศน์พืช
ชนิดที่สามารถใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ .