4. Results and discussion4.1. Compa

4. Results and discussion
4.1. Comparison of theoretical models for predicting fracture loci
Fig. 6 provides a schematic comparison of the theoretical estimate
of the fracture loci (FFL and SFFL) obtained from ductile
damage and void coalescence/growth models associated to crack
opening modes I and II (Sections 2.1 and 2.2) with the theoretical
estimates provided by fracture toughness based models with
values determined from double-notched test specimens loaded in
tension and plane torsion (Section 2.3).
As seen in Fig. 6, the fracture loci obtained from fracture toughness
tests in crack opening modes I and II (Eqs. (13) and (14)) are
represented in the principal strain space as two different ellipses
(ε = f(RI) and ε = f(RII)) with major axis along pure shear ε1 = −ε2
and minor axis along equal biaxial stretching ε1 = ε2. This allows
concluding thatthe slope ‘+1’ ofthe in-plane shear fracture forming
line (SFFL) associated to crack opening mode II and to the ductile
damage criterion based on the ratio of the shear stress to the effective
stress (Eq. (7)) exactly matches the slope of the derivative to

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4. ผล และการอภิปราย4.1. การเปรียบเทียบแบบจำลองทฤษฎีทำนายตำแหน่งอ่อนแอแตกหักรูป 6 แสดงการเปรียบเทียบการประเมินทฤษฎีแผนผังของตำแหน่งอ่อนแอแตกหัก (FFL และ SFFL) ได้รับจากเหนียวความเสียหายและ coalescence และเจริญเติบโตที่ยกเลิกรูปแบบที่เกี่ยวข้องจะแตกเปิดโหมด I และ II (หัวข้อ 2.1 และ 2.2) กับทฤษฎีการรุ่นที่มีคะแนนการประเมินโดยความเหนียวแตกหักค่าที่กำหนดจากตัวอย่างสองกรณีทดสอบโหลดในความตึงเครียดและระนาบบิด (หัวข้อ 2.3)เท่าที่เห็นในรูป 6 ตำแหน่งอ่อนแอแตกหักที่ได้รับจากความแข็งแกร่งของกระดูกทดสอบในโหมดเปิดแตก I และ II (Eqs (13) และ (14)) มีแสดงในพื้นที่สายพันธุ์หลักที่เป็นวงรีแตกต่างกันสอง(Ε = f(RI) และε = f(RII)) กับแกนหลักไปเฉือนบริสุทธิ์ ε1 = −ε2และแกนรองตาม biaxial เท่ากับ ε1 = ε2 นี้ช่วยให้สรุปที่ลาดชัน '+ 1' ของแรงเฉือนในระนาบรอยแตกขึ้นรูปบรรทัด (SFFL) เชื่อมโยงแตกเปิดโหมด II และการดัดเกณฑ์ความเสียหายตามอัตราส่วนของความเค้นเฉือนที่มีประสิทธิภาพความเครียด (Eq. (7)) ตรงกับความชันของอนุพันธ์เพื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4. ผลการค้นหาและการอภิปราย
4.1 เปรียบเทียบแบบจำลองทางทฤษฎีในการทำนายการแตกหักตำแหน่ง
รูป 6 มีการเปรียบเทียบแผนผังของประมาณการทางทฤษฎี
ของตำแหน่งการแตกหัก (FFL และ SFFL) ที่ได้จากการดัด
ความเสียหายและรูปแบบการเชื่อมต่อกัน / การเจริญเติบโตเป็นโมฆะเกี่ยวข้องจะแตก
เปิดโหมด I และ II (มาตรา 2.1 และ 2.2) กับทฤษฎีที่
ประมาณการไว้ให้โดยแตกหัก รุ่นที่ใช้กับ
ค่ากำหนดจากคู่หยักชิ้นทดสอบโหลดใน
ความตึงเครียดและแรงบิดระนาบ (มาตรา 2.3).
เท่าที่เห็นในรูป 6 ตำแหน่งแตกหักที่ได้รับจากการแตกหัก
การทดสอบในการเปิดร้าวโหมด I และ II (EQS. (13) และ (14)) เป็น
ตัวแทนในพื้นที่สายพันธุ์หลักสองจุดที่แตกต่างกัน
(ε = f (RI) และε = f (RII)) โดยมีแกนหลักพร้อมเฉือนบริสุทธิ์ε1 = -ε2
และแกนรองพร้อมแกนเท่ากับยืดε1 = ε2 นี้จะช่วยให้
การสรุป thatthe ลาด '1' ofthe In-Plane เฉือนแตกหักขึ้นรูป
สาย (SFFL) ที่เกี่ยวข้องจะแตกครั้งที่สองเปิดโหมดและดัด
เกณฑ์ความเสียหายตามอัตราส่วนของแรงเฉือนที่จะมีประสิทธิภาพ
ความเครียด (สม. (7) ) ตรงกับความลาดเอียงของอนุพันธ์กับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4 . ผลและการอภิปราย4.1 . การเปรียบเทียบแบบจำลองทางทฤษฎีทำนายหักตามลำดับภาพที่ 6 แสดงการเปรียบเทียบแผนผังของการประมาณเชิงทฤษฎีของแตกหักโลไซ ( ffl และ sffl ) ที่ได้จากอ่อนความเสียหายเป็นโมฆะรุ่นรวมตัว / การเจริญเติบโตที่เกี่ยวข้องกับแตกเปิดโหมด I และ II ( ส่วน 2.1 และ 2.2 ) กับ ทฤษฎีประเมินไว้ โดยรุ่นความเหนียวยึดกระดูกด้วยค่ากำหนดจากการทดสอบตัวอย่างสองหยักโหลดในแรงบิด และเครื่องบิน ( มาตรา 3 )ตามที่เห็นในรูปที่ 6 , ที่ได้รับจากการแตกหักของกระดูกทดสอบรอยแตก เปิดโหมด I และ II ( EQS . ( 13 ) และ ( 14 ) )แสดงในพื้นที่ที่แตกต่างกันสองสายพันธุ์หลักเป็นวงรี( ε = F ( ริ ) และε = F ( คน ) กับแกนใหญ่พร้อมเฉือนบริสุทธิ์ε 1 = −ε 2รองแกนตามความแข็งเท่ากับยืดε 1 = ε 2 นี้ช่วยให้สรุปได้ว่าชัน " + 1 " เฉือนในระนาบของรอยแตก การขึ้นรูปเส้น ( sffl ) ที่เกี่ยวข้องที่จะแตกเปิดโหมด 2 และการดัดเกณฑ์ความเสียหายขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของแรงเฉือนให้มีประสิทธิภาพความเครียด ( อีคิว ( 7 ) ตรงความชันของอนุพันธ์เพื่อ