The beliefs, values, perceptions, a

The beliefs, values, perceptions, and reported actions of seven early childhood teachers about the development of young children's creativity were examined in this phenomenological study. The sample was drawn from three Montessori and Reggio Emilia-inspired schools in the United States. Using possibility thinking (Cremin, Burnard, & Craft, 2006)--which was developed as a research-based pedagogy for nurturing children's creativity--to guide analysis of the teachers stated perspectives and practices, study results revealed three of possibility thinking's four core pedagogical philosophies. They were: valuing learner agency, knowing when to step back, and knowing when to step in and support children's learning. Three additional components emerged from the data analysis as necessary to the development of children's creativity: modeling creative behavior, understanding the creative process, and encouraging collaboration amongst students. These three findings may serve to augment the possibility thinking framework in future research and practice. Results also revealed that one school's culture in particular, as described by its teachers, served as an incubator for communication and collaboration across teaching teams, administrators, and parents, which the teachers saw as essential in nurturing children's creativity. Situating these findings in educational leadership literature led to the recognition that the team leadership model (Northouse, 2012), which is based upon interdependent teaching teams that collaborate extensively to achieve common goals, may best serve educational leaders who work in schools choosing to emphasize the development of young children's creativity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเชื่อ ค่านิยม ภาพลักษณ์ และรายงานการดำเนินการของเจ็ดครูปฐมวัยเกี่ยวกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กได้ตรวจสอบในการศึกษานี้ phenomenological ตัวอย่างที่มาจากสามบาและเรจจิโอเอมิเลียแรงบันดาลใจโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา ใช้คิดไปได้ (Cremin, Burnard และ หัตถกรรม 2006) - ซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นการสอนการวิจัยสำหรับ nurturing เด็กความคิดสร้างสรรค์ - ให้คำแนะนำของครูระบุมุมมองและแนวทางปฏิบัติ เปิดเผยผลการศึกษาของความคิด 4 หลักสอนปรัชญา พวกเขา: คะเนหน่วยผู้เรียน รู้เมื่อก้าวหลัง และรู้ว่าเมื่อถึงขั้นตอนใน และสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็ก คอมโพเนนต์เพิ่มเติมที่สามเกิดขึ้นจากการวิเคราะห์ข้อมูลตามความจำเป็นในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก: โมเดลพฤติกรรมสร้างสรรค์ การทำความเข้าใจกระบวนการสร้างสรรค์ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างนักเรียนด้วย พบสามเหล่านี้อาจเป็นการเพิ่มกรอบความคิดในการวิจัยในอนาคตและแนวทางปฏิบัติ ผลลัพธ์ยังเปิดเผยว่า วัฒนธรรมโรงเรียนหนึ่งโดยเฉพาะ เป็นทางของครู บริการเป็นการบ่มเพาะวิสาหกิจร่วมกันและติดต่อสื่อสารข้าม สอนทีม ผู้ดูแล ผู้ ปกครอง ที่เห็นครูเป็นสิ่งจำเป็นใน nurturing ความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก Situating เหล่านี้พบในวรรณคดีเป็นผู้นำทางการศึกษานำไปสู่การรู้ว่า โมเดลเป็นผู้นำทีม (Northouse, 2012), ซึ่งขึ้นอยู่กับทีมจัดสอนที่ทำงานร่วมกันอย่างกว้างขวางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน อาจดีที่สุดบริการผู้นำทางการศึกษาที่ทำงานในโรงเรียนที่ต้องเน้นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเชื่อค่านิยมการรับรู้และการกระทำรายงานของครูปฐมวัยเจ็ดเกี่ยวกับการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กได้รับการตรวจสอบในการศึกษาปรากฏการณ์นี้ กลุ่มตัวอย่างที่ถูกดึงออกมาจากสามมอนและ Reggio Emilia แรงบันดาลใจจากโรงเรียนในประเทศสหรัฐอเมริกา การใช้ความเป็นไปได้คิด (Cremin, Burnard, หัตถกรรม, 2006) - ซึ่งได้รับการพัฒนาเป็นการเรียนการสอนการวิจัยที่ใช้สำหรับการบำรุงความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก - เพื่อเป็นแนวทางในการวิเคราะห์ของครูกล่าวว่ามุมมองและการปฏิบัติผลการศึกษาพบสามของความเป็นไปได้คิดสี่หลัก ปรัชญาการสอน พวกเขาพบว่ามูลค่าหน่วยงานการเรียนรู้เมื่อจะย้อนกลับไปและเมื่อรู้ว่าขั้นตอนในการสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็ก สามส่วนประกอบเพิ่มเติมโผล่ออกมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่จำเป็นต่อการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก: การสร้างแบบจำลองพฤติกรรมสร้างสรรค์, การทำความเข้าใจกระบวนการสร้างสรรค์และส่งเสริมการทำงานร่วมกันในหมู่นักเรียน ทั้งสามค้นพบอาจเป็นไปได้ที่จะขยายกรอบความคิดในการวิจัยในอนาคตและการปฏิบัติ ผลยังพบว่าวัฒนธรรมหนึ่งในโรงเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามที่อธิบายไว้โดยครูที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์บ่มเพาะสำหรับสื่อสารและความร่วมมือในทีมการเรียนการสอนผู้บริหารและผู้ปกครองที่ครูเห็นว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการบำรุงความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก Situating การค้นพบนี้ในวรรณคดีผู้นำด้านการศึกษานำไปสู่​​การได้รับการยอมรับว่ารูปแบบความเป็นผู้นำของทีม (Northouse 2012) ซึ่งจะขึ้นอยู่กับทีมงานการเรียนการสอนการพึ่งพาซึ่งกันและกันที่ทำงานร่วมกันอย่างกว้างขวางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันที่ดีที่สุดอาจจะทำหน้าที่ผู้นำการศึกษาที่ทำงานในโรงเรียนเลือกที่จะเน้น พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเชื่อ ค่านิยม การรับรู้ และรายงานการกระทำของเจ็ดครูปฐมวัยเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยความคิดสร้างสรรค์มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาเชิงปรากฏการณ์วิทยานี้ การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปรียบเทียบสาม Reggio Emilia ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมอนเตสซอรี่ และโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา การใช้ความคิด ( cremin burnard & , ความเป็นไปได้ , งานฝีมือ2006 ) -- ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นการสอนโดยใช้วิจัยเป็นฐานเพื่อบ่มเพาะเด็กความคิดสร้างสรรค์ -- คู่มือการวิเคราะห์ของครู กล่าวว่า มุมมองและการปฏิบัติ ผลการศึกษาพบสามของความเป็นไปได้ของการสี่หลักคิดปรัชญา มีมูลค่าหน่วยการเรียนรู้ การรู้เมื่อจะก้าวถอยหลัง และเมื่อรู้ว่าขั้นตอนในการสนับสนุนเด็กการเรียนรู้ส่วนประกอบเพิ่มเติมสามโผล่ออกมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลเท่าที่จำเป็นเพื่อการพัฒนาเด็กความคิดสร้างสรรค์ : โมเดลพฤติกรรมสร้างสรรค์ ความเข้าใจ กระบวนการที่สร้างสรรค์ และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างนักศึกษา ทั้งสามผลการวิจัยอาจใช้เพื่อเพิ่มความเป็นไปได้ในการคิดกรอบในการวิจัย และการปฏิบัติในอนาคตผลการวิจัยยังพบว่าโรงเรียนหนึ่งของวัฒนธรรมโดยเฉพาะตามที่อธิบายไว้โดยครู , ทำหน้าที่เป็นตู้อบเพื่อการสื่อสารและความร่วมมือข้ามทีมสอน ผู้ปกครอง ผู้บริหาร และที่ครูเห็นเป็นสําคัญในการเลี้ยงดูเด็กของความคิดสร้างสรรค์situating พบเหล่านี้ในวรรณคดี ภาวะผู้นำทางการศึกษา ทำให้รับรู้ว่า นำทีมนางแบบ ( northouse 2012 ) ซึ่งขึ้นอยู่กับการสอนทีมงานที่ร่วมมือกันอย่างกว้างขวาง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันที่ดีที่สุดอาจจะให้ผู้นำทางการศึกษาที่ปฏิบัติงานอยู่ในโรงเรียนเลือกที่จะเน้นการพัฒนาเด็กปฐมวัยความคิดสร้างสรรค์