History Wat Arun was envisioned by

History
Wat Arun was envisioned by King Taksin in 1768. It is believed that after fighting his way out of Ayutthaya, which was taken over by a Burmese army at the time, he arrived at this temple just as dawn was breaking. He later had the temple renovated and renamed it Wat Chaeng, the Temple of the Dawn. It used to be the home of the Emerald Buddha, before the capital and Palace was moved to the other side of the river. This can now be seen at the Grand Palace.

The central prang was extended during the reign of Rama III (between 1824 and 1851), and is now one of the most visited sites in Thailand. It was also Rama III who added the decoration of the spires with porcelain, so that they glimmer in the sunshine.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติ
วัดอรุณมีจินตนาการ โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินใน 1768 เชื่อว่า หลังจากการต่อสู้ของเขาทางอยุธยา ซึ่งถูกใช้ โดยกองทัพพม่าในเวลา เขามาถึงที่วัดนี้เหมือนรุ่งถูกทำลาย เขาหลังวัดปรับปรุง และเปลี่ยนชื่อวัดแจ้ง วัดอรุณ มันใช้ของศาสดา ก่อนเมืองหลวงและพระราชวังถูกย้ายไปอีกด้านหนึ่งของแม่น้ำ ซึ่งตอนนี้สามารถดูได้ที่แกรนด์พาเลซได้

ปรางกลางถูกขยายในรัชสมัยของพระราม III (ระหว่าง 1824 1851), และเป็นหนึ่งในที่สุดของประเทศไทย เนื่องจากพระราม III ที่เพิ่มการตกแต่งยอดแหลมกับเครื่องเคลือบดินเผา เพื่อให้พวกเขาน้อยนิดในแสงแดด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติ
วัดอรุณเป็นจินตนาการโดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใน 1768. มันเป็นความเชื่อว่าหลังจากที่การต่อสู้ทางของเขาออกไปทางอยุธยาซึ่งถูกยึดครองโดยกองทัพพม่าในขณะที่เขามาถึงที่วัดนี้เช่นเดียวกับรุ่งอรุณถูกทำลาย หลังจากนั้นเขาได้วัดได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้ง, วัดอรุณ ที่เคยเป็นบ้านของพระศรีรัตนศาสดารามก่อนที่เมืองหลวงและพระราชวังถูกย้ายไปยังอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ นี้ขณะนี้คุณสามารถมองเห็นได้ในพระบรมมหาราชวังพระปรางค์กลางได้ขยายในช่วงรัชสมัยของพระราม (ระหว่าง 1824 และ 1851) และเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่เข้าชมมากที่สุดในประเทศไทย มันก็เป็นพระรามที่เพิ่มการตกแต่งของยอดแหลมที่มีพอร์ซเลนเพื่อให้พวกเขาริบหรี่ในแสงแดด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติศาสตร์
วัดอรุณเป็น envisioned โดยพระเจ้าตากสินใน 1768 . เชื่อกันว่า หลังจากการต่อสู้ทางของเขาออกจากพระนครศรีอยุธยา ซึ่งถูกยึดโดยกองทัพพม่าในเวลานั้นเขามาถึงวัดนี้ก็เช้าพอดี ต่อมาเขาได้ปรับปรุงใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดวัดแจ้ง วัดอรุณ มันเคยเป็นบ้านของพระแก้วมรกต ,ก่อนที่เมืองหลวงและวังถูกย้ายไปยังด้านอื่น ๆของแม่น้ำ นี้จะเห็นตำหนักใหญ่

พระปรางค์กลางที่ขยายในระหว่างรัชสมัยของพระราม 3 ( ระหว่าง 1824 แล้ว 1851 ) และเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่เข้าชมมากที่สุดในไทย มันก็ยัง พระราม 3 ใครเป็นคนตกแต่งของยอดแหลมด้วยพอร์ซเลน เพื่อให้พวกเขาริบหรี่
ในแสงแดด