เบกกิ้งโซดา (baking soda) หรือทางภา

เบกกิ้งโซดา (baking soda) หรือทางภาษาเคมีจะเรียกว่า "โซเดียมไบคาร์บอเนต"หรือเรียกสั้นๆว่าโซดาทำขนม เป็นส่วนผสมในผงฟู แต่ใส่ในขนมที่มีส่วนผสมค่อนข้างเป็นกรด เช่น เค้กที่ใส่ผลไม้ หรือผลไม้รสเปรี้ยว เค้กกล้วยหอม แต่ใส่มากไปก็ไม่ดีค่ะ เพราะจะทำให้มีรสเฝื่อนได้

ส่วนผงฟู หรือ baking powder เป็นสารที่ทำให้เกิดการขึ้นฟูมีส่วนผสมระหว่างเบกกิ้งโซดากับกรดและแป้ง (ทำหน้าที่ดูดความชื้นไม่ทำให้ผงฟูจับกันเป็นก้อน) ซึ่งระหว่างปฏิกิริยาจะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งส่วนนี้จะทำให้ขนมฟู และเนื้อนุ่ม
ผงฟูแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
1. ผงฟูที่ให้ปฏิกิริยารวดเร็ว หรือผงฟูกำลังหนึ่ง หรือ single acting ผงฟูชนิดนี้จะผลิตแก๊สอย่างรวดเร็วในระหว่างที่ผลิตภัณฑ์รอการเข้าอบ ดังนั้นการใช้ผงฟูประเภทนี้ต้องผสมส่วนผสมอย่างรวดเร็ว และนำเข้าอบทันทีที่ผสมเสร็จ ไม่เช่นนั้นจะเกิดการสูญเสียก๊าซที่จะเกิดขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจะขึ้นฟูไม่ดี
2. ผงฟูที่ใช้ปฏิกิริยาช้า หรือผงฟูกำลังสอง หรือ double acting จะประกอบด้วยสองส่วนคือ ส่วนที่ให้ปฏิกิริยาช้า กับเร็ว (เกิดก๊าซทั้งตอนผสม และตอนเมื่อได้รับความร้อนจากตู้อบ) โดยส่วนมาผูประกอบการจะนิยมใช้ตัวนี้ เพราะไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเหมือนแบบผงฟูกำลังหนึ่ง

ผลลัพธ์ (ดัตช์) 1:

เบกกิ้งโซดา (bicarbonaat) หรือทางภาษาเคมีจะเรียกว่า "โซเดียมไบคาร์บอเนต" หรือเรียกสั้นๆว่าโซดาทำขนม เป็นส่วนผสมในผงฟู แต่ใส่ในขนมที่มีส่วนผสมค่อนข้างเป็นกรด เช่น เค้กที่ใส่ผลไม้ หรือผลไม้รสเปรี้ยว เค้กกล้วยหอม เพราะจะทำให้มีรสเฝื่อนได้ ↑
ส่วนผงฟู หรือ ซึ่งระหว่างปฏิกิริยาจะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นสารที่ทำให้เกิดการขึ้นฟูมีส่วนผสมระหว่างเบกกิ้งโซดากับกรดและแป้ง (ทำหน้าที่ดูดความชื้นไม่ทำให้ผงฟูจับกันเป็นก้อน) bakpoeder และเนื้อนุ่ม ↑ผงฟูแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
1. ผงฟูที่ให้ปฏิกิริยารวดเร็ว หรือผงฟูกำลังหนึ่ง หรือ enkel handelt ผงฟูชนิดนี้จะผลิตแก๊สอย่างรวดเร็วในระหว่างที่ผลิตภัณฑ์รอการเข้าอบ ดังนั้นการใช้ผงฟูประเภทนี้ต้องผสมส่วนผสมอย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นจะเกิดการสูญเสียก๊าซที่จะเกิดขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจะขึ้นฟูไม่ดี ↑2. ผงฟูที่ใช้ปฏิกิริยาช้า หรือผงฟูกำลังสอง หรือ dubbele handelt จะประกอบด้วยสองส่วนคือ ส่วนที่ให้ปฏิกิริยาช้า กับเร็ว (เกิดก๊าซทั้งตอนผสม และตอนเมื่อได้รับความร้อนจากตู้อบ) โดยส่วนมาผูประกอบการจะนิยมใช้ตัวนี้

ผลลัพธ์ (ดัตช์) 2:

เบ ก กิ้ ง โซดา (zuiveringszout) หรือ ทาง ภาษา เคมี จะ เรียก ว่า เป็น ส่วนผสม ใน ผงฟู เช่น เค้ก ที่ ใส่ ผล ไม้ หรือ ผล ไม้ รส เปรี้ยว เค้ก กล้วย หอม แต่ ใส่ มาก ไป ก็ ไม่ ดี ค่ะ เพราะ จะ ทำให้ มี รส เฝื่อน ได้ส่วน ผงฟู หรือ bakpoeder ซึ่ง ส่วน นี้ จะ ทำให้ ขนม ฟู และ เนื้อ นุ่มผงฟู แบ่ง เป็น 2 แบบ คือ1. ผงฟู ที่ ให้ ปฏิกิริยา รวดเร็ว หรือ ผงฟู กำลัง หนึ่ง หรือ enkelwerkend และ นำ เข้า อบ ทันที ที่ ผสมเสร็จ ผลิตภัณฑ์ ที่ ออก มา จะ ขึ้น ฟู ไม่ ดี2. ผงฟู ที่ ใช้ ปฏิกิริยา ช้า หรือ ผงฟู กำลัง สอง หรือ dubbelwerkende จะ ประกอบด้วย สอง ส่วน คือ ส่วน ที่ ให้ ปฏิกิริยา ช้า กับ เร็ว (เกิด ก๊าซ ทั้ง ตอน ผสม และ ตอน เมื่อ ได้ รับ ความ ร้อน จาก ตู้ อบ)

ผลลัพธ์ (ดัตช์) 3:

เบกกิ้งโซดา (zuiveringszout) หรือทางภาษาเคมีจะเรียกว่า "โซเดียมไบคาร์บอเนต"หรือเรียกสั้นๆว่าโซดาทำข เป็นส่วนผสมในผงฟู แต่ใส่ในขนมที่มีส่วนผสมค่อนข้างเป็นกรด เช่น เค้กที่ใส่ผลไม้ หรือผลไม้รสเปรี้ยว เค้กกล้วยหอมเพราะจะทำให้มีรสเฝื่อนได้

ส่วนผงฟู หรือ bakpoeder เป็นสารที่ทำให้เกิดการขึ้นฟูมีส่วนผสมระหว่ (ทำหน้าที่ดูดความชื้นไม่ทำให้ผงฟูจับกันเป็น ซึ่งระหว่างปฏิกิริยาจะทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนและเนื้อนุ่ม
ผงฟูแบ่งเป็น 2 แบบ คือ
1.ผงฟูที่ให้ปฏิกิริยารวดเร็ว หรือผงฟูกำลังหนึ่ง หรือ enkelwerkende ผงฟูชนิดนี้จะผลิตแก๊สอย่างรวดเร็วในระหว่าง ดังนั้นการใช้ผงฟูประเภทนี้ต้องผสมส่วนผสมอยไม่เช่นนั้นจะเกิดการสูญเสียก๊าซที่จะเกิดขึ ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาจะขึ้นฟูไม่ดี
2.ผงฟูที่ใช้ปฏิกิริยาช้า หรือผงฟูกำลังสอง หรือ dubbelwerkende จะประกอบด้วยสองส่วนคือ ส่วนที่ให้ปฏิกิริยาช้า กับเร็ว (เกิดก๊าซทั้งตอนผสม และตอนเมื่อได้รับความร้อนจากตู้อบ) โดยส่วนมาผูประกอบการจะนิยมใช้ตัวนี้