Sorghum is the fifth major cereal c

Sorghum is the fifth major cereal crop in the world after wheat, rice, corn and barley
(Awika and Rooney, 2004). The world sorghum production was 59 million metric tones
in 2003 (FAO, 2004) with the United States being the largest producer and exporter,
accounting for 20 % of world production (Awika and Rooney, 2004). In the United
States, grain sorghum is mainly utilised for animal feed (Lochte-Watson, Weller and
Jackson, 2000). In contrast, sorghum is consumed as a staple by millions of people in
Asia and Africa (Ratnavathi and Sashidhar, 1998) with more than 35 % of the crop grown
directly for human consumption (Awika and Rooney, 2004).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้าวฟ่างเป็นพืชธัญพืชหลักห้าในโลกหลังจากข้าวสาลี ข้าว ข้าวโพด และข้าวบาร์เลย์(Awika และ Rooney, 2004) การผลิตข้าวฟ่างโลกถูกโทนวัด 59 ล้านใน 2003 (FAO, 2004) กับสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออก ที่ใหญ่ที่สุดบัญชี 20% ของโลกผลิต (Awika และ Rooney, 2004) ในที่สหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่มีใช้เมล็ดข้าวฟ่างในอาหารสัตว์ (Lochte-วัตสัน เวลเลอร์ และJackson, 2000) ในทางตรงกันข้าม ใช้เป็นตั๋วเย็บกระดาษข้าวฟ่าง โดยล้านคนเอเชียและแอฟริกา (Ratnavathi และ Sashidhar, 1998) มากกว่า 35% ของพืชที่ปลูกสำหรับมนุษย์บริโภค (Awika และ Rooney, 2004) โดยตรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้าวฟ่างเป็นห้าธัญพืชที่สำคัญในโลกหลังจากที่ข้าวสาลีข้าวข้าวโพดและข้าวบาร์เลย์
(Awika และรูนีย์, 2004) การผลิตข้าวฟ่างโลกเป็น 59,000,000 เมตริกตัน
ในปี 2003 (FAO, 2004) กับสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดและผู้ส่งออก
คิดเป็น 20% ของการผลิตทั่วโลก (Awika และรูนีย์, 2004) ในประเทศ
สหรัฐอเมริกา, ข้าวฟ่างถูกนำมาใช้เป็นหลักสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ (Lochte-วัตสันเวลเลอร์และ
แจ็คสัน, 2000) ในทางตรงกันข้ามข้าวฟ่างมีการบริโภคเป็นหลักโดยล้านคนใน
เอเชียและแอฟริกา (Ratnavathi และ Sashidhar, 1998) ที่มีมากกว่า 35% ของพืชที่ปลูก
โดยตรงสำหรับการบริโภคของมนุษย์ (Awika และรูนีย์, 2004)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้าวฟ่างเป็นห้าธัญพืชรายใหญ่ที่สุดในโลก หลังจาก ข้าวสาลี ข้าว ข้าวโพด และข้าว
( awika และรูนีย์ , 2004 ) การผลิตข้าวฟ่างโลกเป็น 59 ล้านตันระบบเมตริก
ในปี 2003 ( FAO , 2004 ) กับ สหรัฐอเมริกา เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดและส่งออก
บัญชีสำหรับ 20% ของการผลิตทั่วโลก ( awika และรูนีย์ , 2004 ) ในสหรัฐอเมริกา
สหรัฐอเมริกาข้าวฟ่างเมล็ดส่วนใหญ่จะใช้สำหรับเป็นอาหารสัตว์ ( Lochte วัตสัน เวลเลอร์และ
แจ็คสัน , 2000 ) ในทางตรงกันข้าม ข้าวฟ่างมีการบริโภคเป็นหลักโดยผู้คนนับล้านในเอเชียและแอฟริกา (
ratnavathi และ sashidhar , 1998 ) มากกว่า 35% ของพืชที่ปลูกโดยตรงสำหรับการบริโภคของมนุษย์ ( awika

และรูนีย์ , 2004 )