More than 700 species of Colletotri

More than 700 species of Colletotrichum comprise the genus
Colletotrichum corda [36] having similar morphological characteristics
which may be endophytic, pathogenic and saprophytic
in nature [16,30,32]. Tea plant Camellia sinensis (L.)
O. Kuntze is a cash crop in North-East India and is reported
to harbor by different sp of endophytic fungi. Colletotrichum
sp., which is a well known pathogen causing serious disease
‘anthracnose’ in some crops like cereals, coffee and legumes
[2,17] and on tropical fruits like banana, avocado, papaya,
coffee, passion fruits and others [24] and is very frequently
isolated as endophytic fungus from the tissues of healthy
leaves and branches of tea plants [34,35]. Apart from tea
plant, Colletotrichum gloeosporioides was also commonly isolated
as endophytic fungus from a range of plant species
[38,4,6,30,10,29].
Initially Colletotrichum species were identified based on
morphological features like optimal temperature for growth
of the fungi, growth rate, colony color, size and shape of conidia,
presence or absence setae [51,46]. Sole morphological criteria
are not adequate for proper identification of
Colletotrichum species because of environmental influences
on morphological stability and existence of intermediate form
[30], which led to focus on molecular techniques that provided
alternative method for taxonomic studies, and, are important
tools in solving the problems for species delimitation [20]. With
the help of morphology and multilocus phylogeny many Colletotrichum
species have been accurately identified [44,31,55].
For successful identification of the Colletotrichum species,
molecular phylogeny with combination of morphological and
cultural characteristics, physiology and pathogenicity tests
were suggested [7,12]. Internal transcribed spacer (ITS) region
which is present between the smaller and larger subunits of
ribosomal DNA (rDNA) is recently used as an identification
and detection tool for the fungi [33,11] and for Colletotrichum
sp. [9].
Genetic variability within the species or among the isolates
of a species has been studied since past decades with different
molecular markers like Restriction Fragment Length Polymorphism
[3], simple sequence repeat [18], inter simple sequence
repeat [56], amplified fragment length polymorphism [52] and
Random Amplified Polymorphic DNA [40]. In our studies
we also focused our attention on genetic diversity of endophytic
Colletotrichum sp. which exhibited distinct morphological
characteristics. Due to some advantages of RAPD marker
like simple handling nature, experimental conditions are very
simple, do not require species specific probe libraries or
hybridization step [50] and its rapid, quick and accurate result,
we selected RAPD markers in our research experiment.
The objective of our study was to isolate the endophytic
fungi from tea plant, to study their morphological characteristics
and variations, to identify them and to analyze their
genetic variations with molecular marker.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มากกว่า 700 สายพันธุ์ Colletotrichum ประกอบด้วยสกุลมีลักษณะสัณฐานคล้าย corda Colletotrichum [36]ซึ่งอาจทำให้เกิดโรค และ saprophytic, endophyticในธรรมชาติ [16,30,32] โรงงานชา Camellia sinensis (L.)โอ Kuntze เป็นพืชในอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ และมีรายงานการท่าเรือ โดย sp แตกต่างกันของเชื้อ endophytic Colletotrichumsp., ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงทำให้เชื้อโรคที่รู้จักกันดีanthracnose ในบางพืชเช่นธัญพืช กาแฟ และพืชตระกูลถั่ว[2,17] และ ในผลไม้เช่นกล้วย อะโวคาโด มะละกอกาแฟ ผลไม้เสาวรส และอื่น ๆ [24] และเป็นบ่อยมากแยกเป็นเชื้อ endophytic จากเนื้อเยื่อของสุขภาพใบและกิ่งก้านของพืชชา [34,35] นอกจากชาพืช Colletotrichum gloeosporioides ก็มักแยกเป็นเชื้อ endophytic จากหลากหลายพันธุ์พืช[38,4,6,30,10,29]เริ่มต้นด้วยสายพันธุ์ Colletotrichum ถูกระบุอิงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตสัณฐานสิ่งเชื้อรา อัตราการเติบโต อาณานิคมสี ขนาด และรูปร่างของ conidiaมีหรือไม่มีภาพกรอง [51,46] เกณฑ์สัณฐานแต่เพียงผู้เดียวไม่เพียงพอสำหรับการระบุที่เหมาะสมColletotrichum พันธุ์เนื่องจากอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมสัณฐานความมั่นคงและดำรงอยู่ของแบบฟอร์มกลาง[30], ซึ่งนำไปสู่เน้นเทคนิคโมเลกุลที่ให้วิธีอื่นสำหรับการศึกษาอนุกรมวิธาน และ สำคัญเครื่องมือในการแก้ปัญหาสำหรับการกำหนดเขตพันธุ์ [20] ด้วยความช่วยเหลือของสัณฐานวิทยาและ multilocus phylogeny Colletotrichum หลายสายพันธุ์ได้รับการระบุอย่างถูกต้อง [44,31,55]สำหรับการระบุพันธุ์ Colletotrichum ประสบความสำเร็จphylogeny โมเลกุล ด้วยชุดของสัณฐาน และลักษณะทางวัฒนธรรม การทดสอบสรีรวิทยาและ pathogenicity อยู่มาแนะนำ [7,12] ภูมิภาคภายในศัพท์ spacer (ของ)ซึ่งไม่อยู่ระหว่างโปรแกรมมีขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ของเมื่อเร็ว ๆ นี้มีใช้ดีเอ็นเอ ribosomal (rDNA) เป็นการระบุและเครื่องมือตรวจหาเชื้อรา [33,11] และ Colletotrichumsp. [9]ความแปรปรวนทางพันธุกรรมภาย ในสายพันธุ์ หรือ ในการแยกพันธุ์ได้รับการศึกษาตั้งแต่ทศวรรษด้วยแตกต่างกันเครื่องหมายโมเลกุลเช่นความแตกต่างของความยาวส่วนจำกัด[3], [18] ทำซ้ำลำดับ ลำดับอินเตอร์ทำซ้ำ [56], ขยายความแตกต่างความยาวส่วน [52] และสุ่มขยายดีเอ็นเอ Polymorphic [40] ในการศึกษาของเราเรายังมุ่งเน้นความสนใจของเราพันธุกรรม endophyticColletotrichum sp.ซึ่งจัดแสดงระดับสัณฐานลักษณะ เนื่องจากบางข้อได้เปรียบของเครื่องหมายอาร์เอพีดีเช่นหยิบธรรมชาติ ทดลองมีเงื่อนไขมากง่าย ไม่ต้องใช้สายพันธุ์โพรบเฉพาะไลบรารี หรือขั้นตอนการ hybridization [50] และผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ รวดเร็วเราสามารถเลือกเครื่องหมาย RAPD ในการทดลองวิจัยของเราวัตถุประสงค์ของการศึกษาของเราคือการ แยกการ endophyticเชื้อราจากโรงงานชา ศึกษาลักษณะสัณฐานของพวกเขาและการเปลี่ยน แปลง การระบุไว้ และ การวิเคราะห์ของพวกเขาการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม มีโมเลกุลเครื่องหมาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มากกว่า 700 สายพันธุ์ของเชื้อรา Colletotrichum ประกอบด้วยประเภท
Colletotrichum Corda [36] มีลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่คล้ายกัน
ซึ่งอาจจะเป็นเอนโดไฟท์, ที่ทำให้เกิดโรคและ saprophytic
ในธรรมชาติ [16,30,32] ชาพืช Camellia sinensis ( L. )
ทุม Kuntze เป็นพืชเศรษฐกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียและมีการรายงาน
ไปยังท่าเรือโดย SP ที่แตกต่างกันของเชื้อราเอนโดไฟท์ Colletotrichum
sp. ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่รู้จักกันดีก่อให้เกิดโรคร้ายแรง
'แอนแทรกโนในพืชบางอย่างเช่นธัญพืช, เครื่องชงกาแฟและพืชตระกูลถั่ว
[2,17] และผลไม้เมืองร้อนเช่นกล้วยอะโวคาโด, มะละกอ,
กาแฟผลไม้และอื่น ๆ ความรัก [24] และบ่อยมาก
แยกเป็นเชื้อราเอนโดไฟท์จากเนื้อเยื่อของสุขภาพ
ใบและกิ่งของพืชชา [34,35] นอกเหนือจากชา
พืชเชื้อรา Colletotrichum ยังถูกแยกกันทั่วไป
ว่าเป็นเชื้อราเอนโดไฟท์จากช่วงของสายพันธุ์พืช
[38,4,6,30,10,29].
สายพันธุ์ Colletotrichum ตอนแรกถูกระบุขึ้นอยู่กับ
ลักษณะทางสัณฐานเช่นอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโต
ของ เชื้อราอัตราการเจริญเติบโตสีอาณานิคมขนาดและรูปร่างของสปอร์,
มีหรือไม่มี setae [51,46] เกณฑ์ก้าน แต่เพียงผู้เดียว
ไม่ได้เพียงพอสำหรับบัตรประจำตัวที่เหมาะสมของ
Colletotrichum ชนิดเพราะอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม
ต่อเสถียรภาพทางสัณฐานวิทยาและการดำรงอยู่ของแบบฟอร์มกลาง
[30] ซึ่งนำไปสู่การเน้นเทคนิคโมเลกุลที่ให้
วิธีทางเลือกสำหรับการศึกษาอนุกรมวิธานและมีความสำคัญ
เครื่องมือในการแก้ ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับการขยายพันธุ์การปักปันเขต [20] ด้วย
ความช่วยเหลือของลักษณะทางสัณฐานวิทยาและ Multilocus เชื้อชาติหลาย Colletotrichum
สายพันธุ์ได้รับการระบุอย่างถูกต้อง [44,31,55].
สำหรับบัตรประจำตัวที่ประสบความสำเร็จของสายพันธุ์ Colletotrichum,
เชื้อชาติโมเลกุลกับการรวมกันของลักษณะทางสัณฐานวิทยาและ
ลักษณะทางวัฒนธรรมสรีรวิทยาและก่อให้เกิดโรคการทดสอบ
ได้รับการแนะนำ [7 12] คัดลอกภายใน spacer (ITS) ภูมิภาค
ที่มีอยู่ระหว่างหน่วยย่อยขนาดเล็กและขนาดใหญ่ของ
ดีเอ็นเอไรโบโซม (rDNA) ถูกนำมาใช้เมื่อเร็ว ๆ นี้ในฐานะที่เป็นบัตรประจำตัว
เครื่องมือและการตรวจสอบสำหรับเชื้อรา [33,11] และ Colletotrichum
SP [9].
ความแปรปรวนทางพันธุกรรมภายในชนิดหรือในหมู่เชื้อ
ของสายพันธุ์ได้รับการศึกษามาตั้งแต่ทศวรรษที่ผ่านมาที่มีแตกต่างกัน
โมเลกุลเช่นข้อ จำกัด Fragment Length Polymorphism
[3] ซ้ำง่ายลำดับ [18] ระหว่างลำดับที่เรียบง่าย
ซ้ำ [56] ขยายระยะเวลาออกเป็นชิ้น ๆ ความแตกต่าง [52] และ
สุ่ม amplified Polymorphic DNA [40] ในการศึกษาของเรา
นอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นความสนใจของเราเกี่ยวกับความหลากหลายทางพันธุกรรมของเอนโดไฟท์
Colletotrichum SP ซึ่งแสดงลักษณะทางสัณฐานวิทยาที่แตกต่างกัน
ลักษณะ เนื่องจากประโยชน์บางส่วนของเครื่องหมายดีเอ็นเอ
เหมือนธรรมชาติการจัดการที่ง่ายและเงื่อนไขการทดลองมีความ
เรียบง่ายไม่จำเป็นต้องมีสายพันธุ์ที่ห้องสมุดสอบสวนที่เฉพาะเจาะจงหรือ
ขั้นตอนการผสมข้ามพันธุ์ [50] อย่างรวดเร็วและผลรวดเร็วและถูกต้องของ
เราเลือกเครื่องหมายดีเอ็นเอในการทดลองวิจัยของเรา.
วัตถุประสงค์ของการศึกษาของเราคือการแยกเอนโดไฟท์
เชื้อราจากโรงน้ำชาเพื่อศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาของพวกเขา
และรูปแบบในการระบุพวกเขาและการวิเคราะห์ของพวกเขา
การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีเครื่องหมายโมเลกุล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มากกว่า 700 ชนิดของพืชชนิด ประกอบด้วยจีวร corda [ 36 ] มีลักษณะสัณฐานคล้ายซึ่งอาจเป็นราก่อโรคโดยกินสิ่งที่เน่าเปื่อย ,ในธรรมชาติ [ 16,30,32 ] โรงงานชา Camellia ไซแนนซิส ( L . ). นอกจากหญ้าปากควายเป็นพืชในอินเดียเหนือ ตะวันออก และ รายงานท่าเรือโดย SP ที่แตกต่างกันของราเอนโดไฟต์ที่แยก . จีวรsp . ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคร้ายแรงที่รู้จักกันดี" โรค " ในพืชบางชนิดเช่นถั่วและธัญพืช กาแฟ[ 2,17 ] และผลไม้เขตร้อน เช่น กล้วย มะละกอ อะโวคาโดกาแฟ เสาวรส และคนอื่น ๆ [ 24 ] และเป็นบ่อยมากราเอนโดไฟต์ที่แยกเป็นเชื้อราจากเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดีกิ่งใบของชาพืช [ 34,35 ] นอกจากชาพืช , Colletotrichum gloeosporioides ยังแยกปกติเป็นเชื้อราเอนโดไฟท์จากช่วงของสายพันธุ์พืช[ 38,4,6,30,10,29 ]โดยระบุตามชนิดชนิดคุณสมบัติทางอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโต เช่นของเชื้อรา อัตราการเจริญเติบโตของโคโลนี สี ขนาด และรูปร่างของโคนิเดีย ,การแสดงตนหรือเส้นขาด 51,46 ] แต่เพียงผู้เดียวของเกณฑ์ไม่เพียงพอสำหรับการกำหนดที่เหมาะสมจีวรชนิดเพราะอิทธิพลสิ่งแวดล้อมเสถียรภาพทางสัณฐานวิทยาและการดำรงอยู่ของรูปแบบกลาง[ 30 ] ซึ่งนำไปสู่การมุ่งเน้นเทคนิคโมเลกุลที่ให้วิธีทางเลือกสำหรับการศึกษาการศึกษา และ เป็นสำคัญเครื่องมือในการแก้ปัญหาชนิดจำนวน [ 20 ] กับความช่วยเหลือของสัณฐานวิทยาและ multilocus ระบบเชื้อชาติหลายชนิดชนิดได้รับถูกต้องระบุ [ 44,31,55 ]สำหรับประชาชนที่ประสบความสําเร็จของจีวรชนิดระบบเชื้อชาติ ด้วยการรวมกันของลักษณะทางสัณฐานวิทยาและโมเลกุลลักษณะทางวัฒนธรรม สรีรวิทยาและการทดสอบได้แนะนำ [ 7,12 ] ภายในและ spacer ( ITS ) ภูมิภาคซึ่งอยู่ระหว่างหน่วยย่อยขนาดเล็กและขนาดใหญ่ของไรโบโซมอลดีเอ็นเอ ( rDNA ) เมื่อเร็ว ๆนี้ใช้เป็นบัตรประจำตัวและการตรวจสอบเครื่องมือสำหรับเชื้อรา Colletotrichum 33,11 [ ] และsp . [ 9 ]การผันแปรทางพันธุกรรมภายในสปีชีส์ของเชื้อหรือของสายพันธุ์ มีการศึกษาตั้งแต่ทศวรรษที่ผ่านมามีแตกต่างกันเครื่องหมายโมเลกุลที่ชอบการ fragment length polymorphism[ 3 ] [ 18 ] ง่ายทำซ้ำลำดับ , ลำดับแบบอินเตอร์ย้ำ [ 56 ] , amplified fragment length polymorphism [ 52 ] และAmplified Polymorphic DNA [ 40 ] ในการศึกษาของเรานอกจากนี้เรายังมุ่งเน้นความสนใจของเราในความหลากหลายของราเอนโดไฟต์Colletotrichum sp . มีลักษณะที่แตกต่างกันลักษณะ เนื่องจากข้อดีของ RAPD markerเช่นลักษณะการจัดการที่ง่ายและเงื่อนไขการทดลองมากง่าย , ไม่ต้องใช้ชนิดที่เฉพาะเจาะจงตรวจสอบห้องสมุดหรือทำขั้นตอน [ 50 ] และอย่างรวดเร็ว ผลที่รวดเร็วและแม่นยำเราเลือกเครื่องหมายอาร์เอพีดีในการทดลองวิจัยของเรามีวัตถุประสงค์เพื่อแยกราเอนโดไฟต์เชื้อราจากพืชชา เพื่อศึกษาลักษณะของพวกเขาและรูปแบบเพื่อระบุและวิเคราะห์ของพวกเขาการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมด้วยเครื่องหมายโมเลกุล