Writing styleYou do not have to be

Writing style

You do not have to be an expert in linguistics to make good translations. If you know your target language well, you can usually hear in your head whether the sentence sounds correct in your translation.

Your translation should not try to duplicate the word order or grammatical construction used in the source language unless it is also correct in your target language. For example, some languages put the verb (the "doing word") at the beginning of a sentence, some in the middle and some at the very end.

You do not have to use all the words from your source material for translation if your target language can cope without them. For example, we may say in English "The ship sank lower in the water", whereas in another language the words "in the water" may be unnecessary because the words for "sink" in relation to "ship" already includes the idea of "water".
Also, do not be afraid of using more words in your translation than in the original. Although in journalism you should aim to keep your sentences short and crisp, this must not be allowed to interfere with the clarity of the ideas you are trying to communicate.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลักษณะการเขียนคุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์เพื่อการแปลที่ดี ถ้าคุณรู้ภาษาเป้าหมายของคุณดี คุณสามารถมักจะได้ยินในหัวของคุณว่า ประโยคเสียงที่ถูกต้องในการแปลของคุณคำแปลควรพยายามทำซ้ำคำสั่งหรือโครงสร้างไวยากรณ์ที่ใช้ในภาษาต้นฉบับก็ยังถูกต้องของภาษาเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น บางภาษาวางคำกริยา ("ทำ word) ที่จุดเริ่มต้นของประโยค บางตรงกลาง และบางที่สุดคุณไม่จำเป็นต้องใช้ทุกคำจากวัสดุของแหล่งที่มาสำหรับการแปลภาษาของเป้าหมายสามารถรับมือไม่ได้ ตัวอย่างเช่น เราอาจพูดในภาษาอังกฤษ "เรือจมลงในน้ำ" ในขณะที่ภาษาอื่น คำว่า "ในน้ำ" อาจไม่จำเป็นเนื่องจากเป็นคำสำหรับ "จม" ในความสัมพันธ์กับ "เรือ" รวมความคิดของ "น้ำ"นอกจากนี้ ไม่ต้องกลัวของการใช้คำศัพท์ในการแปลมากกว่าเดิม แม้ว่าในวารสารศาสตร์ที่คุณควรมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประโยคของคุณสั้น และคมชัด นี้ไม่อนุญาตจะรบกวนความชัดเจนของความคิดที่คุณกำลังพยายามจะสื่อสาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สไตล์การเขียนของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ที่จะทำให้การแปลที่ดี ถ้าคุณรู้ดีภาษาเป้าหมายของคุณคุณจะสามารถได้ยินเสียงในหัวของคุณไม่ว่าจะเป็นประโยคที่ว่าเสียงที่ถูกต้องในการแปลของคุณ. การแปลของคุณไม่ควรพยายามที่จะทำซ้ำคำสั่งหรือการก่อสร้างไวยากรณ์ที่ใช้ในภาษาต้นฉบับเว้นแต่มันก็ยังเป็นที่ถูกต้องในเป้าหมายของคุณ ภาษา. ตัวอย่างเช่นบางภาษาใส่คำกริยา ( "ผู้ทำคำว่า") ที่จุดเริ่มต้นของประโยคบางที่อยู่ตรงกลางและบางส่วนที่ส่วนท้ายสุด. คุณจะได้ไม่ต้องใช้คำพูดทั้งหมดจากแหล่งข้อมูลของคุณสำหรับการแปลถ้าคุณ ภาษาเป้าหมายสามารถรับมือโดยที่พวกเขา ตัวอย่างเช่นเราอาจจะพูดในภาษาอังกฤษ "เรือจมลงต่ำกว่าในน้ำ" ในขณะที่ในภาษาอื่นคำว่า "ในน้ำ" อาจจะไม่จำเป็นเพราะคำว่า "อ่าง" ในความสัมพันธ์กับ "เรือ" อยู่แล้วรวมถึงความคิดของ "น้ำ". นอกจากนี้ไม่ต้องกลัวของการใช้คำมากขึ้นในการแปลของคุณมากกว่าเดิม แม้ว่าในการสื่อสารมวลชนที่คุณควรมีจุดมุ่งหมายที่จะให้ประโยคของคุณสั้นและคมชัดนี้จะต้องไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความชัดเจนของความคิดที่คุณกำลังพยายามที่จะสื่อสาร