Human rights concerns[edit]Sweatsho

Human rights concerns[edit]
Sweatshops[edit]
On August 16, 2011, a Brazil television show called A Liga (of the Bandeirantes TV network) accused the company of using suppliers who were running sweatshops for their outsourced production.[28] On August 17, 2011, the Regional Superintendency of Labour and Employment of São Paulo, Brazil, closed a factory that produced Zara's clothing for its poor labour conditions. Bolivians were brought illegally to Brazil, locked in small apartments and sewed clothes for 12–14 hours a day. They could not leave the apartment without the consent of the supervisor and didn't have hot water for taking showers or food for lunch. The Bolivians earned about 1 USD for each dress they sewed, although the retail price in Brazilian stores was about 70 USD for the same dress. Many of the workers were forced into paying their wages to human traffickers who had smuggled them into the country.[29][30]
In a statement, Zara’s representatives said that the accusations of slave labour made against the retailer represent a “serious breach in accordance with the Code of Conduct for External Manufacturers and Workshops of Inditex.” They also countered that all factories responsible for unauthorized outsourcing have been asked to regularize immediately the situation of the workers involved. “The Inditex group, along with Brazil’s Ministry of Work, will strengthen the supervision of the production system of all its suppliers in the country to ensure that such cases do not occur again.”[31]
After the 2013 Savar building collapse, Zara's parent company Inditex with other retailers signed the Accord on Factory and Building Safety in Bangladesh.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชน [แก้ไข]
อยุ่ [แก้ไข]
ที่ 16 สิงหาคม 2011, รายการโทรทัศน์บราซิลที่เรียกว่าลีกา (จากเครือข่าย Bandeirantes ทีวี) ที่ถูกกล่าวหาว่า บริษัท ของการใช้ซัพพลายเออร์ที่กำลังวิ่งอยุ่ในการผลิตภายนอกของพวกเขา. [28] ที่ 17 สิงหาคม 2011, Superintendency ภูมิภาคของแรงงานและการจ้างงานของเซาเปาโลบราซิลปิดโรงงานที่ผลิตเสื้อผ้า zara สำหรับเงื่อนไขแรงงานที่ยากจน Bolivians ถูกนำมาอย่างผิดกฎหมายไปยังบราซิลถูกขังอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็กและเย็บเสื้อผ้าสำหรับ 12-14 ชั่วโมงต่อวัน พวกเขาไม่สามารถออกจากอพาร์ทเมนโดยปราศจากความยินยอมของผู้บังคับบัญชาและไม่ได้มีน้ำร้อนสำหรับการอาบน้ำหรืออาหารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน Bolivians ที่ได้รับประมาณ 1 บาทสำหรับการแต่งกายของพวกเขาเย็บแต่ละแม้ว่าราคาขายปลีกในร้านค้าบราซิลเป็นประมาณ 70 เหรียญสหรัฐสำหรับการแต่งกายเหมือนกัน จำนวนมากของแรงงานที่ถูกบังคับในการจ่ายค่าจ้างของพวกเขาในการค้ามนุษย์ที่มีการลักลอบนำพวกเขาเข้ามาในประเทศ. [29] [30]
ในงบตัวแทน zara บอกว่าข้อกล่าวหาของแรงงานทาสทำกับร้านค้าปลีกที่เป็นตัวแทนของ "การละเมิดที่ร้ายแรงตามรหัสของการปฏิบัติสำหรับผู้ผลิตภายนอกและการประชุมเชิงปฏิบัติการของ Inditex." พวกเขายังโต้ว่าทุกโรงงานที่รับผิดชอบในการไม่ได้รับอนุญาตการจ้างได้รับการขอให้กฏหมายทันที สถานการณ์ของคนงานที่เกี่ยวข้อง "กลุ่ม Inditex,พร้อมกับกระทรวงบราซิลของการทำงานที่จะเสริมสร้างการกำกับดูแลของระบบการผลิตของซัพพลายเออร์ในประเทศเพื่อให้แน่ใจว่ากรณีดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง. "[31]
หลังจากอาคาร 2013 การล่มสลาย savar, Inditex บริษัท แม่ zara กับคนอื่น ๆ ร้านค้าปลีกที่ได้ลงนามในข้อตกลงเกี่ยวกับโรงงานและการสร้างความปลอดภัยในประเทศบังคลาเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิทธิมนุษยชนกังวล [แก้ไข]
Sweatshops [แก้ไข]
เมื่อ 16 สิงหาคม 2011 รายการโทรทัศน์บราซิลที่เรียกว่าลี A (ของเครือข่ายโทรทัศน์ Bandeirantes) ถูกกล่าวหาว่าการใช้ซัพพลายเออร์ที่เรียกใช้ sweatshops สำหรับการผลิตนอกบริษัท[28] เมื่อ 17 สิงหาคม 2011, Superintendency ภูมิภาคของแรงงานและจ้างงานของเซาเปาลู บราซิล ปิดโรงงานที่ผลิตเสื้อผ้าของซาร่าในสภาพแรงงานยากจน Bolivians ถูกนำผิดกฎหมายบราซิล ล็อคในอพาร์ทเม้นขนาดเล็ก และ sewed เสื้อผ้า 12–14 ชั่วโมงวันนั้น พวกเขาไม่สามารถทำให้ไม่มีความยินยอมของผู้ควบคุมงาน และไม่มีน้ำร้อนสำหรับการอาบน้ำหรืออาหารกลางวัน Bolivians ได้รับประมาณ 1 USD สำหรับแต่ละชุดจะ sewed แม้ว่าราคาขายปลีกในร้านค้าบราซิลประมาณ 70 USD ในชุดเดียวกันได้ หลายคนที่ถูกบังคับในการจ่ายค่าจ้างของพวกเขาให้ผู้ค้ามนุษย์ที่ได้เปิดไว้ในประเทศ[29][30]
ในงบ ตัวแทนของซาร่ากล่าวว่า ข้อกล่าวหาของแรงงานทาสทำกับร้านค้าที่แสดงถึงการ "ร้ายละเมิดจรรยาบรรณสำหรับผู้ผลิตภายนอกและประชุมเชิงปฏิบัติการของ Inditex" พวกเขายัง countered ว่า ได้ขอที่โรงงานทั้งหมดรับผิดชอบโดยผู้รับเหมาช่วงจะ regularize ทันทีสถานการณ์ของแรงงานที่เกี่ยวข้อง "กลุ่ม Inditex พร้อมกับของบราซิลกระทรวงของงาน จะเสริมการกำกับดูแลระบบการผลิตของทุกซัพพลายเออร์ในประเทศเพื่อให้แน่ใจว่า กรณีดังกล่าวไม่เกิดขึ้นอีก"[31]
หลัง Savar 2013 อาคารยุบ ติบริษัท Inditex มีร้านค้าปลีกอื่น ๆ ลงนามแอคคอร์ดในโรงงานและสร้างความปลอดภัยในประเทศบังกลาเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิทธิมนุษยชนปัญหา[แก้ไข]
สถานที่ทำงานอันเลวร้าย[แก้ไข]
บนวันที่ 16 สิงหาคม 2011 แสดงโทรทัศน์บราซิลที่เรียกว่าจากดีกรีแชมป์ลีก(ของเครือข่ายทีวี bandeirantes )ที่ถูกกล่าวหาว่าบริษัทที่มีการใช้ซัพพลายเออร์ที่กำลังวิ่งสถานที่ทำงานอันเลวร้ายในการผลิตบริการเอาต์ซอร์สด้านไอทีของพวกเขา.[ 28 ]ในวันที่ 17 สิงหาคม 2011 ในระดับ ภูมิภาค superintendency ของแรงงานและการจ้างงานของเซาเปาลูบราซิลปิดโรงงานที่ผลิตเสื้อผ้าของ zara สำหรับ สภาพ การทำงานคนจน. โบลิเวียถูกนำตัวมาอย่างผิดกฎหมายในบราซิลถูกล็อคอยู่ในอพาร์ทเมนท์ขนาดเล็กและเสื้อผ้าเย็บผ้าสำหรับชั่วโมง 12-14 วันที่ ไม่สามารถออกจากอพาร์ทเมนท์โดยไม่ได้รับความยินยอมของซุปเปอร์ไวเซอร์และไม่มีน้ำร้อนสำหรับการอาหารหรือฝักบัวสำหรับอาหารมื้อกลางวัน โบลิเวียได้รับประมาณ 1 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับแต่ละชุดก็เย็บแม้ว่าราคาจำหน่ายปลีกในร้านค้าของบราซิลก็ประมาณ 70 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับชุดเดียวกัน จำนวนมากของคนงานที่ถูกบังคับให้เข้าไปในการจ่ายค่าแรงของเขาในการ?คนได้ลักลอบเข้าไปในประเทศที่.[ 29 ][ 30 ]
ในแถลงการณ์ที่zara ของ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่าที่ตำหนิของทาสใช้แรงงานทำให้กับผู้ค้าปลีกที่เป็น"อย่างจริงจังการละเมิดเป็นไปตามด้วยรหัสการ ภายนอก และผู้ผลิตรายการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการของ inditex "พวกเขายังแจ่งที่โรงงานรับผิดชอบทั้งหมดสำหรับการใช้บริการจาก ภายนอก โดยไม่ได้รับอนุญาตได้รับการร้องขออย่างที่สุดทันทีที่สถานการณ์ของคนงาน. "กลุ่มที่ inditexพร้อมด้วยกระทรวงของบราซิลในการทำงานจะให้ความสำคัญกับการตรวจสอบของระบบการผลิตของซัพพลายเออร์ของทั้งหมดในประเทศที่จะทำให้แน่ใจว่ากรณีดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง"[ 31 ]
หลังจากปี 2013 ยุบอาคาร savar ที่บริษัทแม่ของ zara inditex กับผู้จำหน่ายรายอื่นได้ลงนามกันในโรงงานและความ ปลอดภัย ในบังคลาเทศ.