Kamakura Bakufu and the rise of sam

Kamakura Bakufu and the rise of samurai

Samurai ō-yoroi armour, Kamakura period. Tokyo National Museum.
Originally the Emperor and non-wariror nobility employed these warrior nobles. In time, they amassed enough manpower, resources and political backing in the form of alliances with one another, to establish the first samurai-dominated government. As the power of these regional clans grew, their chief was typically a distant relative of the Emperor and a lesser member of either the Fujiwara, Minamoto, or Taira clans. Though originally sent to provincial areas for a fixed four-year term as a magistrate, the toryo declined to return to the capital when their terms ended, and their sons inherited their positions and continued to lead the clans in putting down rebellions throughout Japan during the middle- and later-Heian period. Because of their rising military and economic power, the warriors ultimately became a new force in the politics of the court. Their involvement in the Hōgen in the late Heian period consolidated their power, and finally pitted the rival Minamoto and Taira clans against each other in the Heiji Rebellion of 1160.

The winner, Taira no Kiyomori, became an imperial advisor, and was the first warrior to attain such a position. He eventually seized control of the central government, establishing the first samurai-dominated government and relegating the Emperor to figurehead status. However, the Taira clan was still very conservative when compared to its eventual successor, the Minamoto, and instead of expanding or strengthening its military might, the clan had its women marry Emperors and exercise control through the Emperor.

The Taira and the Minamoto clashed again in 1180, beginning the Gempei War, which ended in 1185. Samurai fought at the naval battle of Dan-no-ura, at the Shimonoseki Strait which separates Honshu and Kyushu in 1185. The victorious Minamoto no Yoritomo established the superiority of the samurai over the aristocracy. In 1190 he visited Kyoto and in 1192 became Sei'i-taishōgun, establishing the Kamakura Shogunate, or Kamakura Bakufu. Instead of ruling from Kyoto, he set up the Shogunate in Kamakura, near his base of power. "Bakufu" means "tent government", taken from the encampments the soldiers would live in, in accordance with the Bakufu's status as a military government.[5]

Over time, powerful samurai clans became warrior nobility, or "buke", who were only nominally under the court aristocracy. When the samurai began to adopt aristocratic pastimes like calligraphy, poetry and music, some court aristocrats in turn began to adopt samurai customs. Despite machinations and brief periods of rule by Emperors, real power was then in the hands of the Shogun and the samurai.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Bakufu คามาคุระและการเพิ่มขึ้นของซามูไรซามูไรเกราะ O-yoroi, คามาคูระ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติโตเกียว. เดิมจักรพรรดิและไม่ใช่ลูกจ้าง wariror ขุนนางขุนนางนักรบเหล่านี้ ในเวลาที่พวกเขาไว้ด้วยกำลังคนเพียงพอทรัพยากรและการสนับสนุนทางการเมืองในรูปแบบของการเป็นพันธมิตรกับอีกคนหนึ่งที่จะสร้างรัฐบาลซามูไรที่โดดเด่นเป็นครั้งแรก ในฐานะที่เป็นพลังของชนเผ่าในภูมิภาคเหล่านี้เติบโตขึ้นเป็นหัวหน้าของพวกเขามักจะเป็นญาติห่าง ๆ ของจักรพรรดิและเป็นสมาชิกที่น้อยกว่าของทั้งฟูจิวาระโมโตะหรือชนเผ่าไทร่า แม้ว่า แต่เดิมส่งไปยังพื้นที่จังหวัดคงที่ระยะสี่ปีเป็นผู้พิพากษา, Toryo ปฏิเสธที่จะกลับไปยังเมืองหลวงเมื่อวาระสิ้นสุดลงและลูกชายของเขาได้รับมรดกตำแหน่งของพวกเขาและยังคงนำสมัครพรรคพวกในการวางลงกบฏทั่วประเทศญี่ปุ่นในช่วง กลางและระยะเวลาต่อมาที่ละ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นอำนาจทางทหารและเศรษฐกิจของพวกเขานักรบในท้ายที่สุดกลายเป็นพลังใหม่ในทางการเมืองของศาล มีส่วนร่วมใน Hogen ในช่วงปลายเดือนละรวมอำนาจของพวกเขาและในที่สุดก็เป็นหลุมโมโตะคู่แข่งและชนเผ่าไทร่ากับแต่ละอื่น ๆ ใน Heiji จลาจล 1160 ชนะไทร่าไม่ Kiyomori กลายเป็นที่ปรึกษาของจักรพรรดิและเป็นนักรบแรก เพื่อให้บรรลุตำแหน่งดังกล่าว ในที่สุดเขาก็ยึดการควบคุมของรัฐบาลกลางจัดตั้งรัฐบาลซามูไรที่โดดเด่นเป็นครั้งแรกและผลักไสจักรพรรดิหุ่นเชิดเพื่อสถานะ แต่ตระกูลไทร่าก็ยังคงอนุรักษ์นิยมมากเมื่อเทียบกับทายาทที่สุดของโมโตะและแทนการขยายหรือการเสริมสร้างกำลังทหารของตนอาจตระกูลได้แต่งงานกับผู้หญิงของจักรพรรดิและการควบคุมการออกกำลังกายผ่านจักรพรรดิ. ไทร่าและโมโตะปะทะกันอีกครั้ง ใน 1180 เริ่มต้น Gempei สงครามซึ่งจบลงด้วย 1185. ซามูไรต่อสู้ในการรบทางเรือของแดน-no-ยูที่ช่องแคบชิโมโนเซกิซึ่งแยกฮอนชูและคิวชูใน 1185. ชัยชนะโมโตะไม่โยริโทโมจัดตั้งเหนือกว่าของซามูไรมากกว่า ขุนนาง ใน 1,190 เขาไปเยือนเกียวโตและใน 1192 กลายเป็น Sei'i-taishōgunสร้างคามาคูผู้สำเร็จราชการหรือคามาคู Bakufu แทนการปกครองจากเกียวโตเขาตั้งผู้สำเร็จราชการใน Kamakura ใกล้ฐานของการใช้พลังงาน "Bakufu" หมายถึง "รัฐบาลเต็นท์" นำมาจากค่ายทหารที่จะมีชีวิตอยู่ในสอดคล้องกับสถานะ Bakufu เป็นรัฐบาลทหาร. [5] เมื่อเวลาผ่านไปตระกูลซามูไรที่มีประสิทธิภาพกลายเป็นขุนนางนักรบหรือ "buke" ที่ถูก เพียง แต่ในนามภายใต้ขุนนางศาล เมื่อซามูไรเริ่มที่จะนำมาใช้งานอดิเรกของชนชั้นสูงเช่นการประดิษฐ์ตัวอักษรบทกวีและเพลงบางขุนนางศาลในที่สุดก็เริ่มที่จะนำมาใช้ศุลกากรซามูไร แม้จะมี machinations และช่วงเวลาสั้น ๆ ของการปกครองโดยจักรพรรดิ, อำนาจที่แท้จริงแล้วก็อยู่ในมือของโชกุนและซามูไร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คามาคุระบาคุฟุและการเพิ่มขึ้นของซามูไรซามูไร

โฮ - โยโรอิ เสื้อเกราะ จัสติสลีก . พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ .
แต่เดิมจักรพรรดิและไม่ใช้ wariror ขุนนางขุนนาง นักรบเหล่านี้ ในเวลาที่พวกเขารวบรวมกำลังคนเพียงพอ ทรัพยากรและการสนับสนุนทางการเมืองในรูปแบบของพันธมิตรกับอีกคนหนึ่งเพื่อสร้างแรกซามูไรครอบงำรัฐบาล เป็นพลังของเผ่าในภูมิภาคนี้เติบโตขึ้นหัวหน้าของพวกเขาคือมักจะญาติห่างๆของจักรพรรดิและสมาชิกน้อยกว่าทั้ง ฟูจิวาระ มินาโมโตะ หรือไทระเผ่า แม้ว่าแต่เดิมส่งต่างจังหวัดให้คงที่ในระยะ 4 ปี เป็นผู้พิพากษา , toryo ปฏิเสธที่จะกลับไปเมืองหลวงเมื่อเรื่องจบลงและลูกหลานของพวกเขาสืบทอดตำแหน่งของพวกเขาและยังคงนำสมัครพรรคพวกในใส่ลงกบฏทั่วญี่ปุ่นในช่วงกลางและต่อมายุคเฮอัน . เพราะพวกเขาเพิ่มอำนาจทางทหารและเศรษฐกิจ , นักรบในที่สุดกลายเป็นพลังใหม่ในการเมืองของศาล การมีส่วนร่วมของพวกเขาใน H โฮเก็นในยุคเฮอังสายรวมพลังงานของพวกเขาและสุดท้ายเป็นหลุมมินาโมโตะ คู่แข่ง และ ไทระ ตระกูลกับแต่ละอื่น ๆใน heiji การกบฏของ 1160 .

ไม่มีผู้ชนะ ไทระคิโยโมริ กลายเป็นที่ปรึกษาของจักรพรรดิ และเป็นนักรบครั้งแรกเพื่อให้บรรลุเช่นตำแหน่ง ในที่สุดเขาได้ยึดการควบคุมของรัฐบาลกลาง การจัดตั้งรัฐบาล และ relegating ซามูไรแรกครอบงำจักรพรรดิเพื่อการบัญญัติสถานภาพ อย่างไรก็ตามไทระ ตระกูลที่ยังอนุรักษ์นิยมมากเมื่อเทียบกับในที่สุดผู้สืบทอด มินะโมะโตะ และ แทนการขยายหรือสร้างความเข้มแข็งของทหารอาจ กลุ่มมีผู้หญิงแต่งงานกับจักรพรรดิและการออกกำลังกายการควบคุมผ่านจักรพรรดิ .

ไทระและ มินาโมโตะ ปะทะอีก , , เริ่มต้นสงคราม gempei ซึ่งสิ้นสุดในความตาย . ซามูไรต่อสู้ในการรบทางเรือของแดนอุราไม่ ,ที่ช่องแคบชิโมโนเซกิ ซึ่งแยกและฮอนชูคิวชูใน 1185 . ส่วนชัยชนะของมินะโมะโตะยุไม่สร้างความเหนือกว่าของซามูไรมากกว่าขุนนาง ใน 1190 เขาไปเกียวโต และในตอนนี้ก็ sei'i-taish โฮกุน สร้างคามากุระโชกุน หรือคามาคุระบาคุฟุ . แทนของการวินิจฉัยจากเกียวโต เขาตั้งโชกุนในคามาคุระ ใกล้ฐานของอำนาจ" บาคุฟุ " หมายถึง " เต็นท์รัฐบาล " ถ่ายจาก encampments ทหารจะอยู่ในสอดคล้องกับบาคุฟุสถานะเป็นรัฐบาลทหาร [ 5 ]

ตลอดเวลา ตระกูลซามูไรที่มีประสิทธิภาพเป็นนักรบ ขุนนาง หรือ " บู " ที่เป็นเพียงในนามภายใต้ศาลขุนนาง เมื่อซามูไรเริ่มนำมาใช้ pastimes ของชนชั้นสูง เช่น การประดิษฐ์ตัวอักษรบทกวีและเพลงบางศาลผู้ดี จะเริ่มกิจกรรมประเพณีซามูไร และแม้ machinations ช่วงเวลาสั้นของการปกครองโดยจักรพรรดิที่แท้จริง อำนาจก็อยู่ในมือของโชกุนและซามูไร