กฎหมายเป็นเครื่องควบคุมประพฤติการณ์ในสังคม พัฒนาขึ้นมาจากศีลธรรม ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี ศาสนา และกฎเกณฑ์ข้อบังคับ ตามลำดับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อธำรงความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของสมาชิกในสังคม กับทั้งเพื่อให้การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้นเป็นไปโดยราบรื่น สนองความต้องการของภาคส่วนต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
เนื่องจากสังคมโลก มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นในทุกวินาทีที่โลกหมุนไป ประชาชนในทุกส่วนของโลกมีการติดต่อซึ่งกันและกันมีการพัฒนาการศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงสังคมวัฒนธรรมและมีความรู้สึกนึกคิดที่พัฒนายกระดับสังคมตนเอง ขึ้นตามกระแสโลก จึงมีการเปรียบเทียบระหว่างสังคมของตนเองและสังคมของผู้อื่น ตามวิสัยของปุถุชน และเห็นว่าการปกครองแบบเก่า ๆ คือระบบสมบูรณาญาสิทธิราชมีความเหลื่อมล้ากันทางด้านสังคมมากมาย และการปกครองเมืองต้องขึ้นอยู่กับพระราชอานาจของผู้ปกครองนคร ซึ่งเหมือนกับว่าหากระยะเวลาที่บ้านเมืองมีผู้ปกครองที่มีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม มีศีลธรรม และมีความปรีชาสามารถ เห็นแก่บ้านเมืองและประโยชน์สุขของประชาชนก็ถือได้ว่า เป็นโชคอันมหาศาล แต่หากผู้ปกครองบ้านเมืองไม่สนในต่อกิจการบ้านเมือง ก็ถือว่าเป็นคราวโชคร้ายของบ้านเมืองไป
ประเทศไทย ของเราดารงความเป็นเอกราชมาเนิ่นนานมาหลายร้อยปี โดยที่น้อยคนที่จะได้รับรู้ถึงความเป็นมาของประวัติศาสตร์ กฎหมายไทย กฎหมายไทยมีการวิวัฒนาการมานาน เช่นเดียวกันกับกฎหมายของประเทศต่างๆ ก่อนที่ประเทศไทยจะได้ใช้ระบบประมวลกฎหมาย ไทยก็มีระบบกฎหมายใช้เป็นของตนเองเช่นกัน ซึ่งจะอยู่ในรูปของกฎหมายจารีตประเพณี ซึ่งได้ถูกปฏิบัติสืบต่อกันมาจนยอมรับว่าเป็นกฎหมายในที่สุด และก็ได้มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในกาลต่อมา เพื่อให้สมาชิกในชุมชนได้รู้และปฏิบัติตาม รวมถึงมีความสาคัญระหว่างบุคคลกับรัฐ กฎหมายจึงต้องมีเนื้อหาหรือองค์ประกอบสาคัญที่จะทาให้ต่างกับศีลธรรมคือ กฎหมายจะต้องเป็นรัฐาธิปัตย์ ที่มีสภาพบังคับใช้ให้ประชาชนยอมรับและต้องปฏิบัติตาม