The group that includes the lactic

The group that includes the lactic acid bacteria is a heterogeneous group of bacteria that are generally regarded as safe for use in food and food products (15). The use of these organisms in food products dates back to ancient times, and they are used mainly because of their contributions to flavor, aroma, and increased shelf life of fermented products (28). Various members of this group are used commercially as starter cultures in the manufacture of food products, including dairy products (39), fermented vegetables (25), fermented doughs (45), alcoholic beverages (33, 34), probiotics in animal feeds (8), and meat products (44). Lactic acid bacteria have also been used for lactic acid fermentation of sorghum- or maize-based cereals used as infant-weaning foods (26, 27, 31, 38).

Various techniques have been used to characterize lactic acid bacteria; these techniques include whole-cell protein analysis, cell wall composition analysis, and morphological, physiological, and biochemical analyses (41). While combined use of these methods is invaluable for distinguishing lactic acid bacteria at the species level, the methods are not sufficiently discriminatory to differentiate organisms at the subspecies and strain levels (11, 14). Determining the electrophoretic patterns of total soluble proteins and computer-assisted analysis of the resulting protein profiles are well-established procedures in bacterial taxonomy (13, 23, 35). This technique has been used for taxonomic studies of lactic acid bacteria obtained from meat, dairy products, and other environments, but it is hampered by the fact that it can yield discriminatory information only at the species level, which requires some degree of preidentification. This problem has been overcome by creating a database of digitized and normalized protein patterns for most known species of lactic acid bacteria (35).

DNA-based techniques, such as DNA base ratio analysis, DNA-DNA hybridization analysis, rRNA homology analysis, plasmid profiling, ribotyping, restriction fragment length polymorphism analysis, and randomly amplified polymorphic DNA analysis, have also been used to characterize lactic acid bacteria (42). However, some of these techniques have been hampered by a lack of reproducibility of results between experiments (randomly amplified polymorphic DNA analysis) and requirements for large amounts of time and labor (1). Recently, workers developed amplified fragment length polymorphism (AFLP) analysis, which detects genetic variation in microorganisms. The variation is assessed at a large number of independent loci and can be found in any part of the genome without prior knowledge of the sequence (47). The results are highly reproducible, as the technique is based on selective amplification with primers that recognize double-stranded DNA adapters that are ligated to the ends of DNA fragments in order to generate template DNA for amplification under stringent conditions. This technique has been used in taxonomic studies of Acinetobacter strains (18) and Aeromonas strains (17), in epidemiological studies of Bacillus anthracis strains (21), Salmonella strains (1), and Xanthomonas translucens strains (7), and in determining Vibrio vulnificus biotypes (2). It has also been used to determine molecular evolutionary origins and geographic correlations of Pseudomonas syringae strains (9).

The objectives of this study were to characterize lactic acid bacteria that occur naturally in sorghum powder and corresponding fermented and cooked fermented porridge samples by using both physiological and biochemical methods and analyzing total-soluble-protein patterns. In this study we also investigated the identities and origins of lactic acid bacteria that are dominant during the fermentation process by using AFLP fingerprinting.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กลุ่มที่มีแบคทีเรียกรดแลกติกเป็นกลุ่มแตกต่างกันของแบคทีเรียซึ่งโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ในอาหารและผลิตภัณฑ์อาหาร (15) การใช้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์อาหารวันกลับไปสมัยโบราณ และการใช้ส่วนใหญ่เนื่องจากการจัดสรรรส กลิ่น และเพิ่มอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์หมัก (28) สมาชิกต่าง ๆ ของกลุ่มนี้นำมาใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นวัฒนธรรมเริ่มต้นในการผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากนม (39), หมักผัก (25) หมัก doughs (45), เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (33, 34) probiotics ในสัตว์ตัวดึงข้อมูล (8), และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ (44) แบคทีเรียกรดแลกติกได้ยังถูกใช้สำหรับการหมักกรดแลกติกจากข้าวฟ่าง หรือข้าวโพดธัญพืชใช้เป็นอาหารทารก weaning (26, 27, 31, 38)เทคนิคต่าง ๆ มีการใช้ลักษณะของแบคทีเรียกรดแลกติก เทคนิคเหล่านี้รวมทั้งเซลล์โปรตีนวิเคราะห์ วิเคราะห์องค์ประกอบของผนังเซลล์ และวิเคราะห์สัณฐาน สรีรวิทยา และชีวเคมี (41) ในขณะที่ใช้รวมของวิธีการเหล่านี้มีราคาสูงสำหรับแยกแบคทีเรียกรดแลกติกที่ระดับพันธุ์ วิธีการไม่โจ่งแจ้งพอจะแยกความแตกต่างของสิ่งมีชีวิตในระดับชนิดย่อยและต้องใช้ (11, 14) กำหนดรูปแบบของโปรตีนละลายน้ำรวมด้วยและคอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์ค่าโปรตีนได้เป็นขั้นตอนดีขึ้นในระบบแบคทีเรีย (13, 23, 35) เทคนิคนี้ใช้สำหรับการศึกษาอนุกรมวิธานของแบคทีเรียกรดแลกติกที่ได้รับจากเนื้อสัตว์ นม และสภาพแวดล้อมอื่น ๆ แต่เป็นการขัดขวางความจริงที่ว่า มันสามารถผลผลิตประมงทะเลข้อมูลเฉพาะระดับพันธุ์ ซึ่งต้องมีบางส่วนของ preidentification ปัญหานี้ได้ถูกเอาชนะ โดยการสร้างฐานข้อมูลรูปแบบดิจิทัล และมาตรฐานโปรตีนสำหรับพันธุ์ที่รู้จักมากที่สุดของแบคทีเรียกรดแลกติก (35)ยังถูกใช้ดีเอ็นเอโดยใช้เทคนิค ดีเอ็นเอการวิเคราะห์อัตราส่วนฐาน ดีเอ็นเอ DNA hybridization วิเคราะห์ rRNA homology วิเคราะห์ plasmid สร้างโพรไฟล์ ribotyping วิเคราะห์ข้อจำกัดส่วนความยาวโพลิมอร์ฟิซึม และการวิ เคราะห์ DNA polymorphic เอาต์แบบสุ่ม การลักษณะของแบคทีเรียกรดแลกติก (42) อย่างไรก็ตาม บางเทคนิคเหล่านี้ได้ถูก hampered โดยขาด reproducibility ของผลลัพธ์ระหว่างทดลอง (สุ่มเอาต์ polymorphic DNA วิเคราะห์) และความต้องการในจำนวนมากของเวลาและแรงงาน (1) ล่าสุด งานพัฒนาส่วนเอาต์ยาวโพลีมอร์ฟิซึม (AFLP) การวิเคราะห์ การตรวจพบการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในจุลินทรีย์ รูปแบบการประเมินที่ loci อิสระจำนวนมาก และสามารถพบได้ในส่วนใดส่วนหนึ่งของกลุ่มโดยไม่มีความรู้เดิมของลำดับ (47) ผลลัพธ์เป็นจำลองสูง เทคนิคการยึดขยายงานด้วยไพรเมอร์ที่รู้จักคู่ควั่น DNA อะแดปเตอร์ที่จะควบไปจนสุดปลายของชิ้นส่วนดีเอ็นเอเพื่อสร้างดีเอ็นเอต้นแบบสำหรับขยายภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด มีการใช้เทคนิคนี้ในการศึกษาอนุกรมวิธานของ Acinetobacter สายพันธุ์ (18) และสายพันธุ์ Aeromonas (17), ในความศึกษาคัดสายพันธุ์ anthracis (21), ระดับสายพันธุ์ (1), และอ้อยสายพันธุ์ translucens (7), และกำหนดผล vulnificus biotypes (2) มันยังถูกใช้เพื่อกำหนดจุดเริ่มต้นของวิวัฒนาการระดับโมเลกุลและความสัมพันธ์ทางภูมิศาสตร์ของสายพันธุ์ syringae ลี (9)วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ได้ลักษณะของแบคทีเรียกรดแลกติกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผงข้าวฟ่าง และตรงหมัก และต้มข้าวต้มหมักตัวอย่าง โดยใช้วิธีการสรีรวิทยา และชีวเคมี และวิเคราะห์รูปแบบรวมละลายโปรตีน ในการศึกษานี้ เรายังตรวจสอบเอกลักษณ์และต้นกำเนิดของแบคทีเรียกรดแลกติกที่โดดเด่นในระหว่างกระบวนการหมัก โดยใช้ลายพิมพ์ AFLP

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลุ่มที่มีแบคทีเรียกรดแลคติกเป็นกลุ่มที่แตกต่างกันของเชื้อแบคทีเรียที่ได้รับการยกย่องโดยทั่วไปเป็นที่ปลอดภัยสำหรับการใช้ในอาหารและผลิตภัณฑ์อาหาร (15) การใช้ชีวิตเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์อาหารวันที่กลับไปสมัยโบราณและพวกเขาจะนำมาใช้ส่วนใหญ่เป็นเพราะการมีส่วนร่วมของพวกเขาเพื่อรสชาติกลิ่นและอายุการเก็บรักษาที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์หมัก (28) สมาชิกของกลุ่มนี้ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์เป็นวัฒนธรรมที่เริ่มต้นในการผลิตของผลิตภัณฑ์อาหารรวมทั้งผลิตภัณฑ์นม (39), ผักดอง (25), doughs หมัก (45) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (33, 34), โปรไบโอติกในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ( 8) และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ (44) แบคทีเรียกรดแลคติกได้ถูกนำมาใช้สำหรับการหมักกรดแลคติกของธัญพืช sorghum- หรือข้าวโพดที่ใช้เป็นอาหารทารกหย่านม (26, 27, 31, 38). เทคนิคต่าง ๆ ได้ถูกนำมาใช้เพื่อแสดงลักษณะของแบคทีเรียกรดแลคติค; เทคนิคเหล่านี้รวมทั้งการวิเคราะห์เซลล์โปรตีนผนังเซลล์การวิเคราะห์องค์ประกอบและลักษณะทางสัณฐานวิทยาสรีรวิทยาและการวิเคราะห์ทางชีวเคมี (41) ในขณะที่การใช้งานรวมของวิธีการเหล่านี้มีค่าสำหรับลักษณะแบคทีเรียกรดแลคติกในระดับสายพันธุ์วิธีการไม่เลือกปฏิบัติพอที่จะแยกความแตกต่างมีชีวิตที่ช่ำชองและระดับความเครียด (11, 14) การกำหนดรูปแบบการ electrophoretic ของโปรตีนที่ละลายได้ทั้งหมดและการวิเคราะห์คอมพิวเตอร์ช่วยของโปรตีนที่เกิดขั้นตอนจะดีขึ้นในอนุกรมวิธานของเชื้อแบคทีเรีย (13, 23, 35) เทคนิคนี้ได้ถูกนำมาใช้เพื่อการศึกษาอนุกรมวิธานของแบคทีเรียกรดแลคติกที่ได้จากเนื้อสัตว์ผลิตภัณฑ์นมและสภาพแวดล้อมอื่น ๆ แต่มันเป็นอุปสรรคจากความจริงที่ว่ามันสามารถทำให้ได้ข้อมูลที่เลือกปฏิบัติเฉพาะในระดับสปีชีส์ซึ่งจะต้องมีระดับของ preidentification บาง ปัญหานี้ได้รับการเอาชนะโดยการสร้างฐานข้อมูลของรูปแบบดิจิทัลและโปรตีนปกติสำหรับสายพันธุ์ที่รู้จักมากที่สุดของแบคทีเรียกรดแลคติก (35). เทคนิคดีเอ็นเอเช่นฐานดีเอ็นเอวิเคราะห์อัตราส่วนการวิเคราะห์ดีเอ็นเอดีเอ็นเอ, rRNA วิเคราะห์ที่คล้ายคลึงกัน, พลาสมิด โปรไฟล์ ribotyping ความยาวส่วนข้อ จำกัด การวิเคราะห์ความแตกต่างและการขยายการสุ่มการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ polymorphic, ยังได้รับการใช้ในลักษณะของแบคทีเรียกรดแลคติก (42) แต่บางส่วนของเทคนิคเหล่านี้ได้รับการขัดขวางจากการขาดการทำสำเนาของผลระหว่างการทดลอง (ขยายสุ่มวิเคราะห์ดีเอ็นเอ polymorphic) และความต้องการจำนวนมากเวลาและแรงงาน (1) เมื่อเร็ว ๆ นี้คนงานพัฒนาเอเอฟแอลพี (AFLP) การวิเคราะห์ซึ่งตรวจพบการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในจุลชีพ รูปแบบการประเมินที่เป็นจำนวนมากในท้องถิ่นที่เป็นอิสระและสามารถพบได้ในส่วนหนึ่งของจีโนมใด ๆ โดยไม่ต้องรู้ก่อนของลำดับ (47) ผลลัพธ์ที่ได้จะทำซ้ำสูงเป็นเทคนิคจะขึ้นอยู่กับการขยายการคัดเลือกด้วยไพรเมอร์ที่รับรู้อะแดปเตอร์ดีเอ็นเอเกลียวคู่ที่มี ligated ไปจนสุดปลายของดีเอ็นเอเพื่อที่จะสร้างดีเอ็นเอแม่แบบสำหรับการขยายภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด เทคนิคนี้ได้ถูกนำมาใช้ในการศึกษาอนุกรมวิธานของเชื้อ Acinetobacter (18) และสายพันธุ์ Aeromonas (17) ในการศึกษาทางระบาดวิทยาของเชื้อ Bacillus anthracis (21), สายพันธุ์เชื้อ Salmonella (1) และสายพันธุ์เชื้อ Xanthomonas โปร่งแสง (7) และในการกำหนด Vibrio vulnificus biotypes (2) นอกจากนี้ยังถูกนำมาใช้เพื่อตรวจสอบต้นกำเนิดวิวัฒนาการโมเลกุลและความสัมพันธ์ทางภูมิศาสตร์ของสายพันธุ์ Pseudomonas syringae (9). วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงลักษณะของแบคทีเรียกรดแลคติกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผงข้าวฟ่างและสอดคล้องหมักและปรุงสุกหมักตัวอย่างโจ๊กโดยใช้ทั้งทางสรีรวิทยา และวิธีทางชีวเคมีและวิเคราะห์รูปแบบทั้งหมดที่ละลายโปรตีน ในการศึกษานี้เรายังตรวจสอบตัวตนและต้นกำเนิดของเชื้อแบคทีเรียกรดแลคติกที่มีความโดดเด่นในระหว่างขั้นตอนการหมักโดยใช้ลายนิ้วมือ AFLP

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลุ่มที่ประกอบด้วยแบคทีเรียกรดแลคติก คือกลุ่มของแบคทีเรียที่แตกต่างกันโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารและอาหาร ( 15 ) การใช้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์อาหารวันที่กลับไปสมัยโบราณ และพวกเขาจะใช้เป็นหลักเพราะช่วยให้รสชาติ กลิ่น และการเพิ่มอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์หมัก ( 28 )สมาชิกต่าง ๆของกลุ่มนี้จะใช้ในเชิงพาณิชย์เป็น starter วัฒนธรรมในการผลิตสินค้าอาหาร ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากนม ( 39 ) , ผักหมัก ( 25 ) , สาลีหมัก ( 45 ) , เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ( 33 , 34 ) , โปรไบโอติกในอาหารสัตว์ ( 8 ) , และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ( 44 )แบคทีเรียกรดแล็กติกยังถูกใช้สำหรับการหมักกรดแลคติกหรือข้าวโพดข้าวฟ่างจากธัญพืชใช้เป็นอาหารทารกหย่านม ( 26 , 27 , 31 , 38 ) .

เทคนิคต่างๆ ได้ถูกใช้ในลักษณะของแบคทีเรียกรดแลคติก เทคนิคเหล่านี้รวมถึงการวิเคราะห์โปรตีนในเซลล์ทั้งหมด เซลล์ผนังการวิเคราะห์องค์ประกอบและลักษณะทางสัณฐานวิทยา สรีรวิทยา และการวิเคราะห์ทางชีวเคมี ( 41 )ในขณะที่การใช้รวมของวิธีการเหล่านี้มีประโยชน์มากสำหรับการแยกแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลกติกที่ชนิดระดับ วิธีการมีไม่เพียงพอ การแยกแยะสิ่งมีชีวิตที่ชนิดย่อยและความเครียดระดับ ( 11 , 14 )การกำหนดรูปแบบการตรวจวัดปริมาณโปรตีนและการวิเคราะห์บทเรียนที่เกิดขึ้นของโปรตีนโปรไฟล์มีขั้นตอนในอนุกรมวิธานแบคทีเรีย ( 13 , 23 , 35 ) เทคนิคนี้มีการใช้ในการศึกษาทางอนุกรมวิธานของแบคทีเรียกรดแลคติกที่ได้จากเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม และสภาพแวดล้อมอื่น ๆแต่มันเป็น hampered โดยข้อเท็จจริงที่ว่ามันสามารถแทนข้อมูลที่จำแนกชนิดระดับ ซึ่งต้องใช้บางส่วนของ preidentification . ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขโดยการสร้างฐานข้อมูลและรูปแบบดิจิทัลในรูปโปรตีนส่วนใหญ่รู้จักสายพันธุ์ของแบคทีเรียกรดแล็กติก ( 35 ) .

ดีเอ็นเอโดยใช้เทคนิคเช่นการวิเคราะห์อัตราส่วนฐานดีเอ็นเอ hybridization dna-dna , วิเคราะห์ ,การวิเคราะห์แบคทีเรียที่มีพลาสมิด , ผู้ ribotyping จำกัด fragment length polymorphism การวิเคราะห์แบบ amplified polymorphic DNA การวิเคราะห์ยังถูกใช้ในลักษณะของแบคทีเรียกรดแล็กติก ( 42 ) อย่างไรก็ตามบางส่วนของเทคนิคเหล่านี้ได้รับการขัดขวางโดยขาดยักษาระหว่างการทดลอง ( สุ่ม amplified polymorphic DNA การวิเคราะห์ ) และข้อกำหนดสำหรับจำนวนมากของเวลาและแรงงาน ( 1 ) เมื่อเร็วๆ นี้ พนักงานพัฒนาเทคนิค amplified fragment length polymorphism ( AFLP ) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางพันธุกรรมซึ่งตรวจพบจุลินทรีย์การจะประเมินที่เป็นจำนวนมากของรูปแบบอิสระและสามารถพบได้ในส่วนใดส่วนหนึ่งของโครโมโซมไม่มีความรู้ก่อนของลำดับ ( 47 ) ผลลัพธ์ ) สูง ,เป็นเทคนิคที่ใช้กับรองพื้นที่เลือกแบบจำคู่เกลียวดีเอ็นเอของอะแดปเตอร์ที่ผูกกับปลายของชิ้นส่วนดีเอ็นเอเพื่อสร้างแม่แบบ DNA Amplification ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด เทคนิคนี้มีการใช้ในการศึกษาทางอนุกรมวิธานของเชื้อ Acinetobacter ( 18 ) และเชื้อสายพันธุ์ ( 17 )ในการศึกษาระบาดวิทยาของเชื้อบาซิลลัส แอนทราซีส ( 21 ) , ซาลโมเนลลาสายพันธุ์ ( 1 ) และสายพันธุ์ของเชื้อ translucens ( 7 ) , และในการคะยั้นคะยอ biotypes ( 2 ) มันยังถูกใช้เพื่อศึกษาต้นกำเนิดวิวัฒนาการระดับโมเลกุลและภูมิศาสตร์ความสัมพันธ์ของ Pseudomonas syringae สายพันธุ์

( 9 )วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้ เพื่อศึกษาลักษณะของแบคทีเรียแลกติกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผงหมักและปรุงสุกหมักข้าวฟ่างและสอดคล้องกันอย่างโจ๊ก โดยใช้ทั้งทางสรีรวิทยาและชีวเคมีและวิธีวิเคราะห์ปริมาณโปรตีนแบบในการศึกษานี้เรายังศึกษาประวัติและต้นกำเนิดของแบคทีเรียกรดแลคติกที่เด่นในระหว่างกระบวนการหมักโดยใช้เทคนิคลายพิมพ์ .