The principle of artificial rainIn

The principle of artificial rain

In the troposphere, the temperature of the atmosphere descends with altitude. Therefore the clouds in the troposphere are lower in temperature as they rise in altitude and vice versa. When the temperature of a cloud is above 0 °C, the cloud is called a warm cloud; when it is below 0 °C it is called a cold cloud. Inside a warm cloud, small water drops will become large ones through collision and coalescence, and will finally break the buoyancy of the cloud and fall out of its bottom to become rainfall to the ground. Likewise, inside a cold cloud, ice crystals can also grow to a size where they can break the buoyancy and fall out of the cloud's bottom, and when they pass through a temperature of 0 °C they will melt and become rain drops, also providing the ground with rain. When the water drops in a cloud are too small or there are not enough ice crystals to create rainfall, we can use artificial ways to create ice crystals or help small water drops grow, and thereby facilitate the formation of precipitation. This human influenced weather phenomenon is called artificial rain. There are many ways to make rain in a warm cloud, e.g. spraying water drops, hygroscopic powder or liquid (sodium chloride), etc, and letting the water drops grow though collision and coalescence to finally become rain. There are also many ways to make rain in a cold cloud, but the most common way is to use dry ice or silver iodide. This is mainly because the temperature of dry ice is -78 °C. Spreading dry ice in a cold cloud lacking ice crystals will rapidly reduce its temperature. Therefore we directly transform supercooled water into ice crystals, which will eventually become rain without the help of ice-crystal nuclei. Silver iodide, on the other hand, is a very effective ice-crystal nucleus. By adding it to a cloud, silver iodide acting as an ice-crystal nucleus can facilitate the solidification of water drops below -5 °C into ice crystals. Through the growing process the ice crystals under the coexistence of water drops, the rain will be formed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักการของฝนเทียมในโทรโพสเฟียร์ อุณหภูมิของชั้นบรรยากาศลงมา ด้วยความสูง ดังนั้น เมฆในโทรโพสเฟียร์จะต่ำกว่าอุณหภูมิจะขึ้นสูง และในทางกลับกัน เมื่ออุณหภูมิของเมฆเหนือ 0 ° C เมฆเรียกว่าเมฆอุ่น เมื่อมันต่ำกว่า 0 ° C มันเรียกว่าเมฆเย็น ภายในเมฆอุ่น หยดน้ำขนาดเล็กจะกลายเป็น คนใหญ่ผ่านชนและ coalescence และจะสุดท้ายแบ่งการลอยตัวของ cloud และหลุดออกจากตัวล่างจะกลายเป็น ฝนตกสู่พื้นดิน ในทำนองเดียวกัน ภายในเมฆเย็น น้ำแข็งผลึกยังสามารถเติบโตได้ขนาดที่สามารถทำลายการลอยตัว และตก จากด้านล่างของเมฆ และ เมื่อพวกเขาผ่านอุณหภูมิ 0 ° C จะละลาย และกลายเป็น ฝนหยด ให้พื้นดิน มีฝนตก เมื่อหยดน้ำในเมฆมีขนาดเล็กเกินไป หรือไม่มีผลึกน้ำแข็งเพียงพอในการสร้างฝน เราสามารถใช้วิธีประดิษฐ์สร้างผลึกน้ำแข็งหรือหยดน้ำเล็ก ๆ เติบโต และจึงอำนวยความสะดวกการก่อตัวของฝน ปรากฏการณ์สภาพอากาศได้รับอิทธิพลที่บุคคลนี้เรียกว่าฝนเทียม มีหลายวิธีในการทำฝนเมฆอุ่น เช่นพ่นหยดน้ำ hygroscopic ผง หรือของเหลว (โซเดียมคลอไรด์) ฯลฯ และปล่อยให้หยดน้ำที่เติบโตแม้ว่าชนและ coalescence กลายเป็น ฝนในที่สุด มีหลายวิธีในการทำฝนเมฆเย็น แต่วิธีพบมากที่สุดคือการ ใช้น้ำแข็งแห้งหรือซิลเวอร์ไอโอไดด์ ส่วนใหญ่เป็นเพราะอุณหภูมิของน้ำแข็งแห้งเป็น-78 องศาเซลเซียส กระจายน้ำแข็งแห้งในเมฆเย็นขาดผลึกน้ำแข็งอย่างรวดเร็วจะเป็นลดอุณหภูมิ ดังนั้น เราตรงเปลี่ยนน้ำ supercooled เป็นผลึกน้ำแข็ง ซึ่งก็จะกลายเป็นฝน โดยความช่วยเหลือของนิวเคลียสผลึกน้ำแข็ง ซิลเวอร์ไอโอไดด์ คง เป็นนิวเคลียสผลึกน้ำแข็งมีประสิทธิภาพมาก โดยเพิ่มเมฆ ซิลเวอร์ไอโอไดด์ทำหน้าที่เป็นนิวเคลียสน้ำแข็งคริสตัลสามารถอำนวยความสะดวกในการแข็งตัวของน้ำลดต่ำกว่า-5 ° C ที่เป็นผลึกน้ำแข็ง ผ่านการเติบโตกระบวนการผลึกน้ำแข็งภายใต้การอยู่ร่วมกันของหยดน้ำ จะเกิดฝน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลักการของฝนเทียมใน troposphere อุณหภูมิของบรรยากาศที่มีระดับความสูงลงมา ดังนั้นใน troposphere เมฆที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าในขณะที่พวกเขาเพิ่มขึ้นในระดับความสูงและในทางกลับกัน เมื่ออุณหภูมิเมฆสูงกว่า 0 องศาเซลเซียสเมฆที่เรียกว่าเมฆอุ่น เมื่อมันเป็นต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสก็จะเรียกว่าเมฆเย็น ภายในเมฆอุ่นหยดน้ำขนาดเล็กจะกลายเป็นคนที่มีขนาดใหญ่ผ่านการปะทะกันและการเชื่อมต่อกันและในที่สุดก็จะทำลายพยุงเมฆและตกออกมาจากด้านล่างของมันจะกลายเป็นปริมาณน้ำฝนลงไปที่พื้น ในทำนองเดียวกันภายในเมฆเย็นเกล็ดน้ำแข็งยังสามารถเจริญเติบโตให้มีขนาดที่พวกเขาสามารถทำลายการพยุงและตกออกมาจากด้านล่างของเมฆและเมื่อพวกเขาผ่านอุณหภูมิ 0 ° C ที่พวกเขาจะละลายและกลายเป็นหยดน้ำฝนที่ยังให้ พื้นดินที่มีฝนตก เมื่อหยดน้ำในเมฆที่มีขนาดเล็กเกินไปหรือมีไม่ผลึกน้ำแข็งเพียงพอที่จะสร้างปริมาณน้ำฝนเราสามารถใช้วิธีการประดิษฐ์ในการสร้างเกล็ดน้ำแข็งหรือช่วยให้หยดน้ำขนาดเล็กเติบโตและจึงอำนวยความสะดวกในการก่อตัวของฝน มนุษย์นี้ได้รับอิทธิพลปรากฏการณ์สภาพอากาศที่เรียกว่าฝนเทียม มีหลายวิธีที่จะทำให้ฝนตกลงมาในเมฆอบอุ่นเช่นการฉีดพ่นหยดน้ำ, ผงดูดความชื้นหรือของเหลว (โซเดียมคลอไรด์) ฯลฯ และปล่อยให้หยดน้ำเติบโต แต่การปะทะกันและการเชื่อมต่อกันไปจนกลายเป็นฝน นอกจากนี้ยังมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้ฝนตกลงมาในเมฆเย็น แต่วิธีที่ใช้กันมากที่สุดคือการใช้น้ำแข็งแห้งหรือไอโอไดด์เงิน นี้เป็นหลักเนื่องจากอุณหภูมิของน้ำแข็งแห้งเป็น -78 องศาเซลเซียส กระจายน้ำแข็งแห้งในเมฆเย็นขาดผลึกน้ำแข็งอย่างรวดเร็วจะช่วยลดอุณหภูมิของมัน ดังนั้นเราจึงได้โดยตรงเปลี่ยนน้ำ supercooled เข้าไปในผลึกน้ำแข็งซึ่งท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นฝนโดยความช่วยเหลือของนิวเคลียสน้ำแข็งใส ไอโอไดด์สีเงินบนมืออื่น ๆ ที่เป็นนิวเคลียสน้ำแข็งใสที่มีประสิทธิภาพมาก โดยการเพิ่มไปยังระบบคลาวด์, ไอโอไดด์เงินทำหน้าที่เป็นนิวเคลียสน้ำแข็งคริสตัลสามารถอำนวยความสะดวกในการแข็งตัวของน้ำลดลงต่ำกว่า -5 องศาเซลเซียสลงไปในผลึกน้ำแข็ง ผ่านกระบวนการการเจริญเติบโตผลึกน้ำแข็งภายใต้การอยู่ร่วมกันของหยดน้ำฝนจะเกิดขึ้น