การปฏิรูปศาสนาเกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีสาเหตุสำคัญมาจากความเป็นอยู่ของสันตะปาปาและพระชั้นสูงบางองค์มีความฟุ่มเฟือยทั้งยังเรียกเก็บภาษีบำรุงศาสนาสูงขึ้น เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในคริสตจักรในกรุงโรม ประกอบกับการศึกษาในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ทำให้ชาวยุโรปเห็นว่ามนุษย์สามารถทำความ เข้าใจคัมภีร์ไบเบิลได้ด้วยตนเองมากกว่าที่จะผ่านพิธีกรรมของศาสนจักรและเกิดความคิดที่จะปรับปรุงศาสนาให้บริสุทธิ์ สันตะปาปามีฐานะเป็นเจ้าผู้ปกครองฝ่ายศาสนจักร มีศูนย์กลางที่กรุงโรมได้เข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมืองของยุโรปและสันตะปาปาเข้าไปครอบงำรัฐต่างๆในเยอรมันทำให้เจ้าผู้ครองแคว้นต้องการเป็นอิสระทั้งจากจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันและจากผู้รักษาอำนาจของคริสตจักร คือ สันตะปาปา นอกจากนี้สันตะปาปาจูเลียตที่ 2 (Juliet II ค.ศ. 1506-1514) และสันตะปาปาลีโอที่ 10 (Leo X ค.ศ. 1514-1521) ต้องการงบประมาณในการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรม จึงส่งคณะสมณทูตมาขายใบยกโทษบาป (Indulgence Certificate) ในดินแดนเยอรมัน ใบยกโทษบาปเป็นอนุโมทนาบัตรแสดงว่าได้ชำระเงินตามกำหนดเพื่อพ้นจากบาป แต่ด้วยภาวะทางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปทำให้เกิดกลุ่มต่อต้านคริสตจักรขึ้น ทำให้เป็นสาเหตุของการนำมาปฏิรูปศาสนาซึ่งทำให้เห็นว่าสาเหตุที่สำคัญของการปฏิรูปศาสนามีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกันในทั้งทางด้านสังคม การปกครองและทางด้านศาสนา