Biodiesel has been considered as on

Biodiesel has been considered as one of the substitutes for fossil fuels in recent years, and also a type
of renewable energy source due to their biodegradability, negligible SOx emissions and mitigation of
global warming [1]. Biodiesel has excellent lubricity and could provide similar energy density to diesel
[2-4]. It burns much cleaner than petroleum diesel as it contains oxygen and reduces most emissions
(CO2, CO, particulate, except NOx). Biodiesel does not require new refueling stations, new parts
inventories or expensive engine modifications [5-9]. Europe, the US, and many developing countries
(e.g., Brazil, India, Indonesia and China), have initiated a large-scale biodiesel production and set up their
targets for the national long-term energy planning.
Chemically, biodiesel consists of fatty acid methyl esters (FAMEs) that can be produced from various
lipid sources by transesterification reaction with alcohol in the presence of a base, acid, enzyme or solid
catalyst [2,4,10,11]. Depending upon the climate and soil conditions, different countries are looking for
different types of vegetable oils as substitutes for diesel fuels [12]. However, biodiesel has been strongly
criticized because vegetable oils require cultivation of crops like rapeseed, palm, sunflower and soybean,
which involves long extension of lands. In this sense biodiesel production encourage competition for the
land as well as for the final use of cultivated crops. In addition, deforestation of forests has been in a
constant increase (like in Indonesia, Malaysia and Brazil) as a consequence of longer extensions of lands
required for biofuels production. In contrast, third generation biodiesel feedstocks, which are derived
from microalgae, have emerged as one of the most promising alternative sources of lipid for use in
biodiesel production because of their high photosynthetic efficiency to produce biomass and their higher
growth rates and productivity compared to conventional crops [13]. In addition to their fast reproduction,
they are easier to cultivate than many others types of plants and can produce a higher yield of oil for
biodiesel production.
There has been much research on the optimization of algal growth [14-15], harvesting [15-17] and
trasesterification [18-20], lipid extraction techniques have not been well studied. Traditionally algal oils
have been extracted using noxious organic solvents, (e.g. hexane, chloroform, methanol); however, there
are high costs, health and safety concerns and significant wastes associated with these processes. While
the conventional extraction process is effective for analysis, it is also non-selective, time consuming,
wasteful, uses toxic substances and is inefficient [21]. This process requires dry algae starting material,
which is time consuming and energy intensive [22]. An alternative to solvent based extraction processes
is extraction by supercritical fluid. Supercritical carbon dioxide (SCCO2) is the primary solvent used in
the majority of supercritical fluid extractions. Its moderate critical pressure (72.9 bar) allows for a modest
compression cost, while its low critical temperature (31.1 °C) enables successful extraction of thermally
sensitive lipid fractions without degradation. SCCO2 facilitates a safe extraction due to its low toxicity,
low flammability, and lack of reactivity [23-24].
In this study, the performance of SCCO2 extraction and hexane extraction was evaluated based on the
yield and the fatty acid composition of the lipids extracted from microalgae under different conditions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไบโอดีเซลได้รับการพิจารณาเป็นหนึ่งแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิลในปีที่ผ่านมา และชนิดแหล่งพลังงานทดแทนของ biodegradability ปล่อยท่านระยะ และบรรเทาสาธารณภัยของโลกร้อน [1] ไบโอดีเซลมีการหล่อลื่นที่ดีเยี่ยม และสามารถให้ความหนาแน่นของพลังงานคล้ายกับน้ำมันดีเซล[2-4] การเผามากสะอาดกว่าน้ำมันดีเซลมันประกอบด้วยออกซิเจน และลดการปล่อยก๊าซมากที่สุด(CO2, CO ฝุ่น ยกเว้นโรงแรมน็อกซ์) ไบโอดีเซลไม่ต้องใหม่แวะสถานี ชิ้นส่วนใหม่สินค้าคงคลังหรือการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ [5-9] ยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศกำลังพัฒนา(เช่น บราซิล อินเดีย อินโดนีเซีย และประเทศจีน), มีการผลิตไบโอดีเซลขนาดใหญ่สำหรับการเริ่มต้น และตั้งค่าของพวกเขาเป้าหมายสำหรับชาติระยะยาวพลังงานวางแผนสารเคมี ไบโอดีเซลประกอบด้วยกรดไขมัน methyl esters (FAMEs) ที่สามารถผลิตได้จากที่ต่าง ๆแหล่งไขมัน โดยการเพิ่มปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ในต่อหน้าของฐาน กรด เอนไซม์ หรือของแข็งcatalyst [2,4,10,11] ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศและดิน ต่างประเทศกำลังมองหาชนิดต่าง ๆ ของน้ำมันพืชแทนที่เชื้อเพลิงดีเซล [12] อย่างไรก็ตาม ไบโอดีเซลได้อย่างยิ่งวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากน้ำมันพืชต้องการเพาะปลูกของพืชเช่นเมล็ดต้นเรพ ปาล์ม ทานตะวัน และถั่ว เหลืองที่เกี่ยวข้องกับส่วนขยายที่ยาวของที่ดิน ในไบโอดีเซลความรู้สึกนี้ ผลิตส่งเสริมการแข่งขันในการเช่นที่ดินสำหรับใช้ปลูกพืชขั้นสุดท้าย ป่าถูกทำลายได้รับในการเพิ่มขึ้นคง (เช่นในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และบราซิล) เป็นลำดับการขยายยาวของที่ดินจำเป็นสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ในทางตรงข้าม สามรุ่นไบโอดีเซลวมวล ที่มาจาก microalgae ได้เกิดเป็นไขมันสำหรับใช้ในแหล่งอื่นว่าผลิตไบโอดีเซลเนื่องจากประสิทธิภาพของ photosynthetic สูงในการผลิตชีวมวลและความสูงอัตราการเจริญเติบโตและผลผลิตเปรียบเทียบกับพืชทั่วไป [13] นอกจากการสืบพันธุ์ของพวกเขาอย่างรวดเร็วพวกเขาจะง่ายต่อการเพาะปลูกกว่าผู้อื่นหลายชนิดของพืช และสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นของน้ำมันสำหรับการผลิตไบโอดีเซลมีงานวิจัยมากในการเพิ่มประสิทธิภาพของสาหร่าย [14-15], [15-17] การเก็บเกี่ยว และtrasesterification [18-20], สกัดไขมันเทคนิคมีไม่ได้เช่นศึกษา น้ำมันประเพณี algalแยกใช้สามารถสลายตัวอินทรีย์หรือสารทำละลาย, (เช่นเฮกเซน คลอโรฟอร์ม เมทานอล); อย่างไรก็ตาม มีมีต้นทุนสูง สุขภาพและความปลอดภัยความกังวล และเสียสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านี้ ในขณะที่กระบวนการสกัดแบบเดิมคือการวิเคราะห์ ก็ยังไม่ใช้ ใช้เวลา นานwasteful ใช้สารพิษ และเป็นต่ำ [21] กระบวนการนี้ต้องการวัสดุ เริ่มต้นสาหร่ายแห้งซึ่งเป็นการใช้เวลาและพลังงานเร่งรัด [22] กระบวนการสกัดโดยใช้ทางเลือกตัวทำละลายการสกัด ด้วยน้ำมัน supercritical Supercritical คาร์บอนไดออกไซด์ (SCCO2) เป็นตัวทำละลายหลักที่ใช้ในส่วนใหญ่สกัด supercritical fluid ความดันสำคัญปานกลาง (แถบ 72.9) ช่วยให้การเจียมเนื้อเจียมตัวรวมต้นทุน ในขณะอุณหภูมิสำคัญต่ำ (31.1 องศา C) ช่วยให้ประสบความสำเร็จสกัดแพส่วนไขมันที่สำคัญโดยไม่ลดประสิทธิภาพ SCCO2 ช่วยสกัดปลอดภัยเนื่องจากความเป็นพิษต่ำflammability ต่ำ และไม่เกิดปฏิกิริยา [23-24]ในการศึกษานี้ ประสิทธิภาพของ SCCO2 สกัดและเฮกเซนสกัดถูกประเมินตามผลผลิตและองค์ประกอบกรดไขมันของโครงการสกัดจาก microalgae ภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไบโอดีเซลได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในสารที่ใช้แทนสำหรับเชื้อเพลิงฟอสซิลในปีที่ผ่านมาและยังมีประเภทของแหล่งพลังงานทดแทนเนื่องจากการย่อยสลายทางชีวภาพของพวกเขาการปล่อย SOx เล็กน้อยและบรรเทาผลกระทบของภาวะโลกร้อน[1] ไบโอดีเซลมีการหล่อลื่นที่ดีเยี่ยมและสามารถให้ความหนาแน่นของพลังงานคล้ายกับดีเซล[2-4] มันจะเผาไหม้มากสะอาดกว่าน้ำมันดีเซลเนื่องจากมีออกซิเจนและลดการปล่อยมากที่สุด(CO2, CO, อนุภาคยกเว้น NOx) ไบโอดีเซลไม่จำเป็นต้องมีสถานีเติมน้ำมันใหม่ชิ้นส่วนใหม่สินค้าคงเหลือหรือการดัดแปลงเครื่องยนต์ที่มีราคาแพง [5-9] ยุโรปสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศที่กำลังพัฒนา(เช่นบราซิลอินเดียอินโดนีเซียและจีน) ได้เริ่มมีการผลิตไบโอดีเซลขนาดใหญ่และการตั้งค่าของพวกเขาเป้าหมายในการวางแผนพลังงานในระยะยาวของชาติ. เคมีไบโอดีเซลประกอบด้วยกรดไขมัน เมทิลเอสเตอร์ (FAMEs) ที่สามารถผลิตได้จากต่างๆแหล่งไขมันจากปฏิกิริยาtransesterification กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการปรากฏตัวของฐานกรดเอนไซม์หรือของแข็งตัวเร่งปฏิกิริยา [2,4,10,11] ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศและดินที่ประเทศต่าง ๆ กำลังมองหาชนิดของน้ำมันพืชทดแทนเชื้อเพลิงดีเซล[12] อย่างไรก็ตามไบโอดีเซลที่ได้รับการขอวิพากษ์วิจารณ์เพราะน้ำมันพืชจำเป็นต้องมีการเพาะปลูกของพืชเช่นเมล็ดต้นปาล์มทานตะวันและถั่วเหลืองที่เกี่ยวข้องกับการขยายความยาวของดินแดน ในการผลิตไบโอดีเซลแง่นี้ส่งเสริมการแข่งขันสำหรับที่ดินเช่นเดียวกับการใช้งานขั้นสุดท้ายของพืชที่ปลูก นอกจากนี้การตัดไม้ทำลายป่าของป่าที่ได้รับในการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เช่นในประเทศอินโดนีเซียมาเลเซียและบราซิล) เป็นผลมาจากนามสกุลนานของดินแดนจำเป็นสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ ในทางตรงกันข้ามวัตถุดิบผลิตไบโอดีเซลรุ่นที่สามซึ่งจะได้มาจากสาหร่ายได้กลายเป็นหนึ่งในแหล่งทางเลือกที่มีแนวโน้มมากที่สุดของไขมันเพื่อใช้ในการผลิตไบโอดีเซลเนื่องจากมีประสิทธิภาพการสังเคราะห์แสงของพวกเขาสูงในการผลิตชีวมวลและสูงกว่าอัตราการเจริญเติบโตและผลผลิตเมื่อเทียบกับการชุมนุมพืช [13] นอกเหนือไปจากการทำสำเนาอย่างรวดเร็วของพวกเขาพวกเขาจะง่ายต่อการเพาะปลูกกว่าคนอื่น ๆ หลายชนิดของพืชและสามารถผลิตเป็นอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นของน้ำมันสำหรับการผลิตไบโอดีเซล. ได้มีการวิจัยมากในการเพิ่มประสิทธิภาพของการเติบโตของสาหร่าย [14-15] เก็บเกี่ยว [15 -17] และtrasesterification [18-20] เทคนิคการสกัดไขมันยังไม่ได้รับการศึกษาดี น้ำมันสาหร่ายเดิมได้รับการสกัดโดยใช้ตัวทำละลายอินทรีย์พิษ (เช่นเฮกเซนคลอโรฟอร์มเมทานอล); แต่มีค่าใช้จ่ายสูงสุขภาพและความกังวลด้านความปลอดภัยและของเสียอย่างมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านี้ ในขณะที่กระบวนการสกัดแบบเดิมมีประสิทธิภาพสำหรับการวิเคราะห์ก็ยังไม่ได้รับเลือกเสียเวลาสิ้นเปลืองที่ใช้สารพิษและไม่มีประสิทธิภาพ[21] ขั้นตอนนี้ต้องใช้สาหร่ายแห้งวัสดุที่เริ่มต้นที่จะเสียเวลาและพลังงานอย่างเข้มข้น [22] ทางเลือกในการทำละลายกระบวนการสกัดตามคือการสกัดโดยของเหลว supercritical ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ supercritical (SCCO2) เป็นตัวทำละลายที่ใช้ในการหลักส่วนใหญ่ของการสกัดด้วยของไหล ความดันที่สำคัญในระดับปานกลาง (72.9 บาร์) ช่วยให้เจียมเนื้อเจียมตัวค่าใช้จ่ายในการบีบอัดในขณะที่อุณหภูมิวิกฤตที่ต่ำ(31.1 ° C) ช่วยให้ประสบความสำเร็จในการสกัดความร้อนที่มีความสำคัญเศษส่วนโดยไม่ต้องย่อยสลายไขมัน SCCO2 อำนวยความสะดวกในการสกัดปลอดภัยอันเนื่องมาจากความเป็นพิษต่ำของการติดไฟต่ำและขาดการเกิดปฏิกิริยา[23-24]. ในการศึกษานี้ผลการดำเนินงานของการสกัด SCCO2 และการสกัดเฮกเซนได้รับการประเมินขึ้นอยู่กับผลผลิตและองค์ประกอบของกรดไขมันไขมันที่สกัดจากสาหร่ายทะเลขนาดเล็กภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไบโอดีเซลที่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในสินค้าที่ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลในปีล่าสุด และยังเป็นประเภท
ของแหล่งพลังงานทดแทน เนื่องจากย่อยสลายทางชีวภาพของพวกเขาปล่อยทีมกระจอกและบรรเทาภาวะโลกร้อน
[ 1 ] ไบโอดีเซลมีการหล่อลื่นที่ดีเยี่ยมและสามารถให้ความหนาแน่นของพลังงานคล้ายกับดีเซล
[ 2-4 ]มันแสบมากสะอาดกว่าดีเซลปิโตรเลียมตามที่มันมีออกซิเจน และลดการปล่อยก๊าซมาก
( CO2 CO , อนุภาค , ยกเว้น NOx ) ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงไบโอดีเซลใหม่สถานี สินค้าคงคลัง ชิ้นส่วนใหม่หรือการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์แพง
[ 5-9 ] ยุโรป สหรัฐอเมริกา และหลายประเทศกำลังพัฒนา
( เช่น บราซิล อินเดีย อินโดนีเซีย และจีน )ได้ริเริ่มการผลิตไบโอดีเซลขนาดใหญ่และตั้งค่าเป้าหมายเพื่อชาติ แผนพลังงานระยะยาว
.
เคมี ไบโอดีเซลประกอบด้วยกรดไขมันเมทิลเอสเทอร์ ( FAMEs ) ที่สามารถผลิตได้จากแหล่งต่าง ๆโดยกระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่นของ
ปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ในการแสดงตนของฐาน , กรด , เอนไซม์หรือตัวเร่งปฏิกิริยาของแข็ง
2,4,10,11 ] ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสภาพดินหลายประเทศกำลังมองหา
ชนิดของน้ำมันพืชเป็นเชื้อเพลิงทดแทนดีเซล [ 12 ] อย่างไรก็ตาม ไบโอดีเซลได้ถูกขอ
วิจารณ์เพราะน้ำมันพืชมีการปลูกพืช เช่น เมล็ดทานตะวัน และ ปาล์ม ถั่วเหลือง
ซึ่งเกี่ยวข้องกับนามสกุลยาวของที่ดิน ในการผลิตไบโอดีเซลให้ความรู้สึกสำหรับการแข่งขัน
ที่ดิน เช่นเดียวกับการใช้ขั้นสุดท้ายของการปลูกพืช นอกจากนี้ ความเสื่อมโทรมของป่าได้ใน
เพิ่มคงที่ ( เช่นในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และบราซิล ) เป็นผลมาจากการขยายอีกต่อไปที่ดิน
ที่จําเป็นสําหรับการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ . ในทางตรงกันข้าม , รุ่นที่สามไบโอดีเซลวัตถุดิบซึ่งได้มาจากสาหร่ายขนาดเล็ก
,ได้กลายเป็นหนึ่งในแนวโน้มมากที่สุดทางเลือกแหล่งที่มาของไขมันเพื่อใช้ในการผลิตไบโอดีเซล เนื่องจากตน
แสงประสิทธิภาพสูงเพื่อผลิตชีวมวลและสูงกว่าอัตราการเติบโตและผลผลิต
เมื่อเทียบกับปกติพืช [ 13 ] นอกเหนือจากการสืบพันธุ์รวดเร็วของพวกเขา พวกเขาจะง่ายต่อการปลูก
กว่าหลาย ๆ ชนิดของพืช และสามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าน้ำมันสำหรับ
การผลิตไบโอดีเซล .
มีงานวิจัยมากในการเพิ่มประสิทธิภาพของการเจริญเติบโตของสาหร่าย [ 14 ] , เก็บเกี่ยว [ 17 ] และ
trasesterification [ 1 ] , เทคนิคการสกัดไขมันยังไม่ได้รับการศึกษามากนัก ผ้าคาร์บอนน้ำมัน
ได้รับการสกัดโดยใช้ตัวทำละลายอินทรีย์พิษ ( เช่น เฮกเซน , คลอโรฟอร์ม , เมทานอล ) ; แต่มี
เป็นค่าใช้จ่ายสูงความกังวลเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยและของเสียที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านี้ ในขณะที่
ขั้นตอนการสกัดแบบมีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ ก็ยังไม่เลือก บริโภค เวลา
สิ้นเปลืองการใช้สารพิษและไม่มีประสิทธิภาพ [ 21 ] กระบวนการนี้ต้องใช้บริการของสาหร่ายเริ่มต้นวัสดุ
ซึ่งเป็นเวลานาน และใช้พลังงานเข้มข้น [ 22 ]ทางเลือกที่จะใช้ตัวทำละลายการสกัด
คือการสกัดด้วยของไหลภาวะเหนือวิกฤต . คาร์บอนไดออกไซด์ ( scco2 ) คือการใช้ตัวทำละลายในการสกัด supercritical fluid
ส่วนใหญ่ . วิจารณ์แรงดันปานกลาง ( ส่วนใหญ่ของบาร์ ) ช่วยให้ต้นทุนการเจียมเนื้อเจียมตัว
, ในขณะที่อุณหภูมิวิกฤตของต่ำ ( 31.1 ° C ) ช่วยให้ประสบความสำเร็จในการสกัดแช
ความไวของเศษส่วน โดยไม่มีการย่อยสลาย scco2 อำนวยความสะดวกการสกัดปลอดภัยเนื่องจากความเป็นพิษต่ำ
flammability ต่ำ และขาดประสิทธิภาพ [ 23-24 ] .
ในการศึกษาประสิทธิภาพของการสกัดและประเมินฤทธิ์ scco2 สกัดตาม
ผลผลิตและองค์ประกอบกรดไขมันของไขมันที่สกัดได้จากสาหร่ายขนาดเล็กภายใต้เงื่อนไขที่แตกต่างกัน