Overall, mango (Mangifera indica) w

Overall, mango (Mangifera indica) was the most frequently
eaten fruit, which was consumed by 10 bats.
Bananas (Musa sp.) ranked second (n ¼ 7 bats), and
tamarind (Tamarindus indica) third (n ¼ 6 bats). Figs (Ficus
spp.) represented the most common genus with the highest
percentage in the total number of food plant species (20.6%,
n ¼ 7). Almost half of the 34 food plant species (47.1%,
n ¼ 16) were each consumed by only 1 individual. For both
study periods, the list of food plants comprised various
native species such as Chinese fig (Ficus microcarpa),
monkey jack (Artocarpus lakoocha), ivy gourd (Coccinia
grandis), and gaub tree (Diospyros malabarica) as well as
introduced trees, for example strawberry tree (Muntingia
calabura), papaya (Carica papaya), and cashew (Anacardium
occidentale). All of the fruits consumed by the bats are
considered useful for humans to some degree, and many of
them are likely dispersed by the bats. Some fruits are of high
economic value such as mango and cashew. Others, such as
the native fig trees, are appreciated for their shade. The
mangrove apple (Sonneratia caseolaris) constitutes the only
species that does not grow on agricultural land, and it was
restricted to the only mangroves in the study area along the
Bang Pakong River.
Diet of the bats varied between seasons. The overall
number of food plant species recorded during November
(n ¼ 27) was considerably higher than during April (n ¼ 17).
In addition, we recorded more food plant species exclusively
in November (n ¼ 17) than in April (n ¼ 7). Composition of
food plant species was less similar between individuals during
different seasons than within seasons (Mann–Whitney Utest:
T ¼ 2,903, P ¼ 0.002; Fig. 2). Tracked bats tended to
use a higher number of food plant species per individual in

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยรวม มะม่วง (Mangifera indica) ได้บ่อยที่สุดกินผลไม้ ซึ่งถูกใช้ โดยค้างคาว 10กล้วย (Musa sp.) อันดับที่สอง (n ¼ 7 ค้างคาว), และมะขาม (Tamarindus indica) สาม (ค้างคาว¼ 6 n) มะเดื่อ (ฟิคัสโอ) แสดงตระกูลนี้มากที่สุดกับสูงสุดเปอร์เซ็นต์ในจำนวนของชนิดพืชอาหาร (20.6%n ¼ 7) เกือบครึ่งหนึ่งของสปีชีส์พืชอาหาร 34 (47.1%n ¼ 16) แต่ละใช้ โดยบุคคลที่ 1 สำหรับทั้งสองรอบระยะเวลา ศึกษาประกอบด้วยรายชื่อพืชอาหารต่าง ๆพันธุ์พื้นเมืองเช่นฟิกจีน (ทู่),ลิงแจ็ค (Artocarpus lakoocha) ไอวี่บวบ (Cocciniaแกรนดิส), และแผนภูมิ gaub (มะพลับ) เป็นนำต้นไม้ เช่นสตรอเบอร์รี่ทรี (ตะขบฝรั่งcalabura), มะละกอ (มะละกอ Carica), และมะม่วงหิมพานต์ (Anacardiumoccidentale) ผลไม้ที่ใช้ค้างคาวทั้งหมดถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับมนุษย์บางส่วน และมากมายนอกจากนี้พวกเขามีแนวโน้มที่ออก โดยค้างคาว ผลไม้บางอย่างจะสูงมูลค่าทางเศรษฐกิจเช่นมะม่วงและมะม่วงหิมพานต์ อื่น ๆ เช่นการฟิกนี่ กำลังนิยมสำหรับเงาของพวกเขา ที่ป่าชายเลนแอปเปิ้ล (Sonneratia caseolaris) ถือเฉพาะชนิดที่ไม่เจริญเติบโตในด้านการเกษตรที่ดิน และก็จำกัดย่างเดียวในพื้นที่ศึกษาตามแม่น้ำบางปะกงอาหารของค้างคาวที่แตกต่างกันระหว่างฤดูกาล โดยรวมบันทึกจำนวนของชนิดพืชอาหารในระหว่างเดือนพฤศจิกายน(n ¼ 27) ถูกมากสูงกว่าในช่วงเดือนเมษายน (n ¼ 17)นอกจากนี้ เราบันทึกชนิดพืชอาหารเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน (n ¼ 17) กว่าในเดือนเมษายน (¼ 7 n) องค์ประกอบของชนิดพืชอาหารน้อยลงระหว่างบุคคลระหว่างฤดูที่แตกต่างกว่าในซีซั่น (มานน์ – วิทนีย์ Utest:T 2,903 ¼ P ¼ 0.002 Fig. 2) ค้างคาวที่มีแนวโน้มที่จะติดตามใช้ของชนิดพืชอาหารต่อบุคคลใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยรวม, มะม่วง (Mangifera indica)
เป็นบ่อยที่สุดผลไม้กินซึ่งได้รับการบริโภคโดย10 ค้างคาว.
กล้วย (Musa Sp.) อันดับที่สอง (n ¼ 7 ค้างคาว)
และมะขาม(มะขาม) ที่สาม (n ¼ 6 ค้างคาว) มะเดื่อ (Ficus
spp.)
เป็นตัวแทนของประเภทที่พบมากที่สุดที่มีมากที่สุดร้อยละของจำนวนรวมของพันธุ์พืชอาหาร(20.6%
n ¼ 7) เกือบครึ่งหนึ่งของสายพันธุ์พืชอาหาร 34 (47.1%
n ¼ 16) แต่ละคนบริโภคโดยเพียง 1 ราย ทั้งระยะเวลาการศึกษารายชื่อพืชอาหารที่ประกอบด้วยต่างๆพันธุ์พื้นเมืองเช่นจีนมะเดื่อ(Ficus microcarpa), แจ็คลิง (Artocarpus lakoocha) ตำลึง (Coccinia grandis) และต้นไม้ gaub (มะพลับ) เช่นเดียวกับต้นไม้แนะนำตัวอย่างเช่นต้นสตรอเบอร์รี่ (ตะขบฝรั่งcalabura) มะละกอ (Carica มะละกอ) และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ (Anacardium Occidentale) ทั้งหมดของผลไม้ที่บริโภคโดยค้างคาวจะถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับมนุษย์ในระดับหนึ่งและอีกหลายแห่งที่พวกเขามีแนวโน้มที่จะแยกย้ายกันไปโดยค้างคาว ผลไม้บางชนิดที่มีความสูงมูลค่าทางเศรษฐกิจเช่นมะม่วงและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อื่น ๆ เช่นต้นมะเดื่อพื้นเมืองที่มีความนิยมของพวกเขาเพื่อให้ร่มเงา แอปเปิ้ลป่าชายเลน (Sonneratia caseolaris) ถือเป็นเพียงสายพันธุ์ที่ไม่ได้เติบโตในที่ดินเพื่อการเกษตรและมันก็ถูกจำกัด ให้เฉพาะป่าชายเลนในพื้นที่ศึกษาตามแนวแม่น้ำบางปะกง. อาหารของค้างคาวแตกต่างกันระหว่างฤดูกาล โดยรวมจำนวนชนิดพืชอาหารที่บันทึกไว้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน(n ¼ 27) เป็นสูงกว่าในช่วงเดือนเมษายน (n ¼ 17). นอกจากนี้เราบันทึกพันธุ์พืชอาหารมากขึ้นโดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน (n ¼ 17) กว่าในเดือนเมษายน (n ¼ 7) องค์ประกอบของพันธุ์พืชอาหารได้น้อยที่คล้ายกันระหว่างบุคคลในช่วงฤดูกาลที่แตกต่างกว่าภายในฤดูกาล(Mann-Whitney Utest:. T ¼ 2903, P ¼ 0.002; รูปที่ 2) ค้างคาวติดตามแนวโน้มที่จะใช้เป็นจำนวนที่สูงขึ้นของสายพันธุ์พืชอาหารต่อในแต่ละ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยรวม , มะม่วง ( มะม่วง ) เป็นบ่อยที่สุด
กินผลไม้ซึ่งถูกใช้ โดย 10 ค้างคาว .
กล้วย ( Musa sp . ) อันดับ 2 ( N ¼ 7 ค้างคาว ) และมะขาม ( tamarindus indica )
3 ( N ¼ 6 ค้างคาว ) มะเดื่อ ( Ficus
spp . ) สกุลที่พบมากที่สุดเป็นตัวแทนที่มีเปอร์เซ็นต์สูงสุด
ในจำนวนของชนิดพืชอาหาร ( 20.6 %
n ¼ 7 ) เกือบครึ่งหนึ่งของอาหารพืช ( 47.1 %
34 ชนิดN ¼ 16 ) แต่ละคน บริโภคเพียง 1 บุคคล ทั้ง
ศึกษาระยะเวลา รายชื่อพืชอาหารประกอบด้วยชนิดพันธุ์พื้นเมืองต่างๆ
เช่นจีนมะเดื่อ ( Ficus microcarpa )
ลิงแจ็ค ( ขนุนมะหาด ) ตำลึง ( coccinia
grandis ) และ gaub ต้นไม้ ( มะพลับ ) รวมทั้ง
แนะนำต้นไม้ เช่น สตรอเบอรี่ ( ตะขบฝรั่ง
คัลบูรา ) มะละกอ ( มะละกอ ) , และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ( anacardium
มะม่วงหิมพานต์ ) ทั้งหมดของผลไม้ที่บริโภคโดยค้างคาว
ถือว่ามีประโยชน์สำหรับมนุษย์ไปบางส่วน และส่วนมากของพวกเขาจะมีโอกาส
กระจายโดยค้างคาว ผลไม้บางอย่างมีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง
เช่นมะม่วงและมะม่วงหิมพานต์ คนอื่น ๆเช่น
ต้นไม้มะเดื่อพื้นเมือง ชื่นชมเงาของพวกเขา
ป่าชายเลนแอปเปิ้ล ( ลำพู ) ถือเป็นเพียง
ชนิดที่ไม่ได้ขึ้นบนที่ดิน และมันคือ
จำกัดเพียงป่าชายเลนในพื้นที่ศึกษาตาม

อาหารของแม่น้ำบางปะกง ค้างคาวที่แตกต่างกันระหว่างฤดูกาล จำนวนรวมของพืชอาหารชนิดที่บันทึกไว้ในระหว่าง

( N ¼ 27 พฤศจิกายน ) เป็นสำคัญ ในช่วงเดือนเมษายน ( N ¼ 17 ) .
นอกจากนี้ เราบันทึกชนิดพืชอาหารมากขึ้นโดยเฉพาะ
ในเดือนพฤศจิกายน ( N ¼ 17 ) มากกว่าในเดือนเมษายน ( N ¼ 7 ) ส่วนประกอบของชนิดพืชอาหารน้อย

ที่คล้ายคลึงกันระหว่างบุคคลในช่วงฤดูกาลต่าง ๆ กว่าในฤดูกาล ( Mann Whitney utest :
t ¼–โฆษณาฟรี , p ¼ 0.002 ; รูปที่ 2 ) ติดตามค้างคาวมีแนวโน้ม
ใช้ปริมาณพืชอาหารชนิดต่อบุคคลใน