Several environmental management la

Several environmental management laws which prohibit illegal
waste dumping and also give full responsibility to local administrations
in developing ordinances and regulating solid waste management
systems including collection fees in Thailand. One of
these is the 1992 Environmental Protection Act (Ministry of Natural
Resources and Environment of Thailand, 2007; Thongkaimook,
2005). A National Integrated Waste Management Plan also exists
for Thailand. The plan is focused on the sustainable consumption
of natural resources and the application of the ‘cradle to cradle’
concept, including control of waste generation at sources, increased
waste separation to facilitate recycling and enhancement
of waste utilization efficiently prior to final disposal; and a reduction
by 30% of total waste generated by 2009 (Thongkaimook,
2005). To make the law more effective, the Government also aims
to promote the private sector’s role in research and development
for the recycling of raw materials and clean technologies; and discourage
the importation of industrial waste. In addition to this,
Thailand’s energy strategy and policy makes a provision for the
integration of recycling into the energy conservation plan. One of
the key objectives of this plan is to achieve a national recycling
target of 50% by the year 2008 (Energy Research Institute, 2000).
To enhance the successful implementation of these plans, in the
context of construction waste management, it is also necessary
that an assessment of the volume and characteristics of construction
waste being generated in the country be conducted as the
information obtained for such a study could be a vital input for
analyzing the feasibility of wide-scale construction waste recycling
in Thailand.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กฎหมายสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้องห้ามเสียการถ่ายโอนข้อมูล และยัง ให้ความรับผิดชอบทั้งการจัดการท้องถิ่นในการพัฒนาข้อ และควบคุมของแข็งการจัดการขยะระบบรวมทั้งค่าธรรมเนียมการเรียกเก็บเงินในประเทศไทย หนึ่งเหล่านี้คือ 1992 สิ่งแวดล้อมป้องกัน (กระทรวงของธรรมชาติทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย 2007 Thongkaimook2005) . A ชาติรวมขยะจัดการวางแผนยังมีอยู่สำหรับประเทศไทย แผนเน้นการบริโภคอย่างยั่งยืนทรัพยากรธรรมชาติและใช้ 'อู่ไปอู่'แนวคิด รวมถึงการสร้างขยะที่แหล่ง เพิ่มเสียแยกเพื่อรีไซเคิลและปรับปรุงของเสียการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพก่อนการกำจัดขั้นสุดท้าย และลดโดย 30% ของขยะทั้งหมดที่สร้างขึ้น (Thongkaimook, 20092005) ขึ้นเพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น รัฐบาลยังจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในการวิจัยและพัฒนาการรีไซเคิลวัตถุดิบและเทคโนโลยีสะอาด และกีดกันนำเข้าของเสียอุตสาหกรรม นอกจากนี้นโยบายและยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศไทยทำส่วนสำรองสำหรับการรวมของรีไซเคิลในแผนอนุรักษ์พลังงาน หนึ่งวัตถุประสงค์หลักของแผนนี้คือการ บรรลุการรีไซเคิลแห่งชาติเป้าหมาย 50% โดยปี 2551 (พลังงาน สถาบันวิจัย 2000)เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานประสบความสำเร็จของแผนเหล่านี้ ในการบริบทของการก่อสร้างเสีย ยังจำเป็นซึ่งการประเมินปริมาณและลักษณะของงานก่อสร้างขยะที่ถูกสร้างขึ้นในประเทศที่ดำเนินการเป็นการข้อมูลที่ได้รับสำหรับการศึกษาสามารถป้อนข้อมูลที่สำคัญสำหรับวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการรีไซเคิลขยะก่อสร้างมาตราส่วนทั้งในประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กฎหมายการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมหลายอย่างที่ผิดกฎหมายห้ามทิ้งขยะและยังให้ความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในการปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนากฎหมายและการควบคุมการจัดการขยะมูลฝอยระบบรวมถึงค่าคอลเลกชันในประเทศไทย หนึ่งในเหล่านี้คือพระราชบัญญัติคุ้มครองสิ่งแวดล้อมปี 1992 (กระทรวงธรรมชาติทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย2007; ทองไข่มุก, 2005) แผนบริหารจัดการของเสียแบบบูรณาการแห่งชาติยังมีอยู่ในประเทศไทย แผนจะมุ่งเน้นไปที่การบริโภคอย่างยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและการประยุกต์ใช้ของ 'อู่ที่อู่' แนวคิดรวมทั้งการควบคุมของเสียที่แหล่งที่มาเพิ่มขึ้นแยกขยะรีไซเคิลเพื่ออำนวยความสะดวกและการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อนที่จะมีการกำจัดขั้นสุดท้าย; และการลดลงโดย 30% ของเสียรวมที่สร้างขึ้นโดย 2009 (ทองไข่มุก, 2005) เพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้นที่รัฐบาลยังมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในการวิจัยและพัฒนาเพื่อการรีไซเคิลของวัตถุดิบและเทคโนโลยีที่สะอาด; และกีดกันการนำเข้าของเสียอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยุทธศาสตร์พลังงานของไทยและนโยบายที่ทำให้ข้อกำหนดสำหรับการที่บูรณาการของการรีไซเคิลในแผนอนุรักษ์พลังงาน หนึ่งในวัตถุประสงค์หลักของแผนนี้คือการประสบความสำเร็จในการรีไซเคิลแห่งชาติเป้าหมาย50% โดยในปี 2008 (สถาบันวิจัยพลังงาน, 2000). เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จของแผนเหล่านี้ในบริบทของการจัดการของเสียการก่อสร้างก็ยังเป็นจำเป็นว่าการประเมินของปริมาณและลักษณะของการก่อสร้างของเสียถูกสร้างขึ้นในประเทศที่มีการดำเนินการเป็นข้อมูลที่ได้รับการศึกษาดังกล่าวอาจจะมีการป้อนข้อมูลที่สำคัญสำหรับการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของการก่อสร้างกว้างขนาดรีไซเคิลของเสียในประเทศไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายการจัดการสิ่งแวดล้อมกฎหมายซึ่งห้ามมิให้ทิ้งขยะผิดกฎหมาย


และยังรับผิดชอบการบริหารงานท้องถิ่นในการพัฒนากฎหมายและควบคุมระบบการจัดการมูลฝอย รวมทั้งค่า
คอลเลกชันในประเทศไทย หนึ่งในเหล่านี้เป็น 1992
Environmental Protection Act ( กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย

thongkaimook , 2007 ; , 2005 )แผนการจัดการขยะแบบบูรณาการแห่งชาติยังอยู่
สำหรับประเทศไทย แผนเน้นการบริโภคอย่างยั่งยืน
ของทรัพยากรธรรมชาติ และการประยุกต์ใช้แนวคิด ' เปลเปล '
, รวมทั้งการควบคุมของเสียที่แหล่ง เพิ่มขึ้น
คัดแยกขยะเพื่อความสะดวกในการรีไซเคิลและการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
ของเสียก่อนทิ้งขั้นสุดท้าย และลด
30 % ของจำนวนของเสียที่สร้างขึ้นโดย 2009 ( thongkaimook
, 2005 ) เพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้น รัฐบาลยังมุ่ง
เพื่อส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชน ในการวิจัยและการพัฒนา
เทคโนโลยีรีไซเคิลของวัตถุดิบและความสะอาด และกีดกัน
นำเข้ากากอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศ และนโยบาย

ทำให้บทบัญญัติสำหรับการรีไซเคิลในแผนอนุรักษ์พลังงาน หนึ่งของคีย์
วัตถุประสงค์ของแผนนี้คือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการรีไซเคิล
แห่งชาติ 50% โดยในปี 2008 ( สถาบันวิจัยพลังงาน , 2000 ) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้
ความสำเร็จของแผนเหล่านี้ในบริบทของการจัดการของเสียที่ก่อสร้าง

มันเป็นเรื่องจำเป็นที่การประเมินปริมาณและลักษณะ การก่อสร้าง
ของเสียที่ถูกสร้างขึ้นในประเทศเป็นไปตาม
ข้อมูลเช่นการศึกษาจะเป็นข้อมูลสำคัญในการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการกว้างขนาด

การรีไซเคิลของเสียจากการก่อสร้างในประเทศไทย