The methodological choices in the r

The methodological choices in the research onion of Saunders et al. (2012) include the quantitative method, the qualitative method, and the mixed method, which combines features of both the quantitative and qualitative methods. The research utilises the quantitative method, which is consistent with the positivist research philosophy and the deductive approach to the research. The factors influencing consumer behaviour in purchases of organic food products in Bangkok, Thailand are determined using a quantitative approach for collection of data that allows the researcher to quantify responses provided in the primary research. The quantitative method typically uses statistical analysis in assessing the quantitative data and in confirming the hypotheses in the study. This research utilises statistical analysis to confirm the defined hypotheses.
An important aspect of the use of the quantitative method in research is that the researcher should ensure that primary research respondents have an understanding of the research questions and that there is no scope for misunderstanding, as this would skew the results provided by the primary research respondents. In addition, the researcher should not have any links or relationships with respondents to prevent any bias in the quantitative data generated from the conduct of the primary research.
The quantitative method was considered by the researcher to be the appropriate methodological choice given the parameters of the research and consistency with the research philosophy and research approach defined for the study. The quantitative method is also suitable in the determination of factors influencing consumer behaviour in the purchase of organic food products, as this allows the researcher to prioritise the factors based on the responses of the primary research respondents. This would be difficult to achieve in a qualitative method.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เลือก methodological ในหอมวิจัยของซอนเดอร์ส et al. (2012) รวมถึงวิธีการเชิงปริมาณ วิธีการเชิงคุณภาพ และ วิธีผสม ซึ่งรวมลักษณะการทำงานทั้งเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพวิธี งานวิจัย utilises วิธีเชิงปริมาณ ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาวิจัย positivist และวิธี deductive เพื่อการวิจัย มีกำหนดปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารอินทรีย์ในประเทศไทย กรุงเทพมหานครโดยใช้วิธีการเชิงปริมาณสำหรับการรวบรวมข้อมูลที่ช่วยให้นักวิจัยตอบในการวิจัยหลักการวัดปริมาณ วิธีการเชิงปริมาณใช้การวิเคราะห์ทางสถิติ ในการประเมินข้อมูลเชิงปริมาณ และยืนยันสมมุติฐานในการศึกษาโดยทั่วไป งานวิจัยนี้ utilises วิเคราะห์ทางสถิติเพื่อยืนยันสมมุติฐานที่กำหนด ข้อมูลด้านต่าง ๆ ที่สำคัญของการใช้วิธีการเชิงปริมาณในการวิจัยเป็นที่นักวิจัยควรให้แน่ใจว่า วิจัยหลักผู้ตอบมีความเข้าใจเกี่ยวกับคำถามวิจัย และมีขอบเขตไม่มีการเข้าใจผิด เป็นนี้จะเอียงผลให้ตอบหลักวิจัย นอกจากนี้ นักวิจัยควรได้เชื่อมโยงหรือความสัมพันธ์ใด ๆ กับผู้ตอบเพื่อป้องกันอคติใด ๆ ในข้อมูลเชิงปริมาณที่สร้างขึ้นจากการดำเนินงานวิจัยหลักวิธีการเชิงปริมาณถูกพิจารณา โดยนักวิจัยจะ เลือก methodological เหมาะให้พารามิเตอร์ของการวิจัยและสอดคล้องกับงานวิจัยปรัชญาและการวิจัยวิธีกำหนดไว้สำหรับการศึกษา วิธีการเชิงปริมาณก็เหมาะในการกำหนดปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารอินทรีย์ นี้ช่วยให้นักวิจัยไป prioritise ปัจจัยที่ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้วิจัยหลักตอบ นี้จะเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จในวิธีการเชิงคุณภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทางเลือกวิธีการในการวิจัยหอมของแซนเดอและคณะ (2012) รวมถึงวิธีการเชิงปริมาณเชิงคุณภาพและวิธีการผสมซึ่งรวมคุณสมบัติของทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ การวิจัยใช้วิธีการเชิงปริมาณซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาการวิจัย positivist และวิธีนิรนัยการวิจัย ปัจจัยที่มีอิทธิพลพฤติกรรมของผู้บริโภคในการซื้อสินค้าอาหารอินทรีย์ในกรุงเทพฯจะถูกกำหนดโดยใช้วิธีการเชิงปริมาณในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ช่วยให้นักวิจัยที่จะหาจำนวนที่ระบุไว้ในการตอบสนองการวิจัยหลัก วิธีการเชิงปริมาณมักจะใช้การวิเคราะห์ทางสถิติในการประเมินข้อมูลเชิงปริมาณและในการยืนยันสมมติฐานในการศึกษา การวิจัยครั้งนี้ใช้การวิเคราะห์ทางสถิติเพื่อยืนยันสมมติฐานที่กำหนดไว้.
ที่สำคัญของการใช้วิธีการเชิงปริมาณในการวิจัยคือการที่นักวิจัยควรให้แน่ใจว่าผู้ตอบแบบสอบถามการวิจัยหลักมีความเข้าใจในคำถามการวิจัยและมีขอบเขตการเข้าใจผิดไม่เป็น นี้จะเอียงผลที่ได้รับจากผู้ตอบแบบสอบถามการวิจัยหลัก นอกจากนี้นักวิจัยไม่ควรมีการเชื่อมโยงใด ๆ หรือความสัมพันธ์กับผู้ตอบแบบสอบถามเพื่อป้องกันไม่ให้มีอคติใด ๆ ในข้อมูลเชิงปริมาณที่เกิดจากการดำเนินการของการวิจัยหลัก.
วิธีการเชิงปริมาณได้รับการพิจารณาโดยนักวิจัยจะเป็นทางเลือกวิธีการที่เหมาะสมที่กำหนดค่าพารามิเตอร์ของ การวิจัยและสอดคล้องกับปรัชญาการวิจัยและวิธีการที่กำหนดไว้สำหรับการวิจัยการศึกษา วิธีการเชิงปริมาณนี้ยังเหมาะในการกำหนดปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารอินทรีย์เช่นนี้จะช่วยให้นักวิจัยที่จะจัดลำดับความสำคัญปัจจัยขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้ตอบแบบสอบถามการวิจัยหลัก นี้จะเป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จในเชิงคุณภาพ