ธนาคารโลกระบุว่า ในแต่ละปีภัยธรรมชา

ธนาคารโลกระบุว่า ในแต่ละปีภัยธรรมชาติเป็นเหตุให้ผู้คนอย่างน้อย 26 ล้านคนทั่วโลกต้องยากจนลง ทั้งจากความเสียหายของทรัพย์สิน และการบริโภคต่าง ๆ

แหล่งข่าวกล่าวว่า ความเสียหายจากภัยธรรมชาตินั้น มีจำนวนมากขึ้นในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ภัยธรรมชาติทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งพายุไซโคลน น้ำท่วม ภัยแล้ง แผ่นดินไหว

แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่มีการคำนวนตัวเลขมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงออกมา แต่ทางองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น ได้สำรวจประเทศต่างๆ ทั้งประเทศที่ร่ำรวยและประเทศกำลังพัฒนา จำนวน 117 ประเทศ พบว่า ภัยธรรมชาติก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน ปีละประมาณ 327,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี

ส่วนความเสียหายในเรื่องของการบริโภค การรักษาพยาบาล และการศึกษา ก็มีมูลค่าสูงเช่นกัน คือประมาณปีละ 520,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า ภัยธรรมชาติ ยังส่งผลให้ผู้คนอีก 26 ล้านคน ยากจนลง นอกจากจะสูญเสียทรัพย์สินแล้ว รายได้ของพวกเขาก็ยังลดลงด้วย

ทางยูเอ็นยังยกตัวอย่างด้วยว่า ในปี 2008 พายุไซโคลนนาจิส ทำให้พม่าเสียหายคิดเป็นจำนวนเงินถึง 4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ชาวนาที่ยากจนต้องขายที่ดินและทรัพย์สิน เพื่อนำมาใช้หนี้ ที่เกิดจากผลกระทบของไซโคลน ซึ่งทำให้สภาพความเป็นอยู่แย่ลงไปอีก

นักวิทยาศาสตร์สรุปด้วยว่า ความเสียหายที่นับวันจะทวีความรุนแรงนั้น ก็มีสาเหตุสำคัญมาจากสภาพอากาศของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ๆ และการบริโภคต่างทั้งจากความเสียหายของทรัพย์สินธนาคารโลกระบุว่าในแต่ละปีภัยธรรมชาติเป็นเหตุให้ผู้คนอย่างน้อย 26 ล้านคนทั่วโลกต้องยากจนลงแหล่งข่าวกล่าวว่าความเสียหายจากภัยธรรมชาตินั้นมีจำนวนมากขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากภัยธรรมชาติทวีความรุนแรงขึ้นทั้งพายุไซโคลนน้ำท่วมภัยแล้งแผ่นดินไหวแต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการคำนวนตัวเลขมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงออกมาแต่ทางองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นได้สำรวจประเทศต่าง ๆ ทั้งประเทศที่ร่ำรวยและประเทศกำลังพัฒนาจำนวน 117 ประเทศพบว่าภัยธรรมชาติก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินปีละประมาณ 327,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปีส่วนความเสียหายในเรื่องของการบริโภคการรักษาพยาบาลและการศึกษาก็มีมูลค่าสูงเช่นกันล้านดอลลาร์สหรัฐคือประมาณปีละ 520,000นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าภัยธรรมชาติยังส่งผลให้ผู้คนอีก 26 ล้านคนยากจนลงนอกจากจะสูญเสียทรัพย์สินแล้วรายได้ของพวกเขาก็ยังลดลงด้วยทางยูเอ็นยังยกตัวอย่างด้วยว่าในปี 2008 พายุไซโคลนนาจิสทำให้พม่าเสียหายคิดเป็นจำนวนเงินถึง 4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐชาวนาที่ยากจนต้องขายที่ดินและทรัพย์สินเพื่อนำมาใช้หนี้ที่เกิดจากผลกระทบของไซโคลนซึ่งทำให้สภาพความเป็นอยู่แย่ลงไปอีกนักวิทยาศาสตร์สรุปด้วยว่าความเสียหายที่นับวันจะทวีความรุนแรงนั้นก็มีสาเหตุสำคัญมาจากสภาพอากาศของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ธนาคารโลกระบุว่าในแต่ละปีภัยธรรมชาติ เป็นเหตุให้ผู้คนอย่างน้อย 26 ล้านของคุณคนทั่วโลกคุณต้องยากจนลงทั้งจากเนชั่ความสามารถเสียหายของทรัพย์สินและหัวเรื่อง: การบริโภคต่าง ๆ

ทางคดีแหล่งข่าวหุ้นไทยกล่าวว่าได้ความสามารถเสียหายจากเนชั่ภัยธรรมชาตินั้นมีจำนวนมากขึ้นในห้างหุ้นส่วนจำกัดช่วง 10 ปีที่ทางทหารผ่านมาเนื่องจากสภาพอากาศมีหัวเรื่อง: การเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากภัยธรรมชาติทวีความสามารถรุนแรงขึ้นทั้งพายุไซโคลนคุณน้ำท่วมภัยแล้งแผ่นดินไหว

แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีหัวเรื่อง: การคำหนังสือนวนตัวเลขมูลค่าความสามารถเสียหายที่เกิดขึ้นจริงออกมา แต่ ทางองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นได้สำรวจประเทศต่างๆ ทั้งประเทศที่ร่ำรวยและประเทศกำลังพัฒนาจำนวน 117 ประเทศพบว่าภัยธรรมชาติก่อให้เกิด ความเสียหายต่อทรัพย์สินปีละประมาณ 327,000 ล้านดหนังสืออลล่าร์สหรัฐต่อปี

ส่วนความสามารถเสียหายในห้างหุ้นส่วนจำกัดเรื่องของหัวเรื่อง: การ บริโภคการรักษาพยาบาลและการศึกษาก็ มีมูลค่าสูงเช่นกันคือประมาณปีละ 520,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ยังพบด้วยว่าภัยธรรมชาติยังส่งผลให้คุณผู้ของคุณคนอีก 26 ล้านคนยากจนลงนอกจากจะสูญเสีย ทรัพย์สินแล้วรายได้ของพวก เขาก็ยังลดลงด้วย

ทางยูเอ็นยังยกตัวอย่าง arrow ด้วยว่าในห้างหุ้นส่วนจำกัดปี 2008 พายุไซโคลนนาจิสทำให้พม่าเสียหาย คิดเป็นจำนวนเงินถึง 4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ชาวนาที่ยากจนต้องขายที่ดินและทรัพย์สินเพื่อนำมาใช้หนี้ เกิดจากเนชั่ที่ผลกระทบของไซโคลนซึ่งทำให้สภาพความสามารถเป็นขณะนี้แย่ลงไปอีก

นักวิทยาศาสตร์สรุปด้วยว่าความสามารถที่เสียหายนับการธนาคารวันจะทวีความสามารถรุนแรงนั้นก็มีสาเหตุสำคัญมาจากเนชั่สภาพอากาศของโลกที่มีความสามารถเปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ธนาคารโลกระบุว่าในแต่ละปีภัยธรรมชาติเป็นเหตุให้ผู้คนอย่างน้อย 26 ล้านคนทั่วโลกต้องยากจนลงทั้งจากความเสียหายของทรัพย์สินและการบริโภคต่างไม่มีแหล่งข่าวกล่าวว่าความเสียหายจากภัยธรรมชาตินั้นมีจำนวนมากขึ้นในช่วง 10 . ที่ผ่านมาเนื่องจากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากภัยธรรมชาติทวีความรุนแรงขึ้นทั้งพายุไซโคลนน้ำท่วมภัยแล้งแผ่นดินไหวPut ขณะนี้ยังไม่มีการคำนวนตัวเลขมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงออกมาแต่ทางองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็นได้สำรวจประเทศต่างๆทั้งประเทศที่ร่ำรวยและประเทศกำลังพัฒนาจำนวน 117 ประเทศพบว่าภัยธรรมชาติก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินปีละประมาณ 327000 อยู่ ้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปีส่วนความเสียหายในเรื่องของการบริโภคการรักษาพยาบาลและการศึกษาก็มีมูลค่าสูงเช่นกันคือประมาณปีละ 520 , 000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนอกจากนี้ยังพบด้วยว่าภัยธรรมชาติยังส่งผลให้ผู้คนอีก 26 ล้านคนยากจนลงนอกจากจะสูญเสียทรัพย์สินแล้วรายได้ของพวกเขาก็ยังลดลงด้วยทางยูเอ็นยังยกตัวอย่างด้วยว่าสามารถ 2008 พายุไซโคลนนาจิสทำให้พม่าเสียหายคิดเป็นจำนวนเงินถึง 4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐชาวนาที่ยากจนต้องขายที่ดินและทรัพย์สินเพื่อนำมาใช้หนี้ที่เกิดจากผลกระทบของไซโคลนซึ่งทำให้สภาพความเป็นอยู่แย่ลงไปอีกนักวิทยาศาสตร์สรุปด้วยว่าความเสียหายที่นับวันจะทวีความรุนแรงนั้นก็มีสาเหตุสำคัญมาจากสภาพอากาศของโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง