Gum arabic from Acacia Senegal var.

Gum arabic from Acacia Senegal var. kerensis was processed following two approaches: heating the gum solution and using enzyme biotechnology. Studies on heat processing were carried out at 100°C (i.e. simulating the conventional industrial method) and at 65°C. Experiments on enzyme biotechnology were carried out using three enzymes: a Pronase, Viscozyme and a β-D-galactosidase. In both experiments the solutions were allowed to stand for 96 h with samples of 100 ml being removed every 3, 6, 12, 24 and 48 h. Results of heat processing showed that heating gum solution at 100°C for more than 6 h caused significant degradation of the protein component and subsequent loss of emulsification properties, though a reduction in viscosity and gelling to desired levels was achieved. Heating at 65°C achieved reduction in gelling within 24 h without drastic loss in emulsification functionality. Thus process time and temperature were confirmed as important parameters during heat processing. The three enzymes caused loss in viscosity and gelling but with different implications for the other gum properties. Pronase degraded the gum to 16 mllg within 12 h but there was loss in protein and emulsification properties. It is therefore not suitable for processing gum where emulsification and stabilisation are important properties. Both viscozyme and β-D-galactosidase attained reduction in viscosity and gelling to levels desired for industrial uses within 24 h. The former enzyme however, caused some degradation of the protein component giving rise to unstable emulsions; the amino acids released selectively were arginine, histidine, hydroxy proline, leucine, serine and threonine and there was also release of neutral sugars, particularly rhamnose. The effect of β-D-galactosidase was to increase the overall protein content and subsequent emulsification properties. The use of moderate heating and enzymes in future processing technology is discussed in the light of this work.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฝรั่งอาหรับจากเซเนกัลเซีย var. kerensis การประมวลผลต่อไปนี้สองวิธี: ความร้อนแก้ปัญหาเหงือก และใช้เอนไซม์เทคโนโลยีชีวภาพ ศึกษาเกี่ยวกับความร้อนความเปนไปที่ 100° C (เช่นเลียนแบบวิธีการอุตสาหกรรมทั่วไป) และ ที่อุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส ทดลองเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพเอนไซม์ดำเนินการใช้เอนไซม์ที่สาม: เป็น Pronase, Viscozyme และβ-D-galactosidase ในทั้งสองการทดลองได้รับอนุญาต ยืนหา h 96 ตัวอย่างของการเป็น 100 มล.เอาออกทุก 3, 6, 12, 24 และ 48 h. ผลลัพธ์ของการประมวลผลความร้อนพบว่า ร้อนเหงือกโซลูชันที่ 100° C สำหรับมากกว่า 6 h เกิดย่อยสลายที่สำคัญของส่วนประกอบของโปรตีนและการสูญเสียคุณสมบัติ emulsification ปริมาณ ต่อมาแม้ว่าลดความหนืด และสารเจลซิถึงระดับที่ต้องการสำเร็จ เครื่องทำความร้อนที่ลด 65° C ได้ภายใน 24 ชั่วโมงโดยไม่สูญเสียอย่างมากในการทำงาน emulsification ปริมาณสารเจลซิ ดังนั้น เวลาและอุณหภูมิได้รับการยืนยันเป็นพารามิเตอร์ที่สำคัญระหว่างการประมวลผลความร้อน เอนไซม์สามเกิดสูญเสียความหนืดและสารเจลซิ แต่ มีผลกระทบแตกต่างกันสำหรับคุณสมบัติอื่น ๆ เหงือก Pronase เสื่อมโทรมเหงือกที่จะ mllg 16 ภายใน 12 ชม. แต่มีขาดทุนในโปรตีนและ emulsification ปริมาณคุณสมบัติ จึงไม่เหมาะสำหรับการประมวลผลฝรั่ง emulsification ปริมาณและป้องกันภาพสั่นไหวสำคัญ Viscozyme และβ-D-galactosidase บรรลุการลดความหนืดและสารเจลซิถึงระดับที่ต้องการสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมภายใน 24 ชม เอนไซม์อดีตเกิดบางอย่างย่อยสลายของโปรตีนส่วนประกอบให้เพิ่มขึ้นจะไม่เสถียร emulsions อย่างไรก็ตาม กรดอะมิโนที่เลือกออกมีอาร์จินี histidine, proline ไฮดร็อกซี่ leucine รอบเส้นใยประสาท และทรีโอนีน และถูกปล่อยน้ำตาลกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง rhamnose ผลของβ-D-galactosidase ก็จะ เพิ่มปริมาณโปรตีนรวมและคุณสมบัติ emulsification ปริมาณตามมา การใช้ความร้อนปานกลางและเอนไซม์เทคโนโลยีการประมวลผลในอนาคตกล่าวถึงไฟงานนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หมากฝรั่งอาหรับจาก Acacia เซเนกัล var kerensis การประมวลผลต่อไปนี้สองวิธี: ความร้อนแก้ปัญหาเหงือกและการใช้เทคโนโลยีชีวภาพเอนไซม์ การศึกษาเกี่ยวกับการประมวลผลความร้อนได้ดำเนินการที่ 100 ° C (เช่นการจำลองวิธีการอุตสาหกรรมทั่วไป) และ 65 ° C การทดลองเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพเอนไซม์ถูกดำเนินการโดยใช้เอนไซม์สาม: การ Pronase, Viscozyme และβ-D-galactosidase ในการทดลองทั้งสองโซลูชั่นได้รับอนุญาตให้ยืนสำหรับ 96 ชั่วโมงกับกลุ่มตัวอย่าง 100 มล. จะถูกลบออกทุก 3, 6, 12, 24 และ 48 ชั่วโมง ผลของการประมวลผลความร้อนแสดงให้เห็นว่าการแก้ปัญหาความร้อนเหงือกที่ 100 ° C เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมงที่เกิดจากการย่อยสลายที่สำคัญของส่วนประกอบของโปรตีนและการสูญเสียที่ตามมาของคุณสมบัติ emulsification แม้ว่าการลดความหนืดและก่อเจลให้อยู่ในระดับที่ต้องการประสบความสำเร็จ ความร้อนที่อุณหภูมิ 65 ° C ประสบความสำเร็จในการลดการก่อเจลภายใน 24 ชั่วโมงโดยไม่สูญเสียอย่างมากในการทำงาน emulsification ดังนั้นระยะเวลาดำเนินการและอุณหภูมิได้รับการยืนยันเป็นตัวแปรที่สำคัญระหว่างการประมวลผลความร้อน สามเอนไซม์ที่เกิดจากการสูญเสียความหนืดและก่อเจล แต่มีความหมายที่แตกต่างกันสำหรับคุณสมบัติอื่น ๆ ที่เหงือก Pronase เสื่อมโทรมเหงือกถึง 16 mllg ภายใน 12 ชั่วโมง แต่ก็มีการสูญเสียโปรตีนและ emulsification คุณสมบัติ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่เหมาะสำหรับการประมวลผลที่เหงือกและรักษาเสถียรภาพ emulsification มีคุณสมบัติที่สำคัญ ทั้งสอง viscozyme และβ-D-galactosidase บรรลุการลดลงของความหนืดและก่อเจลให้อยู่ในระดับที่ต้องการสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมภายใน 24 ชั่วโมง อดีตเอนไซม์ แต่เกิดจากการย่อยสลายของโปรตีนที่ทำให้เกิดการอิมัลชันไม่แน่นอนบางอย่าง กรดอะมิโนที่ปล่อยออกมาคัดเลือกเป็นอาร์จินี, ฮิสติดีนโพรลีนไฮดรอกซี leucine, ซีรีนและ ธ รีโอนีและยังได้รับการปล่อยของน้ำตาลที่เป็นกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งแรมโนส ผลของβ-D-galactosidase เพื่อเพิ่มปริมาณโปรตีนโดยรวมและคุณสมบัติ emulsification ภายหลัง การใช้ความร้อนปานกลางและเอนไซม์ในเทคโนโลยีการประมวลผลในอนาคตที่จะกล่าวถึงในแง่ของงานนี้