OSIsoft provides a buffering servic

OSIsoft provides a buffering service that can save your data if the Interface Node loses its connection to the PI Server. When an Interface Node is running the buffering service
(bufserv), data flows from the data source, through the interface to the buffering service and from there to the Snapshot Subsystem on the PI Server

If the PI Server is not available (e.g., for an upgrade on the Server) then bufserv stores the data in a file buffer on the Interface Node. When the PI Server becomes available again, bufserv sends all the stored data from the buffer, in chronological order, back to the PI Server. At this point, if you look at the data in ProcessBook, you see a continuous flow of data, with no gaps. As System Manager, you should make sure that the buffering service is running on each Interface Node. The main exception to this rule is for PINet Nodes, which perform their own buffering. Also, a few interfaces, such as batch file and event file, work better without the buffering service. If you're not sure whether a particular interface is compatible with the
buffering service, check the documentation for that interface. You need only one buffering service running on each Interface Node to buffer all the interfaces for a particular Server, however you can only buffer data to one Server at a time from each Interface Node. You can set the maximum size of the file buffer (up to 2GB) in the
ICU

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

OSIsoft ให้บริการบัฟเฟอร์ซึ่งสามารถบันทึกข้อมูลถ้าอินเทอร์เฟซสำหรับโหนสูญเสียการเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ PI เมื่อโหนการติดต่อใช้บริการบัฟเฟอร์(bufserv), ข้อมูลไหล จาก แหล่งข้อมูล ผ่านอินเทอร์เฟสสำหรับบริการบัฟเฟอร์ และมีระบบย่อย Snapshot บนเซิร์ฟเวอร์ PIถ้าไม่มีเซิร์ฟเวอร์ PI (เช่น สำหรับการปรับรุ่นบนเซิร์ฟเวอร์) แล้ว bufserv เก็บข้อมูลในบัฟเฟอร์แฟ้มบนโหนอินเตอร์เฟซ เมื่อเซิร์ฟเวอร์ PI อีก bufserv ส่งข้อมูลที่เก็บไว้ทั้งหมดจากบัฟเฟอร์ ลำดับ กลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ PI จุดนี้ ถ้าคุณดูข้อมูลใน ProcessBook คุณเห็นขั้นตอนการต่อเนื่องของข้อมูล ไม่มีช่องว่าง เป็นระบบผู้จัดการ คุณควรแน่ใจว่า บริการบัฟเฟอร์จะทำงานบนโหนแต่ละอินเทอร์เฟซ หลักข้อยกเว้นกฎนี้สำหรับโหน PINet ที่ทำบัฟเฟอร์ของตนเองได้ ยัง กี่อินเตอร์เฟส ชุดแฟ้ม และแฟ้มเหตุการณ์ ทำงานดีขึ้น โดยบริการบัฟเฟอร์ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าอินเทอร์เฟซที่เฉพาะจะเข้ากันได้กับการบัฟเฟอร์บริการ ตรวจสอบเอกสารประกอบสำหรับอินเทอร์เฟซที่ ต้องบัฟเฟอร์บริการเดียวที่เรียกใช้บนโหนแต่ละอินเทอร์เฟซการบัฟเฟอร์อินเทอร์เฟสสำหรับเซิร์ฟเวอร์นั้น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเพียงบัฟเฟอร์ข้อมูลเซิร์ฟเวอร์หนึ่งทีจากโหนแต่ละอินเทอร์เฟซได้ คุณสามารถตั้งค่าขนาดสูงสุดของแฟ้มบัฟเฟอร์ (สูงสุด 2GB) ในการฉุกเฉิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

OSIsoft ให้บริการบัฟเฟอร์ที่สามารถบันทึกข้อมูลของคุณถ้าการเชื่อมต่อโหนดสูญเสียการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์พีไอ เมื่อโหนดอินเตอร์เฟซที่กำลังเรียกใช้บริการบัฟเฟอร์
(bufserv) ข้อมูลไหลจากแหล่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เฟซที่จะให้บริการบัฟเฟอร์และจากที่นั่นไปยังระบบย่อย Snapshot บนเซิร์ฟเวอร์พีไอถ้าเซิร์ฟเวอร์PI ไม่สามารถใช้ได้ (เช่นสำหรับ อัพเกรดบนเซิร์ฟเวอร์) แล้ว bufserv เก็บข้อมูลในบัฟเฟอร์ไฟล์บนอินเตอร์เฟซโหนด เมื่อเซิร์ฟเวอร์ PI จะพร้อมใช้งานอีกครั้ง bufserv ส่งข้อมูลทั้งหมดที่เก็บไว้จากบัฟเฟอร์ในลำดับกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์พีไอ ณ จุดนี้หากดูข้อมูลใน ProcessBook คุณจะเห็นการไหลต่อเนื่องของข้อมูลที่มีช่องว่างไม่ ในฐานะที่เป็นผู้จัดการระบบคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริการบัฟเฟอร์ที่กำลังทำงานในแต่ละการเชื่อมต่อโหนด หลักข้อกฎข้อนี้สำหรับ Pinet โหนดซึ่งดำเนินการบัฟเฟอร์ของตัวเอง นอกจากนี้อินเตอร์เฟซที่ไม่กี่เช่นไฟล์ชุดและไฟล์เหตุการณ์ทำงานได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องบริการบัฟเฟอร์ หากคุณไม่แน่ใจว่าอินเตอร์เฟซโดยเฉพาะอย่างยิ่งเข้ากันได้กับบริการบัฟเฟอร์ตรวจสอบเอกสารสำหรับอินเตอร์เฟซที่ คุณต้องการเพียงหนึ่งบริการบัฟเฟอร์ที่ทำงานบนการเชื่อมต่อของแต่ละโหนดบัฟเฟอร์การเชื่อมต่อทั้งหมดสำหรับเซิร์ฟเวอร์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แต่คุณเท่านั้นที่สามารถบัฟเฟอร์ข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์หนึ่งได้ตลอดเวลาจากการเชื่อมต่อของแต่ละโหนด คุณสามารถตั้งค่าขนาดสูงสุดของ buffer แฟ้ม (ได้ถึง 2GB) ในห้องไอซียู

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ให้บริการ osisoft บัฟเฟอร์ที่สามารถบันทึกข้อมูลของคุณถ้าอินเตอร์เฟซการเชื่อมต่อโหนดของการสูญเสียและเซิร์ฟเวอร์ เมื่อการเชื่อมต่อโหนดใช้บัฟเฟอร์บริการ
( bufserv ) , การไหลของข้อมูลจากแหล่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เฟซที่ให้บริการและจากที่นั่นไปยังบัฟเฟอร์ข้อมูลย่อยใน pi

ถ้าเซิร์ฟเวอร์และเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถใช้ได้ ( เช่นสำหรับการอัพเกรดบนเซิร์ฟเวอร์ ) แล้ว bufserv เก็บข้อมูลในบัฟเฟอร์ของไฟล์บนอินเตอร์เฟซผู้ใช้ เมื่อปี่เซิร์ฟเวอร์จะพร้อมใช้งานอีกครั้ง bufserv ส่งทั้งหมดจัดเก็บข้อมูลจากบัฟเฟอร์ในลำดับกลับจากเซิร์ฟเวอร์ ณจุดนี้ ถ้าคุณดูที่ข้อมูลใน processbook คุณเห็นการไหลอย่างต่อเนื่องของข้อมูล ไม่มีช่องว่าง เป็นผู้จัดการระบบคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า บัฟเฟอร์ บริการอยู่ในแต่ละ interface โหนด ข้อยกเว้นกฎนี้เป็นหลักสำหรับ pinet โหนดซึ่งแสดงบัฟเฟอร์ของตัวเอง นอกจากนี้ บางระบบ เช่นไฟล์แบทช์และเหตุการณ์ได้ดี โดยไม่มีการป้องกันไฟล์ , งานบริการ หากคุณไม่แน่ใจว่าอินเตอร์เฟซโดยเฉพาะเข้ากันได้กับ
ดัชนีบริการตรวจสอบเอกสารสำหรับอินเตอร์เฟซ คุณต้องการเพียงหนึ่งบัฟเฟอร์บริการวิ่งในแต่ละโหนดให้อินเตอร์เฟซการเชื่อมต่อ บัฟเฟอร์ทั้งหมดสำหรับเซิร์ฟเวอร์เฉพาะ แต่คุณสามารถบัฟเฟอร์ข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์หนึ่งที่เวลาแต่ละ interface โหนด คุณสามารถตั้งค่าขนาดสูงสุดของไฟล์ในบัฟเฟอร์ ( ได้ถึง 2GB ) ใน
ไอซียู