To begin with, school must prepare

To begin with, school must prepare their students for life after graduation by teaching them about careers and jobs. By doing so, students can get ready to enter the job market once they graduate either from college or high school. Sometimes, schools do an unsatisfactory job of preparing students for their future careers. These students often have trouble getting jobs or keeping them once they get hired. By focusing primarily on students’ future careers, the students will be equipped with the knowledge necessary to excel at their jobs and to keep them once they get hired.
A second point is that if schools offer career education, students can avoid learning unnecessary knowledge. Much of the knowledge currently taught at schools will not be used at all after the students’ graduate, so they have no need to take some classes that schools offer. For instance, I am no interested in working in a field that requires math. Therefore, while I should know some elementary mathematics, I do not feel it is necessary for me to learn calculus or trigonometry. Likewise, a future engineer should not bother with learning literature or history. By focusing only on the classes students will need in their future careers, schools can eliminate lessons that are useless.
Also, having students focus on their careers and jobs increase the rate at which students acquire knowledge in those fields. This is important because career education usually involves the actual practicing of hands-on activities. Some students, for example, get to do internships at companies before they graduate. This gives them a great opportunity to learn about their field of study. If all students had chances like this, then they would all be much more knowledgeable in their fields.
In conclusion, I really believe schools need to focus on teaching their students about specific careers and jobs. By doing so, schools can cut down on the useless knowledge being taught while simultaneously equipping their students to be outstanding workers in their fields. This is why I support having student study only one or two core subjects.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เริ่มต้นด้วย โรงเรียนต้องจัดเตรียมนักสำหรับชีวิตหลังจบการศึกษา โดยสอนเกี่ยวกับงานและอาชีพ การทำเช่นนั้น นักเรียนสามารถเตรียมป้อนตลาดงานเมื่อสำเร็จศึกษาวิทยาลัยหรือโรงเรียน บางครั้ง โรงเรียนทำงานน่าพอใจของนักศึกษาการเตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพในอนาคต นักเรียนเหล่านี้มักจะมีปัญหาในการรับงาน หรือทำให้พวกเขาเมื่อพวกเขาได้งาน โดยเน้นหลักในอาชีพในอนาคตของนักเรียน นักเรียนจะมีความรู้ที่จำเป็น ต้องเก่งในงานของตน และ เพื่อให้พวกเขาเมื่อพวกเขาได้งาน จุดสองคือ ว่า ถ้าโรงเรียนมีการศึกษา นักเรียนสามารถหลีกเลี่ยงการเรียนรู้ไม่จำเป็น มากความรู้ที่สอนในโรงเรียนในปัจจุบันจะไม่ใช้เลยการศึกษาต่อของนักเรียน ดังนั้นคุณจะไม่จำเป็นต้องใช้บางประเภท ที่โรงเรียนเสนอ เช่น ฉันไม่สนใจที่ทำงานในเขตข้อมูลที่ต้องใช้คณิตศาสตร์ ดังนั้น ในขณะที่ผมควรทราบบางคณิตศาสตร์ประถม ผมไม่รู้สึกจำเป็นสำหรับฉันเรียนตรีโกณมิติหรือแคลคูลัส ทำนองเดียวกัน เป็นวิศวกรในอนาคตควรรำคาญกับการเรียนรู้วรรณคดีหรือประวัติศาสตร์ โดยเน้นเฉพาะการเรียนที่นักเรียนจะต้องอยู่ในอาชีพของตนในอนาคต โรงเรียนสามารถกำจัดบทเรียนที่มีประโยชน์ ด้วย มีนักเรียนมุ่งเน้นในการเพิ่มอาชีพและงานอัตรานักเรียนที่ได้รับความรู้ในเขตข้อมูลเหล่านั้น นี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการศึกษามักจะเกี่ยวข้องกับการฝึกจริงของกิจกรรม นักเรียนบางคน ตัวอย่าง รับทำการฝึกงานที่บริษัทก่อนสำเร็จศึกษา นี้ให้พวกเขาทางเรียนรู้ของสาขาวิชา ถ้านักเรียนทุกคนมีโอกาสเช่นนี้ แล้วพวกเขาทั้งหมดจะมากมีความรู้ในสาขานี้ ในบทสรุป ผมจริง ๆ เชื่อว่า โรงเรียนต้องการเน้นการเรียนการสอนนักเรียนเกี่ยวกับงานและอาชีพเฉพาะ การทำเช่นนั้น โรงเรียนสามารถตัดลงบนความรู้ที่ไร้ประโยชน์การสอนขณะเตรียมพร้อมนักเรียนเป็น ผู้ปฏิบัติงานดีเด่นในสาขา นี่คือเหตุผลที่ผมสนับสนุนมีนักศึกษาเพียงหนึ่ง หรือสองหลักวิชา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อเริ่มต้นกับโรงเรียนจะต้องเตรียมความพร้อมนักเรียนของพวกเขาสำหรับชีวิตหลังจบการศึกษาโดยการสอนพวกเขาเกี่ยวกับการประกอบอาชีพและการจ้างงาน โดยทำเช่นนี้นักเรียนจะได้รับพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดงานทันทีที่พวกเขาจบการศึกษาทั้งจากวิทยาลัยหรือโรงเรียนมัธยม บางครั้งโรงเรียนทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจของนักเรียนเตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพในอนาคต นักเรียนเหล่านี้มักจะมีปัญหาในการรับงานหรือทำให้พวกเขาเมื่อพวกเขาได้รับการว่าจ้าง โดยเน้นหลักในการประกอบอาชีพในอนาคตของนักเรียนนักศึกษาจะได้รับการติดตั้งที่มีความรู้ที่จำเป็นในการ excel ที่งานของพวกเขาและเพื่อให้พวกเขาเมื่อพวกเขาได้รับการว่าจ้าง.
จุดที่สองคือว่าถ้าโรงเรียนมีอาชีพการศึกษานักเรียนสามารถหลีกเลี่ยงการเรียนรู้ความรู้ที่ไม่จำเป็น มากความรู้การเรียนการสอนในปัจจุบันที่โรงเรียนจะไม่ถูกนำมาใช้ในทั้งหมดหลังจากจบการศึกษาของนักเรียนเพื่อให้พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเรียนบางอย่างที่โรงเรียนนำเสนอ ยกตัวอย่างเช่นฉันไม่สนใจในการทำงานในสาขาที่ต้องคณิตศาสตร์ ดังนั้นในขณะที่ฉันควรรู้คณิตศาสตร์ประถมบางอย่างผมไม่รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผมที่จะเรียนรู้หรือแคลคูลัสตรีโกณมิติ ในทำนองเดียวกันเป็นวิศวกรในอนาคตไม่ควรกังวลกับการเรียนรู้วรรณกรรมหรือประวัติศาสตร์ โดยเน้นเฉพาะในชั้นเรียนของนักเรียนจะต้องอยู่ในอาชีพในอนาคตโรงเรียนสามารถขจัดบทเรียนที่ไร้ประโยชน์.
นอกจากนี้ยังมีนักเรียนมุ่งเน้นการประกอบอาชีพและการจ้างงานของพวกเขาเพิ่มขึ้นในอัตราที่นักเรียนได้รับความรู้ในสาขาเหล่านั้น นี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะการศึกษาอาชีพมักจะเกี่ยวข้องกับฝึกจริงของมือในกิจกรรม นักเรียนบางคนยกตัวอย่างเช่นรับที่จะทำฝึกงานที่ บริษัท ก่อนที่จะจบการศึกษา นี้จะช่วยให้พวกเขามีโอกาสที่ดีในการเรียนรู้เกี่ยวกับสาขาที่เรียน หากนักเรียนทุกคนมีโอกาสเช่นนี้แล้วพวกเขาทั้งหมดจะมากขึ้นความรู้ในสาขาของพวกเขา.
โดยสรุปผมเชื่อว่าโรงเรียนจะต้องมุ่งเน้นการเรียนการสอนนักเรียนของพวกเขาเกี่ยวกับอาชีพและการจ้างงานที่เฉพาะเจาะจง โดยการทำเช่นโรงเรียนสามารถลดความรู้ที่ไร้ประโยชน์ได้รับการสอนในขณะเดียวกันการเตรียมนักเรียนของพวกเขาจะเป็นคนงานที่โดดเด่นในสาขาของพวกเขา นี่คือเหตุผลที่ผมสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนที่มีเพียงหนึ่งหรือสองวิชาหลัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อเริ่มต้นกับ , โรงเรียนต้องเตรียมความพร้อมนักศึกษาสำหรับชีวิตหลังจบการศึกษา โดยสอนพวกเขาเกี่ยวกับอาชีพและงาน ทำให้นักศึกษาสามารถเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ตลาดงานเมื่อพวกเขาจบการศึกษาจากวิทยาลัยหรือโรงเรียนมัธยม บางครั้งงานที่น่าพอใจของ โรงเรียนเตรียมนักเรียนสำหรับการประกอบอาชีพในอนาคต คนเหล่านี้มักจะมีปัญหาในการรับงาน หรือการรักษาพวกเขาเมื่อพวกเขาได้รับการว่าจ้าง โดยเน้นหลักในอาชีพในอนาคตของนักเรียน นักเรียนจะได้พร้อมกับความรู้ที่จำเป็นไปยัง Excel ในงานของพวกเขาและเพื่อให้พวกเขาเมื่อพวกเขาได้รับการว่าจ้างจุดที่สอง คือ หากโรงเรียนมีการศึกษาอาชีพ นักเรียนสามารถหลีกเลี่ยงการเรียนรู้ไม่จำเป็น มากของความรู้ปัจจุบันสอนที่โรงเรียน จะได้ไม่ต้องใช้เลย หลังจากนักศึกษาเรียนจบ ดังนั้นพวกเขาไม่ต้องไปเรียนที่โรงเรียนเสนอ ตัวอย่าง ผมไม่สนใจในการทำงานในสาขาที่ต้องใช้คณิตศาสตร์ ดังนั้น ในขณะที่ฉันควรจะรู้ว่าบางคณิตศาสตร์ ผมไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผมที่จะเรียนรู้หรือ แคลคูลัส ตรีโกณมิติ อนึ่ง วิศวกรในอนาคตไม่ควรยุ่งกับการเรียนวรรณคดี หรือประวัติศาสตร์ โดยเน้นเฉพาะในชั้นเรียน นักเรียนจะต้องมีในอาชีพของตนในอนาคต สถานศึกษาสามารถจัดบทเรียนที่ไร้ประโยชน์นอกจากนี้ยังมีนักเรียนมุ่งเน้นอาชีพของพวกเขาและงานเพิ่มคะแนนที่นักศึกษาได้รับความรู้ในสาขานั้น นี้เป็นสิ่งสำคัญเพราะการศึกษาอาชีพมักจะเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติจริงของมือในกิจกรรม นักเรียนบางคน เช่น การฝึกงาน ที่ บริษัท ได้ทำ ก่อนที่พวกเขาจะจบการศึกษา นี้จะช่วยให้พวกเขาเป็นโอกาสที่ดีที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลการศึกษา ถ้านักเรียนทุกคนจะมีโอกาสแบบนี้ แล้วพวกเขาจะมากขึ้นมีความรู้ในสาขาของตนสรุปผมเชื่อจริงๆว่าโรงเรียนต้องเน้นการสอนนักเรียนเกี่ยวกับอาชีพที่เฉพาะเจาะจงและงาน ทำให้โรงเรียนสามารถตัดลงบนการใช้ ในขณะเดียวกัน ไร้ประโยชน์ความรู้นักเรียนคนงานดีเด่น ในสาขาของตน นี่คือเหตุผลที่ผมสนับสนุนการศึกษานักเรียนที่มีเพียงหนึ่งหรือสองหลักวิชา