This study investigates factors tha

This study investigates factors that contribute stress and level of occupational stress among special education teachers who are
currently teaching in special education classes in the state of Penang, Malaysia. Result shows that there are five major factors that
contribute to stress among special education teachers in Penang. A total of 92 special education teachers were chosen randomly
to represent the population by using the cluster over cluster method. The instrument for this study was adapted from the Teacher
Stress Inventory constructed by Boyle, Borg, Falzon and Baglioni (1995) and had been modified by Mokhtar (1998) and Mazlan
(2002). A pilot study has been conducted and the Alpha Croncbach for the instrument was 0.982. The data have been analyzed
using both descriptive (mean, frequency, and percentage) and inherency methods (Independent t-Test, Pearson Correlation, and
One Way ANOVA). Result indicates that the overall stress level of respondent is at moderate. Among the five stressors, pupil
misbehavior is the strongest determinant of teacher stress with a mean of 3.70. Other factors are teacher workload (mean = 3.22),
time and resources difficulties (mean = 3.11), recognition (mean = 3.05), and interpersonal relationships (mean = 3.00)
respectively. The workload and other factors had caused a moderate stress on the respondents. The result also indicates that there
is no significant difference of work stress among the respondent based on gender, marriage status, and highest academic
qualification. Furthermore, the result of this study failed to indicate a significant correlation between teacher stress and
demographic factors such as age, length of teaching experience, and the respondents’ monthly salary

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ตรวจสอบปัจจัยที่เป็นส่วนหนึ่งของความเครียดและระดับของความเครียดอาชีพครูการศึกษาพิเศษที่ปัจจุบันสอนในชั้นเรียนการศึกษาพิเศษในปีนัง มาเลเซีย ผลแสดงว่า มีปัจจัยที่ห้าหลักที่นำไปสู่ความเครียดระหว่างครูการศึกษาพิเศษในปีนัง จำนวนครูการศึกษาพิเศษ 92 ถูกเลือกแบบสุ่มเพื่อเป็นตัวแทนประชากร โดยคลัสเตอร์ผ่านวิธีการคลัสเตอร์ เครื่องมือสำหรับการศึกษานี้ถูกดัดแปลงจากครูความเครียดคงสร้าง โดยบอยล์ Borg, Falzon และบากลิโอนี่ (1995) และได้ถูกแก้ไข โดย Mokhtar (1998) และ Mazlan(2002) มีการดำเนินการศึกษานำร่อง และ Croncbach อัลฟาสำหรับเครื่องมือถูก 0.982 มีการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ทั้งคำอธิบาย (หมายถึง ความถี่ และเปอร์เซ็นต์) และวิธี inherency (อิสระที่ t-ทดสอบ สหสัมพันธ์เพียร์สัน และหนึ่งวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวน) ผลลัพธ์บ่งชี้ว่า ผู้ตอบระดับความเครียดโดยรวมมีปานกลาง ระหว่างลด 5 นักเรียนmisbehavior เป็นดีเทอร์มิแนนต์แข็งแกร่งของความเครียดของครู มีค่าเฉลี่ยของ 3.70 ปัจจัยอื่นคือ ปริมาณครู (หมายถึง = 3.22),ปัญหาเวลาและทรัพยากร (หมายถึง = 3.11), การรับรู้ (หมายถึง = 3.05), และมนุษยสัมพันธ์ (หมายถึง = 3.00)ตามลำดับ ปริมาณงานและปัจจัยอื่น ๆ ก็เกิดความเครียดระดับปานกลางกับผู้ตอบ ผลยังหมายถึงมีไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของความเครียดงานตอบตามเพศ สถานภาพ และวุฒิการศึกษาสูงสุดคุณสมบัติ นอกจากนี้ ผลการศึกษาวิจัยนี้ล้มเหลวในการบ่งชี้ความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างความเครียดของครู และปัจจัยทางประชากรเช่นอายุ ความยาวของการสอนประสบการณ์ เงินเดือนรายเดือนของผู้ตอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษานี้ศึกษาปัจจัยที่นำความเครียดและระดับความเครียดอาชีพระหว่างครูการศึกษาพิเศษที่มี
อยู่ในปัจจุบันการเรียนการสอนในชั้นเรียนการศึกษาพิเศษในรัฐปีนังประเทศมาเลเซีย ผลแสดงให้เห็นว่ามีห้าปัจจัยสำคัญที่
นำไปสู่ความเครียดของครูการศึกษาพิเศษในปีนัง ทั้งหมดของครูการศึกษาพิเศษ 92 ถูกสุ่มเลือก
ให้เป็นตัวแทนของประชากรโดยใช้คลัสเตอร์กว่าวิธีการคลัสเตอร์ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้รับการดัดแปลงมาจากครู
สินค้าคงคลังความเครียดสร้างโดยบอยล์, แอนเดอ Falzon และ Baglioni (1995) และได้รับการแก้ไขโดย Mokhtar (1998) และ Mazlan
(2002) การศึกษานำร่องที่ได้รับการดำเนินการและอัลฟา Croncbach สำหรับตราสารเป็น 0.982 ข้อมูลที่ได้รับการวิเคราะห์
โดยใช้ทั้งพรรณนา (หมายถึงความถี่และร้อยละ) และวิธีการ inherency (อิสระทดสอบ t เพียร์สันสหสัมพันธ์และ
One Way ANOVA) ผลการวิจัยพบว่าระดับความเครียดโดยรวมของผู้ตอบแบบสอบถามที่ระดับปานกลาง ในห้าความเครียดนักเรียน
ซุกซนเป็นปัจจัยที่แข็งแกร่งของความเครียดครูมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.70 ปัจจัยอื่น ๆ ที่มีภาระงานครู (ค่าเฉลี่ย = 3.22),
เวลาและความยากลำบากทรัพยากร (ค่าเฉลี่ย = 3.11) การรับรู้ (ค่าเฉลี่ย = 3.05) และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (ค่าเฉลี่ย = 3.00)
ตามลำดับ ภาระงานและปัจจัยอื่น ๆ ได้ก่อให้เกิดความเครียดในระดับปานกลางในผู้ตอบแบบสอบถาม ผลนอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่ามี
ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญของความเครียดจากการทำงานในหมู่ผู้ตอบขึ้นอยู่กับเพศสถานภาพการแต่งงานและวิชาการสูงสุด
คุณสมบัติ นอกจากนี้ผลการศึกษาครั้งนี้ล้มเหลวที่จะแสดงให้เห็นความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างความเครียดของครูและ
ปัจจัยทางด้านประชากรศาสตร์เช่นอายุความยาวของประสบการณ์ในการสอนและเงินเดือนผู้ตอบแบบสอบถาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความเครียดและระดับของความเครียดของครูการศึกษาพิเศษ ที่สอนในคลาส
ในปัจจุบันการศึกษาพิเศษในรัฐปีนัง , มาเลเซีย พบว่า มี 5 ปัจจัยหลักที่
นำไปสู่ความเครียดของครูการศึกษาพิเศษใน ปีนัง จำนวน 92 ครูการศึกษาพิเศษที่ถูกเลือกแบบสุ่ม
การเป็นตัวแทนของประชากรโดยใช้วิธีการกลุ่มเหนือกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษานี้ถูกดัดแปลงจากครู
เครียดสินค้าคงคลังสร้างโดย Boyle Borg , falzon และใน ( 1995 ) และได้รับการแก้ไขโดย mokhtar ( 1998 ) และ mazlan
( 2002 ) การศึกษานำร่องมีวัตถุประสงค์และ croncbach อัลฟาสำหรับเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็น 0.982 . วิเคราะห์ข้อมูล
การใช้วิธีเชิงพรรณา ( หมายถึง ความถี่ และค่าร้อยละ ) และวิธีการ inherency ( independent t-test , ค่าสหสัมพันธ์เพียร์สัน และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
) พบว่าระดับความเครียดโดยรวมของกลุ่มตัวอย่างอยู่ในระดับปานกลาง 5 หมู่ 5 ลูกศิษย์
วังหน้าเป็นแรงหนึ่งของครูเครียดกับค่าเฉลี่ย 3.70 . ปัจจัยอื่น ๆ เป็นครู ภาระงาน ( ค่าเฉลี่ย = 3.22 )
เวลาและทรัพยากร ปัญหา ( ค่าเฉลี่ย = 3.11 ) การรับรู้ ( ค่าเฉลี่ย = 3.05 ) และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ( ค่าเฉลี่ย = 3.00 )
) ภาระงานและปัจจัยอื่นที่ทำให้เกิดความเครียดอยู่ในแบบสอบถาม ผลการวิจัยยังพบว่ามีความแตกต่างกัน
ไม่มีความเครียดในการทำงานของผู้ถูกกล่าวหาตามเพศ สถานภาพสมรส และสถาบันการศึกษาสูงสุด
คุณสมบัติ นอกจากนี้ผลของการศึกษานี้ไม่สามารถระบุความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดและอาจารย์
ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระยะเวลาของประสบการณ์การสอน และเงินเดือนของกลุ่มตัวอย่าง รายเดือน