The sample population consisted of

The sample population consisted of 87 young school-age children, i.e. from 6.5 to 12 years old (mean 8, 6 SD 1, 89). Of the
total number of participants, 42 were children with ID, enrolled in special schools, while 45 were children recruited from the
general population, attending regular schools. All children were from a similar cultural background.
Of the 42 participants with ID, 23 were classified as having mild ID (52%) and 19 as having borderline ID (48%). The sample
did not include children with Down Syndrome. The following criteria were observed when creating the sample of children
with ID: presence of intellectual disability as defined by the American Psychiatric Association (2000); children in the 6.5–12
age range; normal neurological and health status. The study excluded children with metabolic diseases, as well as musculoskeletal,
cardio and respiratory system diseases, in order to avoid potential influence of neurological and health factors on
physical fitness test results. Accordingly, the sample did not include children with multiple disabilities. Furthermore, the
sample did not include children who regularly participated in physical activities. The other group included typically
developing children from local schools who were randomly selected and aligned according to gender and age with the group
of children with ID. When creating this group the following criteria were observed absence of intellectual disability; children
in the 6.5–12 age range; normal neurological and health status. The study excluded participants with metabolic diseases, as
well as musculo-skeletal, cardio and respiratory system diseases, in order to avoid potential influence of neurological and
health factors on physical fitness test scores. This group did not include children who participated in organized physical
activities, either.
The first phase focused on creating the study groups with different treatment. Three treatment groups were formed.
The first, experimental group (E) included 21 participants, 12 of whom were children with mild ID and 9 with borderline
ID, all of whom participated in the fitness program. The second group, control group 1 (K1), included the same number
of participants (21), 11 of whom were diagnosed with mild ID, 10 with borderline ID. This group did not participate
in the fitness program, but was only involved in the initial and final testing. In order to achieve adequate control
of numerous other factors which may affect the scores, groups E and K1 were evenly matched and pairs were
formed, whereby each child from group E was matched with a child of identical gender, age and IQ from group K1.
Consequently, the two groups were aligned by gender, age and abilities. Children without disabilities made up the third
group, control group 2 (K2), consisting of 45 typically developing participants, who did not participate in the fitness
program, either.
The research was reviewed and approved by the Research Committee. Written consent was obtained from children’s
parents or guardians, as well as from schools administrators, who were informed about the aim and course of this research

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประชากรตัวอย่างประกอบด้วย 87 โรงเรียนอายุเด็ก เช่นจาก 6.5 12 ปี (เฉลี่ย 8, 6 SD 1, 89) ของจำนวนผู้เข้าร่วม 42 มีราคาเด็ก ID ลงทะเบียนโรงเรียนพิเศษ ขณะที่ 45 คัดจากเด็กประชากรทั่วไป การเข้าโรงเรียนปกติ เด็ก ๆ ทั้งหมดจากพื้นหลังทางวัฒนธรรมคล้ายคลึงกันของผู้เข้าร่วม 42 ID, 23 ถูกจัดประเภทว่ามีรหัส (52%) และ 19 มี ID เส้นขอบ (48%) อ่อน ตัวอย่างไม่มีเด็กดาวน์ซินโดรม การถูกสังเกตเมื่อสร้างตัวอย่างของเด็กมี ID: ของความพิการทางปัญญาตามที่กำหนดไว้โดยสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (2000); เด็กใน 6.5-12ช่วงอายุ ปกติระบบประสาทและสุขภาพสถานะ การศึกษาไม่รวมเด็ก กับ โรค และ musculoskeletalหัวใจและระบบทางเดินหายใจโรค เพื่อหลีกเลี่ยงอิทธิพลมีศักยภาพของระบบประสาท และสุขภาพปัจจัยในผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ตาม ตัวอย่างไม่มีเด็กพิการหลาย นอกจากนี้ การอย่างไม่มีเด็กประจำเข้าร่วมในกิจกรรมทางกายภาพ กลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่โดยปกติพัฒนาเด็กจากโรงเรียนในท้องถิ่น ที่ถูกสุ่มเลือกจัดกับกลุ่มตามเพศและอายุเด็กมีรหัส เมื่อสร้างกลุ่มนี้ การถูกสังเกตขาดพิการทางปัญญา เด็กในช่วงอายุ 6.5-12 ปกติระบบประสาทและสุขภาพสถานะ การศึกษาร่วมกับโรค แยกออกเป็นดีเป็น musculo อีก หัวใจและระบบทางเดินหายใจโรค เพื่อหลีกเลี่ยงอิทธิพลมีศักยภาพของระบบประสาท และปัจจัยสุขภาพบนกายทดสอบคะแนน กลุ่มนี้ไม่มีเด็กที่เข้าร่วมในการจัดระเบียบทางกายภาพกิจกรรม อย่างใดอย่างหนึ่งระยะแรกเน้นสร้างกลุ่มศึกษาด้วยการรักษาแตกต่างกัน รักษากลุ่มสามได้เกิดขึ้นกลุ่มแรก ทดลอง (E) รวม 21 คน 12 คนมีเด็กอ่อน ID 9 กับเส้นID ทุกคนเข้าร่วมโปรแกรมออกกำลังกาย กลุ่มที่สอง กลุ่มควบคุม 1 (K1), รวมหมายเลขเดียวกันของผู้เรียน (21), 11 คนถูกวินิจฉัยกับ ID ไม่รุนแรง มีรหัสเส้นขอบ กลุ่มนี้ไม่ได้มีส่วนร่วมในโปรแกรมออกกำลังกาย แต่ได้เฉพาะเกี่ยวข้องกับการเริ่มต้น และสุดท้ายทดสอบ เพื่อบรรลุการควบคุมที่เพียงพอหลายปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งอาจมีผลต่อคะแนน กลุ่ม E และ K1 ถูกเหวี่ยง และถูกคู่เกิดขึ้น โดยเด็กแต่ละกลุ่ม E ถูกจับคู่กับเด็กเพศเดียวกัน อายุ และ IQ จากกลุ่ม K1ดังนั้น กลุ่มสองถูกจัดตามเพศ อายุ และความสามารถ เด็กไม่พิการขึ้นที่สามกลุ่ม กลุ่มควบคุม 2 (K2), 45 พัฒนาผู้เรียน ผู้ไม่มีส่วนร่วมในการออกกำลังกายโดยทั่วไปประกอบด้วยโปรแกรม อย่างใดอย่างหนึ่งการวิจัยทบทวน และอนุมัติ โดยคณะกรรมการวิจัย ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรได้รับจากเด็กผู้ใหญ่ เป็นอย่างดีจากผู้ดูแลโรงเรียน ที่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายและหลักสูตรของการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 87 เด็กวัยหนุ่มสาวคือ 6.5-12 ปี (ค่าเฉลี่ย 8, 6 SD 1, 89) ของ
จำนวนเสียงทั้งหมดของผู้เข้าร่วม 42 เป็นเด็กที่มี ID, เข้าเรียนในโรงเรียนพิเศษขณะที่ 45 เป็นเด็กที่ได้รับคัดเลือกจาก
ประชาชนทั่วไปเข้าร่วมโรงเรียนปกติ เด็กทุกคนที่มาจากภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่คล้ายกัน.
ของ 42 ผู้เข้าร่วมที่มี ID, 23 ถูกจัดว่ามีอ่อน ID (52%) และ 19 ที่มี ID ชายแดน (48%) ตัวอย่าง
ไม่ได้รวมถึงเด็กที่มีกลุ่มอาการดาวน์ เกณฑ์ต่อไปนี้ถูกตั้งข้อสังเกตเมื่อมีการสร้างตัวอย่างของเด็ก
ที่มี ID: ปรากฏตัวของความพิการทางปัญญาตามที่กำหนดโดยสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (2000); เด็กใน 6.5-12
ช่วงอายุ; สถานะทางระบบประสาทและสุขภาพปกติ การศึกษาการยกเว้นเด็กที่มีโรค metabolic เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อ
หัวใจและโรคระบบทางเดินหายใจในการสั่งซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงอิทธิพลของปัจจัยที่มีศักยภาพทางระบบประสาทและสุขภาพใน
ผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ดังนั้นตัวอย่างไม่ได้รวมถึงเด็กที่มีความพิการหลาย นอกจากนี้
กลุ่มตัวอย่างที่ไม่ได้รวมถึงเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมเป็นประจำในกิจกรรมการออกกำลังกาย กลุ่มอื่น ๆ รวมถึงมักจะ
พัฒนาเด็กจากโรงเรียนในท้องถิ่นที่ได้รับการคัดเลือกโดยการสุ่มและสอดคล้องตามเพศและอายุกับกลุ่ม
ของเด็กที่มี ID เมื่อมีการสร้างกลุ่มนี้เกณฑ์ต่อไปนี้ถูกตั้งข้อสังเกตกรณีที่ไม่มีความพิการทางปัญญา เด็ก
ในช่วงอายุ 6.5-12; สถานะทางระบบประสาทและสุขภาพปกติ การศึกษาการยกเว้นผู้ที่มีโรค metabolic เช่น
เดียวกับกล้ามเนื้อและกระดูก, หัวใจและโรคระบบทางเดินหายใจในการสั่งซื้อเพื่อหลีกเลี่ยงอิทธิพลที่มีศักยภาพของระบบประสาทและ
ปัจจัยด้านสุขภาพในคะแนนการทดสอบสมรรถภาพทางกาย กลุ่มนี้ไม่ได้รวมถึงเด็กที่มีส่วนร่วมในทางกายภาพจัด
กิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง.
ระยะแรกมุ่งเน้นการสร้างกลุ่มการศึกษากับการรักษาที่แตกต่างกัน สามกลุ่มการรักษาที่มีอยู่.
ครั้งแรกที่กลุ่มทดลอง (E) รวม 21 ผู้เข้าร่วม 12 คนเป็นเด็กที่มี ID อ่อนและ 9 กับเส้นเขตแดน
ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในโปรแกรมการออกกำลังกาย กลุ่มที่สองกลุ่มควบคุม 1 (K1) รวมจำนวนเดียวกัน
ของผู้เข้าร่วม (21), 11 ของผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยที่มี ID อ่อน, 10 มี ID ชายแดน กลุ่มนี้ไม่ได้มีส่วนร่วม
ในโปรแกรมการออกกำลังกาย แต่มีส่วนเกี่ยวข้องเฉพาะในการทดสอบครั้งแรกและครั้งสุดท้าย เพื่อที่จะให้เกิดการควบคุมที่เพียงพอ
ของปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนกลุ่มอีและ K1 ถูกจับคู่อย่างสม่ำเสมอและคู่ที่ถูก
สร้างขึ้นโดยเด็กจากกลุ่ม E แต่ละคนถูกจับคู่กับเด็กของเพศเหมือนกันอายุและไอคิวจากกลุ่ม K1
ดังนั้นทั้งสองกลุ่มถูกจัดชิดตามเพศอายุและความสามารถ เด็กพิการโดยไม่ต้องสร้างขึ้นสาม
กลุ่มกลุ่มควบคุม 2 (K2) ประกอบด้วย 45 ผู้เข้าร่วมการพัฒนาโดยทั่วไปที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการออกกำลังกาย
โปรแกรมทั้ง.
การวิจัยที่ได้รับการตรวจสอบและอนุมัติจากคณะกรรมการวิจัย ยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรที่ได้รับจากเด็ก
ที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองตลอดจนผู้บริหารโรงเรียนที่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายและหลักสูตรการวิจัยครั้งนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 3 หนุ่มเด็กวัยเรียน เช่น จาก 6.5 ถึง 12 ปี ( เฉลี่ย 8 , 6 SD 1 , 89 ) ของ
จำนวนผู้เข้าร่วม 42 เป็นเด็กที่มีรหัสเข้าเรียนในโรงเรียนพิเศษ ในขณะที่ 45 เป็นเด็กคัดมาจาก
ประชากรทั่วไป เรียนโรงเรียนปกติ เด็กทั้งหมดได้จากภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่คล้ายกัน .
ของ 42 ผู้ที่มี ID23 จำแนกมีอ่อน ID ( 52% ) และ 19 มีเส้นเขตแดน ID ( ร้อยละ 48 ) ตัวอย่าง
ไม่ได้รวมถึงเด็กดาวน์ซินโดรม . เกณฑ์ต่อไปนี้ที่พบเมื่อมีการสร้าง ตัวอย่างของเด็ก
กับ ID : การปรากฏตัวของความพิการทางปัญญา ตามที่กำหนดโดยสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน ( 2543 ) ; เด็กในช่วงอายุ 6 – 12
; ปกติทางระบบประสาทและภาวะสุขภาพการศึกษาแยกออกเด็กที่มีโรคเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหาร รวมทั้งกล้ามเนื้อ
, เกี่ยวกับหัวใจ และโรคระบบการหายใจ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของระบบประสาทและสุขภาพปัจจัย
ผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย ดังนั้นตัวอย่างไม่ได้รวมถึงเด็กพิการซ้อน . นอกจากนี้
ตัวอย่างไม่รวมเด็กเป็นประจำมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางกายภาพ กลุ่มอื่น ๆ รวมโดยทั่วไป
พัฒนาเด็กจากโรงเรียนท้องถิ่นที่สุ่ม และสอดคล้องตามเพศและอายุ มีกลุ่ม
เด็กที่มี ID เมื่อสร้างกลุ่มนี้ตามจำนวนที่ไม่มีความพิการทางสติปัญญา เด็ก
ใน 6.5 – 12 อายุ ;ปกติทางระบบประสาทและภาวะสุขภาพ การศึกษา ยกเว้นผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหาร เช่น
เป็น musculo โครงกระดูกที่เกี่ยวกับหัวใจ และโรคระบบทางเดินหายใจ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทางประสาทและปัจจัยด้านสุขภาพบน
คะแนนการทดสอบสมรรถภาพทางกาย กลุ่มนี้ไม่ได้รวมถึงเด็กที่เข้าร่วมในการจัดกิจกรรมพลศึกษา

ด้วยโดยในระยะแรกเน้นการสร้างกลุ่มการศึกษาที่มีการรักษา 3 กลุ่ม คือ รูปแบบแรก กลุ่มทดลอง (
, E ) รวม 21 คน ซึ่งเป็นเด็ก 12 กับ id ที่ไม่รุนแรงและ 9 กับเส้นเขตแดน
ID ของผู้เข้าร่วมในโปรแกรมฟิตเนส กลุ่มที่สอง กลุ่มที่ 1 ( K1 ) ได้แก่ หมายเลขเดียวกัน
ของผู้เข้าร่วม ( 21 )11 คนที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นบัตรอ่อน 10 กับเส้นเขตแดน ID กลุ่มนี้ไม่ได้มีส่วนร่วม
ในโปรแกรมฟิตเนส แต่ก็มีส่วนร่วมในการเริ่มต้นและสุดท้ายของการทดสอบ เพื่อให้บรรลุการควบคุมเพียงพอ
มากมาย ปัจจัยอื่น ๆที่อาจมีผลต่อคะแนน กลุ่ม อี และ K1 ได้เสมอกันและคู่ถูก
ตั้งขึ้นโดยเด็กแต่ละคน จาก กลุ่ม อี ถูกจับคู่กับเด็กเหมือนกัน เพศ อายุ และไอคิวจากกลุ่ม K1 .
จากนั้น ทั้งสองกลุ่มมีความสามารถสอดคล้องตามเพศ อายุและ เด็กไม่พิการขึ้น กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มควบคุม 2
( K2 ) ประกอบด้วย 45 โดยทั่วไปการพัฒนาผู้ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในฟิตเนส

โปรแกรมเหมือนกันเพื่อตรวจสอบและอนุมัติโดยคณะกรรมการวิจัย ได้รับความยินยอมจากเด็ก
พ่อแม่หรือผู้ปกครอง รวมทั้ง จากผู้บริหารโรงเรียน ผู้ที่ทราบเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายและหลักสูตรของงานวิจัยนี้