Taxing ProblemsSubmitted by prachat

Taxing Problems
Submitted by prachatai on Fri, 27/08/2010 - 12:52
Harrison George
This week’s prize for twisted logic goes to Nipon Poapongsakorn, President of the Thailand Development Research Institute think-tank and member of the Prawase Reform Committee. The committee, tasked with reducing injustice and inequity in the wake of the red shirt protests, is looking at the tax system.

And that is a jolly good place to look.

Those who have been around for a while may fondly recall the list of top taxpayers that the Revenue Department used to publish every year. It was intended as a way of publicly recognizing those people who had contributed most, in financial terms, to the welfare of society.

But it provoked some embarrassing questions. Was Thai commerce so dominated by foreigners that they invariably took the majority of top slots? And many people found it easy to name Thais who were generally considered to be doing well for themselves, but whose names were conspicuous by their absence.

It just got too embarrassing. It stopped being a way of acknowledging duty nobly done by those whose names were listed and more a celebration of successful tax avoidance (and possibly evasion) by those whose names were missing. The Revenue Department quietly dropped the whole idea and the tax payments of the elite sank back into the obscurity they so devoutly cherish.

The recent travails of former Prime Minister Thaksin Shinawatra have kept the public aware that his infamous 73 billion baht sale of Shin Corp shares to Temasek was carefully structured so as to be tax-free (though the Revenue Department now argues that they weren’t careful enough and has sent in a tax demand). What is perhaps not so well known is that all profits from the sale of shares on the Stock Exchange of Thailand are tax-free.

And a few years ago a talk was given in Bangkok by a Japanese tax expert who had come to Thailand to compare inheritance taxes in the two countries and discovered to his confusion that this would be rather difficult. Thailand had no inheritance tax. And still doesn’t.

Yes, the current tax system in the country looks very much like a leading contributor to income and wealth inequality.

At this point I have to get a bit technical. Taxes are often divided into ‘progressive’ and ‘regressive’. Progressive taxes are like income tax. The more you earn, the higher percentage of your income you are supposed to pay in tax. In this way the rich pay more and the poor pay less (or even nothing); the net difference in income between rich and poor is evened out a bit. Regressive taxes do the opposite. They fall proportionately heavier on those with least ability to pay and exacerbate inequalities of wealth and income.

And just a bit more technical stuff. Direct taxes are those that can be adjusted for different groups of taxpayers. So income tax rules normally include provisions so that people raising children pay less. Indirect taxes are indiscriminate and hit everyone more or less the same.

Now you may have spotted that whereas it is relatively easy to make direct taxes progressive (since you can single out the rich and make them pay more), it is much more difficult to do the same with indirect taxes.

And if you keep thinking, you can now see that Value Added Tax, applied to almost all transactions, pretty much fills the bill as an indirect tax, and is therefore unlikely to be a progressive tax, and consequently won’t do much to reduce inequalities of wealth and income.

In practice, VAT is tweaked to exempt certain transactions in line with government economic policy. Normally, the sale of essential or socially worthy goods is exempt; so there’s no VAT on fresh food or schoolbooks. And the government can also exempt areas of the economy that it wants to promote, so exporters in Thailand can claim back any VAT they have paid on stuff they export, though they will forever complain about the time and bureaucratic rigmarole involved.

But these measures barely change VAT’s regressive nature. The exemptions apply to everyone who buys a kilo of rice, rich or poor.

No let’s get back to Mr Nopin and his idea for reducing social inequalities by instituting – and financing – a social welfare system:

‘Social welfare involves most people in the country, and so does VAT. So they should be considered together, on the premise that if you want more social welfare from the state, you have to pay more tax. VAT should, therefore, be increased to 10% from the current rate of 7%.’

So in order to fund an equalizing project like social security, we should use a dis-equalizing tax like VAT.

And why? Because of a logic that says if we want a benefit, the direct beneficiaries should pay for it. So if you want better hospitals, then tax the patients; if you want well-resourced schools, then tax schoolchildren; if you want better animal protection, then tax the animals; if you want a better environment, then tax the trees.

Is there no scope in Thailand for raising tax revenues in other ways that would reduce injustice and equity? Like taxing the profits from share-trading? Or an inheritance tax?

Let’s hope that the Reform Committee’s other proposals are a bit more, well, reformist.

 

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหา taxingเขียน โดยประชาไทศุกร์ 27/08/2010-12:52Harrison จอร์จรางวัลประจำสัปดาห์นี้สำหรับตรรกะบิดไปนิพนธ์ตัง Poapongsakorn ประธานาธิบดี think-tank สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยและกรรมการปฏิรูป Prawase คณะกรรมการ รับมอบหมายกับลดความอยุติธรรมและ inequity ในการปลุกของการชุมนุมเสื้อแดง จะมองที่ระบบภาษีและนั่นคือจอลลี่ดีดูนอกจากนี้ผู้ที่ได้รับรอบในขณะที่ fondly อาจเรียกคืนรายชื่อของผู้เสียภาษีสูงสุดที่กรมสรรพากรใช้ในการเผยแพร่ทุกปี สร้างขึ้นเป็นวิธีการจดจำผู้ที่มีส่วนมากที่สุด ในเงื่อนไขทางการเงิน เพื่อสวัสดิภาพของสังคม ทั่วไปแต่ว่าท่านคำถามอาย ถูกไทยพาณิชย์เพื่อครอบงำ โดยชาวต่างชาติที่พวกเขาเกิดเอาส่วนใหญ่ของช่องด้านบน และหลายคนพบง่ายชื่อคนไทยที่ถูกพิจารณาโดยทั่วไปจะทำดีสำหรับตัวเอง แต่ชื่อมีเป้า โดยขาดการมันเพิ่งอายเกินไป มันหยุดการวิถีจิตหน้าที่ทำ nobly โดยผู้ที่เปลี่ยนชื่อที่แสดงและจัดงานฉลองอย่างเลี่ยงภาษีที่ประสบความสำเร็จ (และอาจจะหลบหลีก) โดยผู้ที่เปลี่ยนชื่อได้หายไป กรมสรรพากรอย่างเงียบ ๆ ทิ้งความคิดทั้งหมด และชำระภาษีของชนชั้นสูงจมกลับเข้าไปใน obscurity ที่พวกเขาหวงแหนดังนั้น devoutlyTravails ล่าสุดของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณชินวัตรได้เก็บสาธารณะทราบว่า เขาขายอับอาย 73 พันล้านบาทของหุ้นชิน คอร์ปให้เทมาเส็กมีโครงสร้างอย่างระมัดระวังเพื่อจะไม่ต้องเสียภาษี (แม้ว่ากรมสรรพากรทันทีจนที่ พวกเขาไม่ระมัดระวังเพียงพอ และส่งความภาษี) อะไรบางทีอาจเป็นที่รู้จักดังนั้นเป็นผลกำไรทั้งหมดจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่ต้องเสียภาษีและไม่กี่ปีที่ผ่านมาพูดคุยได้รับในกรุงเทพมหานคร โดยญี่ปุ่นภาษีผู้เชี่ยวชาญที่ได้มาประเทศไทยเพื่อเปรียบเทียบภาษีมรดกในประเทศทั้งสอง และพบกับความสับสนของเขาที่ว่า นี้จะค่อนข้างยาก ประเทศไทยมีภาษีมรดกไม่ และยัง ไม่ใช่ ระบบภาษีปัจจุบันประเทศดูมากเช่นความไม่เท่าเทียมกันของรายได้และอีกมากมายให้ผู้บริจาคนำจุดนี้ ฉันได้รับเทคนิคเล็กน้อย มักจะมีแบ่งภาษี 'ก้าวหน้า' และ 'ลดค่าลงเรื่อยๆ' ภาษีก้าวหน้าเช่นภาษีเงินได้ ยิ่งคุณได้รับ เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของคุณคุณควรจะจ่ายภาษีสูงขึ้น วิธีนี้คนรวยจ่ายมากขึ้นและคนจนจ่ายน้อย (หรือแม้แต่ไม่มีอะไร); สุทธิความแตกต่างของรายได้ระหว่างคนรวยและคนจนเป็น evened ออกเล็กน้อย ภาษีลดค่าลงเรื่อย ๆ ทำตรงข้าม พวกเขาตกหนักตามสัดส่วนในผู้ที่มีสามารถจ่าย และทำให้ความเหลื่อมล้ำทางรายได้และอีกมากมายให้รุนแรงน้อยที่สุดและสิ่งที่เทคนิคเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย ภาษีทางตรงคือผู้ที่สามารถปรับปรุงสำหรับกลุ่มของผู้เสียภาษี ดังนั้น กฎภาษีปกติรวมบทบัญญัติเพื่อให้ค่าจ้างคนเลี้ยงเด็กน้อย ภาษีทางอ้อมเลือก และตีคนน้อยเหมือนกันตอนนี้คุณอาจมีด่างที่เป็นค่อนข้างง่ายที่จะทำให้ภาษีทางตรงแบบก้าวหน้า (เนื่องจากคุณสามารถหนึ่งคนรวย และให้จ่ายเพิ่มเติม), มันจะยากมากที่จะทำเช่นเดียวกันกับภาษีทางอ้อมถ้าคุณให้ คิด คุณสามารถตอนนี้ดูว่า ค่าเพิ่มภาษี นำไปใช้กับธุรกรรมทั้งหมดเกือบ สวยมากตั๋วเป็นภาษีทางอ้อมเป็นการกรอกข้อมูล และจึงน่าจะ เป็นโปรเกรสซีภาษี และดัง ไม่มากเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้และอีกมากมายให้ในทางปฏิบัติ VAT เป็น tweaked เพื่อยกเว้นธุรกรรมที่กำหนดสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยปกติ การขายสินค้าจำเป็น หรือสมควรที่สังคมจะได้รับยกเว้น ดังนั้น จะไม่มี VAT ในอาหารสดหรือ schoolbooks และรัฐบาลยังสามารถยกเว้นด้านเศรษฐกิจที่จะต้องส่งเสริม เพื่อผู้ส่งออกในประเทศไทยสามารถเรียกร้องกลับ VAT จะได้จ่ายในสิ่งที่พวกเขาส่งออก แม้ว่าพวกเขาตลอดไปจะบ่นเกี่ยวกับการเวลา และราชการ rigmarole เกี่ยวข้องแต่มาตรการเหล่านี้แทบไม่เปลี่ยนแปลงธรรมชาติของ VAT ลดค่าลงเรื่อย ๆ Exemptions ที่ใช้กับทุกคนที่ซื้อกิโลข้าว คน รวยไม่ลองกลับไปนาย Nopin และความคิดของเขาเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยจัดระบบการ แสวง – เงิน – ระบบสวัสดิการสังคม:"สวัสดิการสังคมเกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ในประเทศ และอื่น ๆ ตาม ดังนั้น พวกเขาควรกัน เกี่ยวกับว่า คุณมากขึ้นสังคมสงเคราะห์จากรัฐ คุณจะต้องจ่ายภาษีเพิ่มเติม VAT ควร ดังนั้น ได้เพิ่มขึ้น 10% จากอัตราปัจจุบัน 7% 'ดังนั้น เพื่อกองทุนโครงการมี equalizing เช่นสังคม เราควรใช้ dis-equalizing ภาษีเช่นภาษีมูลค่าเพิ่มและทำไม เนื่องจากตรรกะที่ว่า ถ้า เราต้องการให้สวัสดิการ ผู้รับผลประโยชน์โดยตรงควรจ่ายสำหรับมัน ดังนั้น ถ้าคุณต้องการให้โรงพยาบาลที่ดีขึ้น แล้วภาษีผู้ป่วย ถ้าคุณต้องการให้โรงเรียนแห่ง resourced แล้วภาษี schoolchildren ถ้าคุณต้องการป้องกันดีกว่าสัตว์ แล้วภาษีสัตว์ ถ้าคุณต้องการสภาพแวดล้อมดี ภาษีต้นมีขอบเขตไม่มีในประเทศไทยเพิ่มรายได้ภาษีในรูปแบบอื่น ๆ ที่จะช่วยลดความอยุติธรรมและหุ้นไหม เช่น taxing กำไรจากการซื้อขายหุ้นหรือไม่ หรือมีภาษีมรดกเราหวังว่า คณะกรรมการปฏิรูปของข้อเสนออื่น ๆ อยู่เล็กน้อย ดี ชอบเปลี่ยนรูปใหม่ 

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เดินทางโดยรถแท็กซี่ปัญหา
เขียนโดยประชาไท on Fri, 27/08/2010 - 00:52
แฮร์ริสันจอร์จ
ได้รับรางวัลในสัปดาห์นี้สำหรับตรรกะบิดไปที่นิพนธ์ Poapongsakorn ประธานประเทศไทยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาคิดว่ารถถังและเป็นสมาชิกของคณะกรรมการปฏิรูปประเวศ คณะกรรมการมอบหมายให้ลดความอยุติธรรมและความไม่เสมอภาคในการปลุกของการประท้วงเสื้อแดงที่กำลังมองหาที่ระบบภาษี. และที่เป็นสถานที่ที่ดีที่จะดูครึกครื้น. บรรดาผู้ที่ได้รับรอบในขณะที่ด้วยความรักอาจจำรายการของด้านบน ผู้เสียภาษีที่กรมสรรพากรใช้ในการเผยแพร่ทุกปี มันเป็นเจตนาเป็นวิธีการที่สาธารณชนตระหนักถึงคนเหล่านั้นที่ได้มีส่วนร่วมมากที่สุดในแง่การเงินเพื่อสวัสดิการของสังคม. แต่มันเจ็บใจบางคำถามที่น่าอาย ได้รับการพาณิชย์ไทยครอบงำดังนั้นโดยชาวต่างชาติที่พวกเขาคงเส้นคงวาเอาเสียงส่วนใหญ่ของช่องด้านบน? และหลายคนพบว่ามันง่ายที่จะตั้งชื่อคนไทยที่ได้รับการพิจารณาโดยทั่วไปจะทำดีสำหรับตัวเอง แต่มีชื่อเป็นที่เห็นได้ชัดเจนโดยไม่มีของพวกเขา. มันก็มีที่น่าอายเกินไป มันหยุดการยอมรับวิธีการทำหน้าที่อย่างสง่างามโดยผู้ที่มีรายชื่อปรากฏและอื่น ๆ การเฉลิมฉลองของการหลีกเลี่ยงภาษีที่ประสบความสำเร็จ (และหลีกเลี่ยงอาจจะ) โดยผู้ที่มีรายชื่อหายไป กรมสรรพากรลดลงอย่างเงียบ ๆ ความคิดทั้งหมดและการชำระเงินภาษีของชนชั้นจมลงสู่ความมืดสลัวกลับใจพวกเขาจึงหวงแหน. นาที่ผ่านมาของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณชินวัตรได้เก็บประชาชนทราบว่าน่าอับอายของเขา 73000000000 บาทขายหุ้นชินคอร์ป เทมาเส็กจะได้รับการออกแบบมาเพื่อที่จะไม่ต้องเสียภาษี (แม้ว่ากรมสรรพากรในขณะนี้ระบุว่าพวกเขาไม่ระมัดระวังเพียงพอและได้ส่งในความต้องการภาษี) สิ่งที่อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักกันดีว่าผลกำไรทั้งหมดจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปลอดภาษี. และไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้รับการพูดคุยในกรุงเทพฯโดยผู้เชี่ยวชาญภาษีญี่ปุ่นที่ได้มาเมืองไทยเพื่อเปรียบเทียบ ภาษีมรดกในทั้งสองประเทศและค้นพบความสับสนของเขาที่ว่านี้จะค่อนข้างยาก ประเทศไทยมีภาษีมรดก และยังคงไม่ได้. ใช่ระบบภาษีในปัจจุบันในประเทศที่ดูมากเช่นผู้บริจาคนำไปสู่รายได้และความไม่เท่าเทียมกันความมั่งคั่ง. ณ จุดนี้ผมจะต้องได้รับบิตทางเทคนิค ภาษีแบ่งออกมักจะเป็น 'ก้าวหน้า' และ 'ถอยหลัง' ภาษีก้าวหน้าเป็นเช่นภาษีเงินได้ ยิ่งคุณได้รับร้อยละที่สูงขึ้นของรายได้ของคุณที่คุณควรจะจ่ายภาษี ด้วยวิธีนี้จ่ายเงินที่หลากหลายมากขึ้นและการจ่ายเงินที่ไม่ดีน้อย (หรือแม้กระทั่งไม่มีอะไร); ความแตกต่างของรายได้สุทธิระหว่างคนรวยและคนจนจะคืนสู่สภาพปกติเล็กน้อย ภาษีถอยหลังทำตรงข้าม พวกเขาตกอยู่ในสัดส่วนที่หนักกว่าผู้ที่มีความสามารถที่จะจ่ายน้อยและทำให้รุนแรงความไม่เท่าเทียมกันของความมั่งคั่งและรายได้. และเพียงเล็กน้อยสิ่งที่ทางเทคนิคอื่น ๆ ภาษีทางตรงเป็นคนที่สามารถปรับเปลี่ยนได้สำหรับกลุ่มที่แตกต่างกันของผู้เสียภาษี ดังนั้นกฎระเบียบภาษีรายได้ตามปกติรวมถึงบทบัญญัติเพื่อให้ผู้คนเลี้ยงดูเด็กจ่ายเงินน้อยลง ภาษีทางอ้อมที่มีการพิจารณาและตีทุกคนมากหรือน้อยเหมือนกัน. ตอนนี้คุณอาจจะเห็นว่าในขณะที่มันเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ภาษีโดยตรง (progressive เนื่องจากคุณสามารถเดี่ยวออกที่อุดมไปด้วยและทำให้พวกเขาต้องจ่ายมากขึ้น) มันเป็นเรื่องยากมากที่จะ ทำเช่นเดียวกันกับภาษีทางอ้อม. และถ้าคุณเก็บความคิดตอนนี้คุณสามารถเห็นได้ว่ามูลค่าเพิ่มภาษีนำไปใช้กับการทำธุรกรรมเกือบทั้งหมดสวยมากเติมใบเรียกเก็บเงินเป็นภาษีทางอ้อมและดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นภาษีก้าวหน้าและผล จะไม่ทำมากเพื่อลดความไม่เท่าเทียมกันของความมั่งคั่งและรายได้. ในทางปฏิบัติภาษีมูลค่าเพิ่มเอ็นดูได้รับการยกเว้นการทำธุรกรรมบางอย่างสอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยปกติการขายสินค้าที่จำเป็นหรือที่คุ้มค่าสังคมได้รับการยกเว้น; จึงไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มเกี่ยวกับอาหารสดหรือ schoolbooks และรัฐบาลยังสามารถได้รับการยกเว้นพื้นที่ของเศรษฐกิจที่มันต้องการที่จะส่งเสริมเพื่อให้ผู้ส่งออกในประเทศไทยสามารถเรียกร้องกลับภาษีมูลค่าเพิ่มใดที่พวกเขาได้จ่ายเงินในสิ่งที่พวกเขาส่งออกแม้ว่าพวกเขาตลอดไปจะบ่นเกี่ยวกับเวลาและวิธีการซับซ้อนของระบบราชการที่เกี่ยวข้อง. แต่มาตรการเหล่านี้แทบจะไม่ เปลี่ยนลักษณะถอยหลังของภาษีมูลค่าเพิ่ม . การยกเว้นนำไปใช้กับทุกคนที่ซื้อกิโลกรัมของข้าวร่ำรวยหรือยากจนไม่มีให้ของได้รับกลับไปยังนาย NOPIN และความคิดของเขาในการลดความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมโดยการจัดตั้ง - และการจัดหาเงิน - ระบบสวัสดิการสังคม: 'สวัสดิการสังคมที่เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ในประเทศ และเพื่อไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นพวกเขาควรจะได้รับการพิจารณาร่วมกันบนสมมติฐานที่ว่าหากคุณต้องการสวัสดิการสังคมมากขึ้นจากรัฐ, คุณจะต้องจ่ายภาษีเพิ่มขึ้น ภาษีมูลค่าเพิ่มจึงควรจะเพิ่มขึ้นถึง 10% จากอัตราปัจจุบัน 7%. ' ดังนั้นในกองทุนเพื่อโครงการอีควอไลเช่นการรักษาความปลอดภัยทางสังคมเราควรใช้ภาษีโรคอีควอไลเช่นภาษีมูลค่าเพิ่ม. และทำไม? เพราะตรรกะที่บอกว่าถ้าเราต้องการผลประโยชน์ที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงควรจะจ่ายสำหรับมัน ดังนั้นหากคุณต้องการโรงพยาบาลดีขึ้นแล้วภาษีผู้ป่วย; ถ้าคุณต้องการที่โรงเรียนซึ่งมีทรัพยากรเพียงพอแล้วเด็กนักเรียนภาษี ถ้าคุณต้องการคุ้มครองสัตว์ดีขึ้นแล้วภาษีสัตว์; ถ้าคุณต้องการสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นแล้วภาษีต้นไม้. มีขอบเขตไม่มีในประเทศไทยสำหรับการเพิ่มรายได้จากภาษีในรูปแบบอื่น ๆ ที่จะช่วยลดความอยุติธรรมและความเท่าเทียมกัน? เช่นเดียวกับการเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้น? หรือภาษีมรดก? หวังว่าคณะกรรมการปฏิรูปของข้อเสนออื่น ๆ ที่มีมากขึ้นอีกนิดดีปฏิรูป







































 

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เดินทางโดยรถแท็กซี่ปัญหา
ส่งโดยประชาไทใน Fri , 27 / 08 / 2010 - 12 : 52 แฮร์ริสันจอร์จ

รางวัลในสัปดาห์นี้สำหรับตรรกะบิดเบี้ยวไป Poapongsakorn นิพนธ์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย prawase คิดว่ารถถังและเป็นสมาชิกของคณะกรรมการปฏิรูป คณะกรรมการ , tasked กับการลดความอยุติธรรม และความไม่เสมอภาคในการปลุกของการประท้วงเสื้อแดง มองที่ระบบภาษี .

และที่เป็นสถานที่ที่ดีที่จะดูครึกครื้น

ผู้ที่ได้รับรอบสำหรับขณะที่อาจด้วยความรักเรียกคืนรายชื่อด้านบนผู้เสียภาษีที่กรมสรรพากรเคยเผยแพร่ทุกปี มันมีไว้เป็นวิธีที่สาธารณชนตระหนักถึงผู้ที่ได้มีส่วนร่วมมากที่สุด ในแง่การเงิน เพื่อสวัสดิการของสังคม

แต่มันเจ็บใจน่าอายบางข้อไทยพาณิชย์ดังนั้นการปกครองโดยชาวต่างชาตินั้น พวกเขาต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ของสล็อตบน และหลายคนพบว่ามันง่ายที่จะชื่อคนไทยที่โดยทั่วไปถือว่าทำได้ดีสำหรับตัวเอง แต่ที่มีชื่อถูกเด่นโดยการขาดงาน

นี่มันน่าอายเกินไปมันไม่ได้เป็นวิธีของการยอมรับหน้าที่อย่างประเสริฐ ทำได้โดยผู้ที่มีชื่อจดทะเบียนและการเฉลิมฉลองของการหลีกเลี่ยงภาษีที่ประสบความสำเร็จ ( และอาจจะเลี่ยง ) โดยผู้ที่ชื่อหายไป กรมสรรพากรได้ลดลงอย่างเงียบ ๆความคิดทั้งหมดและภาษีการชำระเงินของยอดจมเข้าไปในความสับสน พวกเขาจึงมีศรัทธายึดมั่น .

โอกาสล่าสุดของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ทำให้ประชาชนตระหนักว่าเขาเลว 73 ล้านบาท การขายหุ้นชินคอร์ปให้เทมาเส็กเป็นอย่างดีที่มีโครงสร้างเพื่อให้เป็นประจำ ( แม้ว่ากรมสรรพากรแล้วว่าพวกเขาไม่ระวังพอ และมีการส่งในการเรียกร้องภาษี )สิ่งที่เป็นดังนั้นอาจจะไม่รู้จักกันดี นั่นคือกำไรทั้งหมดจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ประจำ

และไม่กี่ปีที่ผ่านมาพูดให้กรุงเทพมหานครโดยคนญี่ปุ่นภาษีผู้เชี่ยวชาญที่เคยมาเมืองไทยเพื่อเปรียบเทียบภาษีมรดกในทั้งสองประเทศ และพบความสับสนของเขานี่จะค่อนข้างยาก ประเทศไทยไม่มีภาษีมรดก และยังไม่ได้

ใช่ ระบบภาษีในปัจจุบันในประเทศดูมากเช่นผู้นำรายได้และความไม่เท่าเทียมกันความมั่งคั่ง .

ณจุดนี้ฉันต้องได้รับทางเทคนิคนิดหน่อย ภาษีมักจะแบ่งออกเป็น ' ก้าวหน้า ' และ ' ถอยหลัง ' ภาษีก้าวหน้าเป็นเช่นภาษีเงินได้ มากกว่าที่คุณได้รับสูงกว่าเปอร์เซ็นต์ของรายได้ของคุณคุณจะต้องจ่ายภาษีในวิธีนี้ คนรวยจ่ายมากกว่าคนจนจ่ายน้อยลง ( หรืออะไร ) ; ความแตกต่างสุทธิ รายได้ระหว่างคนรวยและคนจนมี evened ออกนิดหน่อย ภาษีถอยหลังทำตรงกันข้าม พวกเขาจะเป็นสัดส่วนที่หนักนั้นมีความสามารถอย่างน้อยต้องจ่ายและเพิ่มความไม่เท่าเทียมกันของรายได้และความมั่งคั่ง .

แค่นิดหน่อยเพิ่มเติมด้านเทคนิคของภาษีทางตรงที่สามารถปรับได้สำหรับกลุ่มที่แตกต่างกันของผู้เสียภาษี ดังนั้นกฎภาษีปกติรวมบทบัญญัติเพื่อให้ผู้เลี้ยงเด็ก จ่ายน้อยกว่า ภาษีทางอ้อมจะพิจารณาและตีทุกคนมากหรือน้อยเหมือนกัน

ตอนนี้คุณอาจพบว่าในขณะที่มันค่อนข้างง่ายที่จะทำให้ภาษีทางตรงก้าวหน้า ( เนื่องจากคุณสามารถเดียวออกมากมาย และให้จ่ายเพิ่มมันยากมากที่จะทำแบบเดียวกันกับภาษีทางอ้อม

และถ้าคุณคิดว่า ตอนนี้คุณสามารถดูว่า ภาษีมูลค่าเพิ่ม ใช้กับธุรกรรมเกือบทั้งหมดสวยมากเติมบิลเป็นภาษีทางอ้อม และดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นภาษีก้าวหน้า และจากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรมาก เพื่อลด ความไม่เท่าเทียมกันของรายได้และความมั่งคั่ง .

ในการปฏิบัติภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น tweaked เพื่อยกเว้นธุรกรรมบางอย่างที่สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ปกติแล้วการขายสินค้าจำเป็น หรือสังคมสมควรจะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จึงไม่มีอาหารสด หรือหนังสือเรียน . และรัฐบาลสามารถยกเว้นพื้นที่เศรษฐกิจที่มันต้องการที่จะส่งเสริมให้ผู้ส่งออกไทยสามารถเรียกร้องกลับภาษีที่พวกเขาได้จ่ายเงินในสิ่งที่พวกเขาส่งออกแม้ว่าพวกเขาจะบ่นเกี่ยวกับเวลาและวิธีการที่ซับซ้อนของระบบราชการเกี่ยวข้อง

แต่มาตรการเหล่านี้แทบจะเปลี่ยนลักษณะถอยหลังภาษีมูลค่าเพิ่ม . สำหรับใช้กับทุกคนที่ซื้อเป็นกิโล ข้าว รวยหรือจน .

ไม่กลับไปเป็นนาย nopin และความคิดของเขาเพื่อลดความไม่เสมอภาคทางสังคม โดยจัดระบบการเงิน– ) และระบบสวัสดิการสังคม :

' สังคมสวัสดิการที่เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ในประเทศ และเพื่อให้ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นพวกเขาควรจะพิจารณากันในสถานที่ที่ถ้าคุณต้องการสวัสดิการสังคมจากรัฐ คุณจะต้องจ่ายภาษีมากขึ้น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ด้วยเหตุนี้จึงควรเพิ่มขึ้นเป็น 10% จากปัจจุบันอัตรา 7 % '

ดังนั้นเพื่อที่จะมีกองทุน equalizing โครงการประกันสังคม เราควรจะใช้พวกเขา equalizing ภาษี เช่น ภาษี

และทำไม ?เพราะตรรกะที่บอกว่า ถ้าเราต้องการเป็นประโยชน์ ประโยชน์โดยตรงควรจะจ่ายสำหรับมัน ดังนั้น ถ้าคุณต้องการให้โรงพยาบาลดีกว่า แล้วภาษีผู้ป่วย ; ถ้าคุณต้องการให้ผู้อื่นได้ดี เด็กนักเรียนโรงเรียนภาษี ; ถ้าคุณต้องการที่ดีกว่าสัตว์คุ้มครอง แล้วภาษีสัตว์ ; ถ้าคุณต้องการสภาพแวดล้อมที่ดี แล้วภาษีต้นไม้

ไม่มีขอบเขตในไทยเพื่อเพิ่มรายได้ภาษีในรูปแบบอื่น ๆที่จะลดความอยุติธรรมและหุ้น ? ชอบเดินทางโดยรถแท็กซี่กําไรจากการซื้อขายแลกเปลี่ยน ? หรือภาษีมรดก ?

หวังว่าข้อเสนอของคณะกรรมการปฏิรูป อื่นๆ เป็นบิตเพิ่มเติม ดี

ทำไมนักปฏิรูป