The most effective rehabilitation p

The most effective rehabilitation plan would require
the nurse to collaborate with the multidisciplinary team
during continuous assessment and management of the stroke
patient’s musculoskeletal complications to ensure reduced
discomfort and an effective enforcement of both management
and treatment. It has long been seen that continuity is vital
when observing improvements or changes in the patient, both
physically and psychologically (Wade and Halligan, 2003).
Nurses provide a 24-hour presence from admission to discharge
(Perry et al, 2004). This continuity means that nurses ‘know’
their patients and, therefore, are well-placed to encourage the
prevention of muscular contractures. The development of a
therapeutic nurse-patient relationship starts during admission.
During this phase, the nurse is able to observe the patient
noting any stroke-affected musculoskeletal complications that
may interfere with a patient’s activities of daily living.Therefore,
developing a more integrated, multidisciplinary, holistically
inclusive assessment/management tool may contribute to
nurses providing a more accurate physical profile and could
enhance future follow-on rehabilitative care. This is not a novel
idea: Lincoln et al (1996) advocated that all staff should be trained
to place patients in positions to reduce the risks of complications
such as contractures, respiratory complications and pressure sore

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จะต้องมีแผนฟื้นฟูมีประสิทธิภาพสูงสุดพยาบาลทำงานร่วมกับทีมสหสาขาวิชาชีพในระหว่างการประเมินอย่างต่อเนื่องและการจัดการของเส้นลดภาวะแทรกซ้อนกล้ามเนื้อของผู้ป่วยเพื่อให้แน่ใจไม่สบายและการบังคับใช้ทั้งการจัดการที่มีประสิทธิภาพและการรักษา มันมีนานแล้วได้เห็นว่า ความต่อเนื่องเป็นสำคัญเมื่อสังเกตการปรับปรุงหรือการเปลี่ยนแปลงในผู้ป่วย ทั้งสองร่างกาย และจิตใจ (ลุยและ Halligan, 2003)พยาบาลมี 24 ชั่วโมงจากค่าเข้าชมการปล่อย(Perry et al, 2004) ความต่อเนื่องนี้หมายความ ว่า พยาบาล 'รู้'ผู้ป่วย และ ดังนั้น ที่อยู่เพื่อส่งเสริมการป้องกันกล้ามเนื้อ contractures การพัฒนารักษาพยาบาลผู้ป่วยสัมพันธ์เริ่มต้นในระหว่างการเข้าชมช่วงเวลานี้ พยาบาลจะต้องสังเกตผู้ป่วยสังเกตมีผลต่อโรคหลอดเลือดสมองกล้ามเนื้อและกระดูกอาการแทรกซ้อนที่อาจรบกวนผู้ป่วยกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ดังนั้นพัฒนามากขึ้นรวม สหสาขาวิชาชีพ แบบองค์รวมเครื่องมือการประเมินและการบริหารจัดการที่รวมอาจนำไปสู่พยาบาลให้กายภาพแม่นยำของโพรไฟล์ และสามารถเพิ่มในอนาคตท่านไดกายภาพฟื้นฟูดูแล นี้ไม่ใช่นวนิยายแนวคิด: ลินคอล์น et al (1996) สนับสนุนว่า ควรฝึกอบรมพนักงานทั้งหมดวางตำแหน่งเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนผู้ป่วยcontractures ภาวะแทรกซ้อนระบบทางเดินหายใจ และความดันเจ็บ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แผนฟื้นฟูกิจการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดจะต้องมี
พยาบาลที่จะร่วมมือกับทีมสหสาขาวิชาชีพ
ในระหว่างการประเมินผลอย่างต่อเนื่องและการจัดการของโรคหลอดเลือดสมอง
โรคแทรกซ้อนที่กล้ามเนื้อของผู้ป่วยเพื่อให้แน่ใจว่าการลด
ความรู้สึกไม่สบายและการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพของการจัดการ
และการรักษา มันมีมานานเห็นความต่อเนื่องที่มีความสำคัญ
เมื่อสังเกตการปรับปรุงหรือการเปลี่ยนแปลงในผู้ป่วยทั้ง
ทางร่างกายและจิตใจ (เวดและเฮลลีเก, 2003).
พยาบาลให้การแสดงตนตลอด 24 ชั่วโมงจากการเข้ารับการปล่อย
(เพอร์รี่, et al, 2004) ความต่อเนื่องซึ่งหมายความว่าพยาบาล 'รู้'
ป่วยของพวกเขาและดังนั้นจึงมีการวางไว้อย่างดีเพื่อส่งเสริมการ
ป้องกัน contractures กล้ามเนื้อ การพัฒนา
ความสัมพันธ์พยาบาลผู้ป่วยในการรักษาจะเริ่มเข้ารับการรักษา.
ช่วงนี้พยาบาลสามารถที่จะสังเกตผู้ป่วย
สังเกตโรคหลอดเลือดสมองได้รับผลกระทบภาวะแทรกซ้อนกล้ามเนื้อใด ๆ ที่
อาจรบกวนกับกิจกรรมของผู้ป่วย living.Therefore รายวัน,
การพัฒนาแบบบูรณาการมากขึ้น สหสาขาวิชาชีพแบบองค์รวม
เครื่องมือการประเมินการจัดการ / รวมอาจนำไปสู่การ
พยาบาลให้รายละเอียดทางกายภาพที่ถูกต้องมากขึ้นและสามารถ
เพิ่มประสิทธิภาพในอนาคตติดตามเกี่ยวกับการดูแลฟื้นฟู นี้ไม่ได้เป็นนวนิยาย
ความคิด: ลิงคอล์น, et al (1996) สนับสนุนว่าพนักงานทุกคนควรได้รับการอบรม
ที่จะวางผู้ป่วยที่อยู่ในตำแหน่งเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
เช่น contractures แทรกซ้อนทางเดินหายใจและความดันเจ็บ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แผนฟื้นฟูที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ต้องการพยาบาลประสานงานกับทีมสหสาขาวิชาชีพในการประเมินอย่างต่อเนื่องและการจัดการของโรคหลอดเลือดสมองผู้ป่วยภาวะกล้ามเนื้อให้ลดลงความไม่สบายแก่และการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพของการจัดการและการรักษา มันมีนานแล้วเห็นความต่อเนื่องเป็นสำคัญเมื่อสังเกตการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงในผู้ป่วย ทั้งทางร่างกายและ จิตใจ ( เวดและแฮลลิเกิ้น , 2003 )พยาบาลให้ตนรับการบริการ( Perry et al , 2004 ) ต่อเนื่องซึ่งหมายความว่าพยาบาล " รู้ "ผู้ป่วยของพวกเขาและจึงถูกวางไว้อย่างดีเพื่อกระตุ้นการป้องกันกล้ามเนื้อ contractures . การพัฒนาของความสัมพันธ์ระหว่างการรักษาคนไข้ พยาบาลเริ่มเข้าในระหว่างขั้นตอนนี้ พยาบาลสามารถสังเกตคนไข้สังเกตจังหวะใด ๆภาวะแทรกซ้อนที่มีผลต่อกล้ามเนื้ออาจจะรบกวนคนไข้กิจกรรมชีวิตประจำวัน ดังนั้นการพัฒนาบูรณาการแบบองค์รวมมากขึ้น สหสาขาวิชารวมเครื่องมือที่อาจนำไปสู่การประเมิน / การจัดการพยาบาลให้ถูกต้องมากขึ้นโปรไฟล์และทางกายภาพเพิ่มในอนาคตตามดูแลการฟื้นฟู นี่ไม่ใช่นิยายความคิด : ลินคอล์น et al ( 1996 ) สนับสนุนว่า พนักงานทุกคนควรผ่านการอบรมการวางตำแหน่งของผู้ป่วยเพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและภาวะแทรกซ้อนระบบทางเดินหายใจเช่น contractures แผลกดทับ ,