given behavior. Bandura3 identified

given behavior. Bandura3
identified four sources of information that shape self-efficacy: (1)
performance accomplishments, (2) vicarious experience, (3) verbal persuasion, and (4)
physiological and affective states.
Robert Lent4
and his associates expanded on general self-efficacy theory to develop a Social
Cognitive Career Theory (SCCT), a “conceptual framework aimed at understanding the
processes through which people develop educational/vocational interests, make career-relevant
choices, and achieve performances of varying quality in their educational and occupational
pursuits” (p. 62). In addition to highlighting cognitive-person variables, such as self-efficacy,
SCCT emphasizes the role of other personal, contextual, and learning variables (e.g., gender,
race or ethnicity, ability, social support, external barriers) that can help shape career trajectories,
including the means to remediate any disadvantages from being under-represented in particular
occupations.5

SCCT theory has also made an impact on models attempting to explain the withdrawal of students
from undergraduate education. Early theories of student persistence stressed the importance of
academic performance and student-institution match, referring to the degree to which the student has
been involved and integrated into the collegiate experience especially during the first year.6 7 8 9
SCCT has more completely explained persistence rates by focusing on cognitive-person variables,
such as self-efficacy, that can enable students to exercise personal agency in their career endeavors.
What is especially important about these variables is that they can be assessed and their conditions
altered in order to enhance students’ perceived consequences of succeeding in college.10 In
particular, consistent with SCCT theory, recent studies have found that enhanced self-efficacy and
social support during the collegiate experience can lead to improved adjustment and academic
performance, which, in turn, shape overall satisfaction and commitment to remain in school.11 12 13
While this study’s pathways model (Figure 1) bears some resemblance to Lent’s theoretical SCCT
model,14 he and his colleagues use outcome expectations and interests as additional cognitiveperson
variables.15 This study concentrates on support and self-efficacy constructs, especially
since the latter are believed to be the most central and pervasive mechanism of personal agency.16
Subsequent analyses will focus on the effects of these variables on retention.

Other than Lent’s work on contextual factors, there has been some modest research on
counseling interventions that may lead to increased self-efficacy. In theoretical papers, Betz17
and Brown and Lent18 discussed ways that counselors could increase the self-efficacy beliefs of
their clients, such as by structuring successful performance experiences, finding successful role
models, providing techniques for anxiety management, offering encouragement and support,
encouraging data gathering that might counteract detrimental self-efficacy beliefs, and helping
process efficacy-relevant data. At the secondary school level,19 a three-day problem-based camp
experience was found to increase students’ self-efficacy for specific tasks as well as general selfefficacy.
At the college level, Hutchison, Follman, Sumpter, & Bodner20 more recently reported
a relationship between academic and advisory support and female students’ academic selfefficacy.
Focusing in particular on cooperative education, a pilot study21 was performed by the
University of Wyoming’s and Northeastern University’s Colleges of Engineering to discriminate
the effect of co-op versus other competing measures on self-efficacy. Cooperative education was
found to significantly predict change in work self-efficacy. Prior academic achievement was

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลักษณะการทำงานให้ Bandura3 ระบุแหล่งของข้อมูล 4 ที่รูปร่างตนเองประสิทธิภาพ: (1)ประสิทธิภาพการทำงานสำเร็จ กิยามะฮ์ประสบการณ์ (2) (3) วาจาจูง ใจ และ (4)อเมริกาสรีรวิทยา และผลโรเบิร์ต Lent4 และสมาคมของเขาขยายในทฤษฎีประสิทธิภาพตนเองทั่วไปในการพัฒนาสังคมเป็นรับรู้อาชีพทฤษฎี (SCCT), เป็น "กรอบแนวคิดเพื่อความเข้าใจกระบวนการที่คนพัฒนาสถานศึกษา/อาชีพ ทำงานที่เกี่ยวข้องตัวเลือก และของคุณภาพการศึกษา และอาชีพแตกต่างกันชั้น" (p. 62) นอกจากเน้นตัวแปรการรับรู้ของบุคคล เช่นประสิทธิภาพตนเองSCCT เน้นบทบาทของส่วนตัวอื่น ๆ บริบท และตัวแปรการเรียนรู้ (เช่น เพศสนับสนุนทางสังคมเชื้อชาติหรือเชื้อชาติ ความสามารถ อุปสรรคภายนอก) ที่สามารถช่วยให้รูปร่างอาชีพ trajectoriesรวมถึงวิธีการสำรองใด ๆ ข้อเสียจากการอยู่ภายใต้แสดงเฉพาะoccupations.5ทฤษฎี SCCT ได้ทำผลกระทบในรูปแบบที่พยายามอธิบายการถอนของนักเรียนจากการศึกษาระดับปริญญาตรี ทฤษฎีแรกของการคงอยู่ของนักเรียนเน้นความสำคัญของผลการศึกษาและนักศึกษาสถาบันตรง อ้างถึงในระดับที่นักเรียนได้เกี่ยวข้อง และรวมอยู่ในประสบการณ์ทยาโดยเฉพาะในช่วง year.6 แรก 7 8 9SCCT มีราคามีอยู่ทั้งหมดอธิบายเพิ่มเติม โดยเน้นตัวแปรการรับรู้ของบุคคลเช่นประสิทธิภาพตนเอง ที่สามารถให้นักเรียนออกกำลังกายส่วนบุคคลหน่วยงานในความพยายามของพวกเขาทำงานเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวกับตัวแปรเหล่านี้ว่า พวกเขาสามารถประเมิน และสภาพของพวกเขาการเปลี่ยนแปลงเพื่อนักเรียนมองเห็นผลของการประสบความสำเร็จใน college.10 ในสอดคล้องกับทฤษฎี SCCT การศึกษาล่าสุดพบที่เพิ่มประสิทธิภาพตนเอง และสนับสนุนทางสังคมระหว่างประสบการณ์ทยาสามารถนำไปปรับปรุงและวิชาการประสิทธิภาพ ซึ่ง จะ รูปร่างโดยรวมความพึงพอใจและความมุ่งมั่นจะอยู่ใน school.11 12 13ขณะนี้ การศึกษาของมนต์รุ่นหมี (รูปที่ 1) บางรูปเข้าพรรษาของทฤษฎี SCCTรุ่น 14 เขา และเพื่อนร่วมงานของเขาใช้ผลความคาดหวังและผลประโยชน์เป็น cognitiveperson เพิ่มเติมvariables.15 การศึกษานี้เน้นสนับสนุนและโครงสร้างประสิทธิภาพตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่หลังเชื่อว่าเป็นที่สุดศูนย์กลาง และชุมชนที่แพร่หลายกลไกของ agency.16 ส่วนบุคคลต่อมาวิเคราะห์จะเน้นผลกระทบของตัวแปรเหล่านี้ในการเก็บข้อมูลนอกเหนือจากการทำงานของเข้าพรรษากับบริบทปัจจัย มีงานวิจัยบางอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวในให้คำปรึกษางานวิจัยที่อาจนำไปสู่ประสิทธิภาพตนเองเพิ่มขึ้น ในทฤษฎีเอกสาร Betz17และสีน้ำตาลและ Lent18 ปรึกษาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพตนเองความเชื่อของลูกค้าของพวกเขา เช่น โดยการจัดโครงสร้างประสบการณ์ประสิทธิภาพประสบความสำเร็จ ค้นหาบทบาทที่ประสบความสำเร็จแบบจำลอง การให้เทคนิคการจัดการความวิตกกังวล ให้กำลังใจและสนับสนุนข้อมูลที่รวบรวมที่อาจถอนความเชื่อตนเองประสิทธิภาพผลดี และช่วยส่งเสริมประมวลผลข้อมูลประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้อง ในระดับมัธยมศึกษา 19 ค่ายตามปัญหาสามวันพบประสบการณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตนเองของนักเรียนสำหรับงานเฉพาะเป็น selfefficacy ทั่วไปในระดับวิทยาลัย Hutchison, Follman, Sumpter และ Bodner20 เมื่อเร็ว ๆ นี้รายงานความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนด้านการศึกษา และให้คำปรึกษาและหญิงเรียนวิชาการ selfefficacyเน้นเฉพาะสหกิจศึกษา study21 นำร่องที่ดำเนินการโดยการมหาวิทยาลัยของไวโอมิงและเฉียงมหาวิทยาลัยวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ถือพรรคถือพวกผลของ co-op กับมาตรการอื่น ๆ แข่งขันบนประสิทธิภาพตนเอง สหกิจศึกษาได้พบการทำนายการเปลี่ยนแปลงในงานตนเองประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ สำเร็จการศึกษาก่อนได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พฤติกรรมที่กำหนด Bandura3
สี่ระบุแหล่งที่มาของข้อมูลที่มีรูปทรงประสิทธิภาพของตนเอง (1)
ความสำเร็จของการปฏิบัติงาน (2) ประสบการณ์ชะลอ (3) การชักชวนด้วยวาจาและ (4)
รัฐทางสรีรวิทยาและอารมณ์.
โรเบิร์ต Lent4
และผู้ร่วมงานของเขาขยายทั่วไปรับรู้ความสามารถของตนเอง ทฤษฎีการพัฒนาสังคม
ทฤษฎีองค์ความรู้อาชีพ (SCCT) "กรอบแนวคิดมุ่งเป้าไปที่การทำความเข้าใจ
กระบวนการที่ผ่านการพัฒนาคนการศึกษา / ความสนใจอาชีพการทำอาชีพที่เกี่ยวข้อง
ทางเลือกและบรรลุการแสดงต่าง ๆ ที่มีคุณภาพในการศึกษาและการประกอบอาชีพของพวกเขา
แสวงหาความรู้ "( พี. 62) นอกเหนือไปจากการเน้นตัวแปรความรู้ความเข้าใจคนเช่นการรับรู้ความสามารถตนเอง
SCCT เน้นบทบาทของบุคคลอื่น ๆ ตามบริบทและตัวแปรการเรียนรู้ (เช่นเพศ
เชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ความสามารถในการสนับสนุนทางสังคมอุปสรรคภายนอก) ที่สามารถช่วยให้อาชีพของรูปร่าง ไบร์ท,
รวมถึงวิธีที่จะ remediate ข้อเสียใด ๆ จากการอยู่ภายใต้การเป็นตัวแทนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
occupations.5 ทฤษฎี SCCT ทำให้มีผลกระทบในรูปแบบนี้ยังพยายามที่จะอธิบายการถอนตัวของนักเรียนจากการศึกษาในระดับปริญญาตรี ทฤษฎีแรกของการคงอยู่ของนักเรียนเน้นความสำคัญของการปฏิบัติงานวิชาการและตรงกับนักศึกษาสถาบันการศึกษาหมายถึงระดับที่นักเรียนได้มีส่วนร่วมและบูรณาการเข้าไปในประสบการณ์ที่วิทยาลัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรก year.6 7 8 9 SCCT ได้มากขึ้นอธิบายอย่างสมบูรณ์วิริยะ อัตราโดยเน้นตัวแปรความรู้ความเข้าใจคนเช่นการรับรู้ความสามารถของตนเองที่สามารถช่วยให้นักเรียนที่จะออกกำลังกายส่วนบุคคลของหน่วยงานในความพยายามของอาชีพของพวกเขา. สิ่งที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับตัวแปรเหล่านี้คือพวกเขาสามารถได้รับการประเมินและเงื่อนไขของพวกเขาเปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในนักเรียน 'ผลกระทบของการรับรู้ที่ประสบความสำเร็จใน college.10 ในโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความสอดคล้องกับทฤษฎี SCCT การศึกษาล่าสุดพบว่าการเพิ่มประสิทธิภาพของตนเองและการสนับสนุนทางสังคมในช่วงประสบการณ์วิทยาลัยสามารถนำไปสู่การปรับตัวที่ดีขึ้นและนักวิชาการประสิทธิภาพซึ่งในทางกลับกัน, รูปร่างพึงพอใจโดยรวม และความมุ่งมั่นที่จะอยู่ใน school.11 12 13 ในขณะที่ทางเดินของการศึกษาครั้งนี้รูปแบบ (รูปที่ 1) มีความคล้ายคลึงบางอย่างเพื่อ SCCT ทฤษฎีของเข้าพรรษารุ่น 14 เขาและเพื่อนร่วมงานของเขาใช้ความคาดหวังผลและผลประโยชน์เป็น cognitiveperson เพิ่มเติมvariables.15 การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นที่การสนับสนุนและ สร้างการรับรู้ความสามารถของตนเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่หลังเชื่อว่าจะเป็นกลไกส่วนใหญ่กลางและแพร่หลายของ agency.16 ส่วนบุคคลการวิเคราะห์ที่ตามมาจะเน้นเกี่ยวกับผลกระทบของตัวแปรเหล่านี้ในการเก็บรักษา. อื่น ๆ กว่างานเข้าพรรษาในปัจจัยบริบทได้มีการบางอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว งานวิจัยเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาการแทรกแซงที่อาจนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพของตนเอง ในเอกสารทฤษฎี Betz17 และบราวน์และ Lent18 กล่าวถึงวิธีการที่ให้คำปรึกษาที่สามารถเพิ่มความเชื่อการรับรู้ความสามารถตนเองของลูกค้าของพวกเขาเช่นโครงสร้างประสบการณ์ประสิทธิภาพการทำงานที่ประสบความสำเร็จในการหาบทบาทที่ประสบความสำเร็จรุ่นให้เทคนิคในการบริหารจัดการความวิตกกังวลที่นำเสนอการให้กำลังใจและการสนับสนุนส่งเสริมให้ข้อมูล การชุมนุมที่อาจจะรับมือกับความเชื่อประสิทธิภาพของตนเองเป็นอันตรายและช่วยให้ข้อมูลประสิทธิภาพกระบวนการที่เกี่ยวข้อง ในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น, 19 ค่ายปัญหาตามสามวันก็พบประสบการณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตนเองของนักเรียนสำหรับงานเฉพาะเช่นเดียวกับสมรรถนะแห่งตนหลังทั่วไป. ในระดับวิทยาลัยฮัทชิสัน Follman, ลาและ Bodner20 รายงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ความสัมพันธ์ระหว่างนักวิชาการและการสนับสนุนที่ปรึกษาและนักเรียนหญิง 'สมรรถนะแห่งตนหลังวิชาการ. มุ่งเน้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการศึกษาความร่วมมือนำร่อง study21 ได้ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยไวโอมิงและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมหาวิทยาลัยวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์การแยกแยะผลของสหกรณ์เมื่อเทียบกับมาตรการการแข่งขันอื่น ๆ ประสิทธิภาพของตนเอง สหกิจศึกษาได้รับพบว่ามีนัยสำคัญทำนายการเปลี่ยนแปลงในการทำงานมีประสิทธิภาพในตนเอง ก่อนที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระบุพฤติกรรม bandura3
ระบุสี่แหล่งข้อมูลที่รูปร่างตนเอง ( 1 )
ความสำเร็จ ( 2 ) ประสบการณ์ของการชักชวนด้วยวาจา ( 3 ) และ ( 4 )
สรีรวิทยาและทางสหรัฐ โรเบิร์ต lent4

และผู้ร่วมงานของเขาขยายทฤษฎีความสามารถตนเองเพื่อพัฒนาอาชีพทั่วไปทฤษฎีปัญญาสังคม
( scct ) " แนวคิดที่มุ่งทำความเข้าใจ
กระบวนการที่คนพัฒนาความสนใจในอาชีพการศึกษา / ให้เลือกอาชีพที่เกี่ยวข้อง
และบรรลุการแสดงของการเปลี่ยนแปลงคุณภาพของการศึกษาและอาชีพ
pursuits " ( หน้า 62 ) นอกจากเน้นตัวแปรด้านบุคคล เช่น ความสามารถ
scct เน้นบทบาทของส่วนบุคคลอื่น ๆ ตามบริบท และการเรียน ตัวแปร ( เช่นเพศ ,
เชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ความสามารถ แรงสนับสนุนทางสังคม อุปสรรคภายนอก ) ที่สามารถช่วยให้รูปร่างวิถีอาชีพ หมายถึง การรักษาใด ๆรวมทั้ง
ข้อเสียจากภายใต้การเป็นตัวแทนในอาชีพเฉพาะ
5

scct ทฤษฎียังสร้างผลกระทบในรูปแบบพยายามที่จะอธิบายการถอนตัวของนักเรียน นิสิต นักศึกษา
จากการศึกษา ทฤษฎีของการเน้นความสำคัญของ
นักเรียนก่อนงานวิชาการและตรงกับสถาบันนักศึกษา หมายถึง การที่ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมและบูรณาการ
ในวิทยาลัยประสบการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีแรก 6 7 8 9
scct มีอัตราความคงอยู่ครบถ้วน อธิบายโดยเน้นตัวแปรการรับรู้คน
เช่นการรับรู้ความสามารถของตนเองที่สามารถให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เอเจนซี่ส่วนตัวในความพยายามของอาชีพของพวกเขา .
อะไรเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวแปรเหล่านี้ก็คือพวกเขาสามารถประเมิน และเงื่อนไขของพวกเขา
เปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มผลกระทบของนักเรียนประสบความสำเร็จใน college.10 ใน
โดยเฉพาะ สอดคล้องกับทฤษฎี scct การศึกษาล่าสุดพบว่า การรับรู้ความสามารถของตนเองและ
เพิ่มการสนับสนุนทางสังคมในวิทยาลัยประสบการณ์สามารถนำไปสู่การปรับปรุงและการปรับวิชาการ
ประสิทธิภาพ ซึ่ง จะ รูปร่าง ความพึงพอใจโดยรวมและความมุ่งมั่นที่จะอยู่ใน school.11 12 13
ในขณะที่การศึกษามีแนวทางรูปแบบ ( รูปที่ 1 ) หมีบางเหมือนยืมทฤษฎีของ scct
โมเดล เขาและเพื่อนร่วมงานของเขาใช้ความคาดหวังผลและความสนใจโดย
cognitiveperson เพิ่มเติมvariables.15 การศึกษานี้มุ่งเน้นการสนับสนุนและการรับรู้ความสามารถของตนเอง สร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ตั้งแต่หลังเชื่อว่าเป็นกลไกกลางมากที่สุดและแพร่หลายของหน่วยงานส่วนบุคคล 16
ตามมาวิเคราะห์จะมุ่งเน้นผลของตัวแปรเหล่านี้ในการเก็บรักษา

นอกจากยืมทำงานปัจจัยบริบท มีงานวิจัยเกี่ยวกับ
เจียมเนื้อเจียมตัวปรึกษาปัญหาที่อาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นความสามารถของตนเอง . ในเอกสารเชิงทฤษฎี betz17
สีน้ำตาล แล้วก็ lent18 กล่าวถึงวิธีที่ปรึกษาสามารถเพิ่มความสามารถความเชื่อของ
ลูกค้าของตนเอง เช่น โดยจัดประสบการณ์ความสำเร็จในการปฏิบัติงาน การค้นหาที่ประสบความสำเร็จเป็นแบบอย่าง
ให้เทคนิคการจัดการความวิตกกังวล สนับสนุนและให้กําลังใจ
,สนับสนุนการเก็บรวบรวมข้อมูลที่อาจต่อต้านตนเองต่อความเชื่อ และกระบวนการที่เกี่ยวข้องช่วย
) ข้อมูล ในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งปัญหา 19 ค่าย
ประสบการณ์พบเพื่อเพิ่มความสามารถของนักเรียนสำหรับงานที่เฉพาะเจาะจงรวมทั้ง selfefficacy ทั่วไป .
ในระดับ วิทยาลัย ซึ่ง follman ซัมป์เตอร์ , , ,
& bodner20 มากขึ้นเมื่อเร็ว ๆนี้รายงานว่าความสัมพันธ์ระหว่างวิชาการและส่งเสริมสนับสนุน และ selfefficacy ทางวิชาการของนักศึกษาหญิง
เน้นในเฉพาะในสหกิจศึกษานำร่อง study21 โดยใช้
มหาวิทยาลัยไวโอมิงและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมหาวิทยาลัยวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์

ผลของ OP CO เมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่น ๆมาตรการความสามารถแบ่งแยก สหกิจศึกษาคือ
พบการเปลี่ยนแปลงในความสามารถทำนายผล ก่อนที่จะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คือ