The establishment of the Irish Free

The establishment of the Irish Free State gave rise to the first serious attempt since the 1890s to industrialise the south of Ireland, but always with scant resources. Farming became orientated around pasture rather than tillage, with the increased processing of products and the export business. The country was gradually electrified and new state-owned factories were encouraged, such as the Irish Sugar Company in Carlow.

Frank Barry and Mary F. Daly have argued that :

Ireland was a largely agrarian economy, trading almost exclusively with the UK, at the time of the Great Depression. Beef and dairy products comprised the bulk of exports, and Ireland fared well relative to many other commodity producers, particularly in the early years of the depression.[7][8][9][10]
During the late 1930s the Fianna Fáil government began a disastrous dispute with Britain over the payment of land annuities, called The Economic War. The Irish state refused to continue paying land annuities, Britain put tariffs on Irish beef, and the Free State retaliated by imposing tariffs on British consumer goods; this "economic war" was resolved in 1938.

From 1932 Éamon de Valera abandoned free trade, pursued a protectionist policy and sought self-sufficiency, but the country was not wealthy enough to make this a success. This led to the state taking control of private interests in the name of the public interest - nationalisation and monopoly creation similar to that in vogue at the time in many countries. Many of the industries which were brought under government control at the time remain under 'semi-state' control today - others were sold in the 1980s and 1990s whilst others simply were downsized or closed when the economic reality became apparent.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การจัดตั้งรัฐอิสระไอริชก่อให้เกิดความพยายามอย่างจริงจังครั้งแรกนับตั้งแต่ยุค 1890 การด้านอุตสาหกรรมทางตอนใต้ของไอร์แลนด์ แต่มักจะมีทรัพยากรที่ขาดแคลน การเกษตรกลายเป็นปรับรอบทุ่งหญ้ามากกว่าดินแบบที่มีการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์และธุรกิจส่งออก ประเทศที่ได้รับการค่อยๆไฟฟ้าและโรงงานที่รัฐเป็นเจ้าของใหม่ได้รับการสนับสนุนเช่น บริษัท น้ำตาลไอริชโลว์. แฟรงก์แบร์รี่และแมรี่เอฟเดลีได้เสนอว่า: ไอร์แลนด์เศรษฐกิจเกษตรกรรมส่วนใหญ่การซื้อขายเกือบเฉพาะกับสหราชอาณาจักรที่ เวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ เนื้อและผลิตภัณฑ์นมประกอบด้วยกลุ่มของการส่งออกและไอร์แลนด์มีอาการดีเมื่อเทียบกับผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีแรก ๆ ของภาวะซึมเศร้า. [7] [8] [9] [10] ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 รัฐบาลฟิอานนาFáil เริ่มความขัดแย้งหายนะกับอังกฤษในช่วงของการชำระเงินค่างวดที่ดินที่เรียกว่าสงครามเศรษฐกิจ รัฐไอริชยังคงปฏิเสธที่จะจ่ายเงินค่างวดที่ดินของสหราชอาณาจักรนำภาษีเนื้อไอริชและรัฐอิสระแก้เผ็ดด้วยการจัดเก็บภาษีอัตราภาษีศุลกากรในสินค้าอุปโภคบริโภคอังกฤษ; นี้ "สงครามเศรษฐกิจ" ได้รับการแก้ไขในปี 1938 จาก 1,932 Éamonเดอวาเลร่าละทิ้งการค้าเสรีติดตามนโยบายการกีดกันและขอพึ่งตัวเอง แต่ประเทศที่ไม่ได้ร่ำรวยพอที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ นี้นำไปสู่รัฐการควบคุมของผลประโยชน์ส่วนตัวในชื่อของประโยชน์ของประชาชน - ชาติและการสร้างการผูกขาดแบบเดียวกับที่อยู่ในความนิยมในเวลาในหลายประเทศ หลายอุตสาหกรรมที่ถูกนำภายใต้การควบคุมของรัฐบาลในเวลานั้นยังคงอยู่ภายใต้การควบคุม 'กึ่งรัฐวันนี้ - คนอื่น ๆ ที่ถูกขายในช่วงปี 1980 และ 1990 ในขณะที่คนอื่น ๆ ก็ถูกลดขนาดหรือปิดเมื่อความเป็นจริงทางเศรษฐกิจก็เห็นได้ชัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การจัดตั้งรัฐอิสระไอริชให้สูงขึ้นเพื่อความพยายามจริงจังครั้งแรกตั้งแต่ยุค 1890 เพื่อ industrialise ทางใต้ของไอร์แลนด์ เสมอ แต่ด้วยทรัพยากรที่ขาดแคลน เกษตรเป็น orientated รอบทุ่งหญ้ามากกว่าการไถนาด้วยเพิ่มการประมวลผลของผลิตภัณฑ์ และธุรกิจส่งออก ประเทศ คือ ค่อย ๆ ไฟฟ้าและโรงงานของรัฐใหม่ให้ ,เช่น บริษัท น้ำตาลไอริชใน Carlow .

แฟรงค์แบร์รี่และแมรี่ดาลีย์ได้เสนอว่า F :

ไอร์แลนด์เป็นส่วนใหญ่ เกษตรกรรม เศรษฐกิจ การค้า โดยเฉพาะกับ อังกฤษ ในเวลาของภาวะซึมเศร้าที่ดี เนื้อและผลิตภัณฑ์จากนม ประกอบด้วย กลุ่มส่งออก และ ไอร์แลนด์ fared ดีเทียบกับหลายผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ โดยเฉพาะในช่วงปีแรก ๆของภาวะซึมเศร้า . [ 7 ] [ 8 ] [ 9 ] [ 10 ]
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1930 โดยเฟียนน่า F . kgm อิล รัฐบาลเริ่มเกิดข้อพิพาทกับอังกฤษมากกว่าเงินงวดแผ่นดิน เรียกว่า สงครามเศรษฐกิจ รัฐไอร์แลนด์ปฏิเสธที่จะดําเนินการจ่ายเป็นงวด ๆที่ดิน ภาษีไอริชอังกฤษใส่เนื้อและรัฐอิสระแก้เผ็ดด้วยการภาษีศุลกากรในสินค้าที่ผู้บริโภคชาวอังกฤษ นี้ " สงครามเศรษฐกิจ " ถูกแก้ไขในปี 1938 .

จาก พ.ศ. 2475 ไทยคม เอฟเอคัพ ทิ้ง การค้าเสรี และติดตามนโยบายกีดกันและแสวงหาความพอเพียง แต่ประเทศที่ไม่ได้ร่ำรวยมากพอที่จะทำมันให้สำเร็จ นี้นำไปสู่รัฐควบคุมความสนใจส่วนบุคคลในนามของผลประโยชน์ของประชาชน - ความเบื่อและการผูกสร้างกันในสมัยที่เวลา ในหลายประเทศหลายอุตสาหกรรมที่มีมาภายใต้การควบคุมของรัฐบาลในเวลาที่ยังคงอยู่ภายใต้ ' กึ่งรัฐควบคุมวันนี้ - อื่นๆ ถูกขายในช่วงปี 1980 และปี 1990 ขณะที่คนอื่นเพียงแค่ถูกปลด หรือ ปิด เมื่อความเป็นจริงทางเศรษฐกิจกลายเป็นชัดเจน