Piperitone, which accounted for mor

Piperitone, which accounted for more than 40% of the essential oil of E. dives, may be partially responsible for its antimicrobial activity. The compound has been reported to have antimicrobial activity against Mucora rouxii (Bakkali et al., 2008). Furthermore, it is the main compound (38%) of the essential oil extracted from Mentha pulegium flowers (Mahboubi & Haghi, 2008) which was found to have an inhibitory zone diameter of 21 mm against S. aureus, a result similar to the data for E. dives essential oil recorded in the current study

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Piperitone ซึ่งคิดเป็นกว่า 40% ของน้ำมันหอมระเหยของ E. dives อาจจะบางส่วนชอบกิจกรรมของจุลินทรีย์ บริเวณได้รับรายงานมีกิจกรรมจุลินทรีย์กับ Mucora rouxii (Bakkali et al., 2008) นอกจากนี้ เป็นสารประกอบหลัก (38%) ของน้ำมันหอมระเหยสกัดจากดอกไม้ pulegium Mentha (Mahboubi & Haghi, 2008) ซึ่งพบมีเส้นผ่าศูนย์กลางโซนลิปกลอสไข 21 มม.กับ S. หมอเทศข้างลาย ผลลัพธ์ที่คล้ายกับข้อมูลสำหรับอีดำน้ำมันหอมระเหยในการศึกษาปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Piperitone ซึ่งคิดเป็นกว่า 40% ของน้ำมันหอมระเหยจากการดำน้ำอีอาจจะมีบางส่วนรับผิดชอบของฤทธิ์ต้านจุลชีพ สารประกอบที่ได้รับรายงานว่าจะมีฤทธิ์ต้านจุลชีพกับ Mucora rouxii (Bakkali et al., 2008) นอกจากนี้ยังเป็นสารประกอบหลัก (38%) ของน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากดอกไม้ Mentha pulegium (Mahboubi และ Haghi 2008) ซึ่งพบว่ามีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโซนยับยั้งของ 21 มมกับเชื้อ S. aureus เป็นผลคล้ายกับข้อมูล สำหรับอีดำผุดดำว่าน้ำมันหอมระเหยที่บันทึกไว้ในการศึกษาในปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

piperitone ซึ่งคิดเป็นกว่า 40% ของน้ำมันหอมระเหยของ E . ดำน้ำอาจจะต้องรับผิดชอบต่อฤทธิ์ต้านจุลชีพของ สารประกอบที่ได้รับรายงานว่ามีฤทธิ์ต้านจุลชีพต่อ mucora rouxii ( bakkali et al . , 2008 ) นอกจากนี้ยังเป็นสารหลัก ( ร้อยละ 38 ) ของน้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากดอกไม้ mentha pulegium ( mahboubi haghi & ,2551 ) ซึ่งพบว่ามีพื้นที่ขนาด 21 มม. กับยับยั้ง S . aureus , ผลคล้ายกับข้อมูล น้ํามันหอมระเหยเช่นดำน้ำที่บันทึกไว้ในการศึกษาปัจจุบัน