molecule because it prevents one pa

molecule because it prevents one part of a molecule from rotating relative to
another part. The double bond of ethene, for example, holds the entire molecule
flat. Figure 4.19 shows that the two 2p-orbitals overlap best if all six atoms of the
two CH2 groups lie in the same plane. In order for the molecule to rotate about the
double bond, the -bond would need to break and re-form.
Double bonds and their influence on molecular shape are vitally important for
living organisms. For instance, they enable you to read these words. Vision depends
on the shape of the molecule retinal in the retina of the eye. cis-Retinal is held rigid
by its double bonds (41). When light enters the eye, it excites an electron out of the
-bond marked by the arrow. The double bond is now weaker, and the molecule is
free to rotate about the remaining -bond. When the excited electron falls back, the
molecule has rotated about the double bond and is now trapped in its trans shape
(42). This change in shape triggers a signal along the optic nerve and is interpreted
by the brain as the sensation of vision.
Now consider the alkynes, hydrocarbons with carbon–carbon triple bonds.
The Lewis structure of the linear molecule ethyne (acetylene) is HßCΩCßH. A
linear molecule has two equivalent orbitals at 180 from each other: this is sp
hybridization. Each C atom has one electron in each of its two sp hybrid orbitals
and one electron in each of its two perpendicular unhybridized 2p-orbitals (43).
The electrons in one of the sp hybrid orbitals on each carbon atom pair and form
a carbon–carbon -bond. The electrons in the two remaining sp hybrid orbitals
pair with hydrogen 1s-electrons to form two carbon–hydrogen -bonds. The electrons
in the two perpendicular sets of 2p-orbitals pair with a side-by-side overlap,
forming two -bonds at 90 to each other. As in the N2 molecule, the electron density
in the -bonds forms a cylinder about the C¬C bond axis. The resulting bonding
pattern is shown in FIG. 4.23.
THINKING POINT What shape do the atoms connected to two triply bonded carbon
atoms impose on a molecule that contains such a group?
We can now understand why a carbon–carbon double bond is stronger than
one carbon–carbon single bond but weaker than the sum of two single bonds (Section
3.15), and why a carbon–carbon triple bond is weaker than the sum of three
carbon–carbon single bonds. Recall that a single CßC bond is a -bond, but the
additional bonds in a multiple bond are -bonds. One reason for the difference in
strength is that because the p-orbitals overlap in a side-by-side fashion, the overlap
in a -bond is smaller and weaker than the end-to-end overlap that results in a
-bond. The side-by-side overlap also explains why double bonds are rarely formed
between elements in periods later than Period 3. The atoms are too large for the
overlap to be strong enough to form a bond.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โมเลกุลได้เนื่องจากมันป้องกันไม่ให้ส่วนหนึ่งของโมเลกุลการหมุนสัมพันธ์กับอีกส่วนหนึ่ง พันธะคู่ของ ethene เช่น เก็บโมเลกุลทั้งหมดแบน รูปที่ 4.19 แสดงว่า สอง 2p orbitals ทับหกสุดถ้าทั้งหมดของอะตอมกลุ่ม CH2 สองอยู่ในระนาบเดียวกัน เพื่อให้โมเลกุลหมุนเกี่ยวกับการพันธะคู่, -พันธบัตรจะต้องตัด และแบบฟอร์มใหม่คู่พันธบัตรและอิทธิพลรูปร่างโมเลกุลสำคัญในชีวิต ตัวอย่าง พวกเขาช่วยให้คุณอ่านคำเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์รูปร่างของ retinal โมเลกุลในเรตินาของตา cis Retinal มีจัดแข็งโดยคู่ของพันธบัตร (41) เมื่อแสงเข้าตา ตื่นเต้นที่อิเล็กตรอนจากการ-ตราสารหนี้ที่ทำเครื่องหมาย ด้วยลูกศร พันธะคู่ตอนนี้แข็งแกร่ง และโมเลกุลมีการหมุนเกี่ยวกับเหลือ-ตราสารหนี้ เมื่ออิเล็กตรอนตื่นเต้นตกกลับ การโมเลกุลมีหมุนเกี่ยวกับพันธะคู่ และขณะนี้ได้ติดอยู่ในรูปของธุรกรรม(42) การเปลี่ยนแปลงรูปร่างสัญญาณตามประสาทตาทริกเกอร์ และจะแปลโดยสมองเป็นความรู้สึกของวิสัยทัศน์ตอนนี้ ลอง alkynes สารไฮโดรคาร์บอนกับคาร์บอนคาร์บอนทริพันธบัตรHßCΩCßH A มีโครงสร้างลูอิส ethyne โมเลกุลเชิงเส้น(กับอะเซทิลีน)โมเลกุลเชิงเส้นมี orbitals สองเท่าที่ 180 จากกัน: เป็น sphybridization แต่ละอะตอม C มีหนึ่งอิเล็กตรอน orbitals ผสม sp 2 ของแต่ละและอิเล็กตรอนหนึ่งในแห่งสองตั้งฉาก unhybridized p 2-orbitals (43)อิเล็กตรอนของ orbitals ผสม sp แต่ละคาร์บอนอะตอมคู่และแบบฟอร์มคาร์บอนคาร์บอน-ตราสารหนี้ อิเล็กตรอนในสองเหลือ sp ไฮบริ orbitalsคู่อิเล็กตรอน 1s ไฮโดรเจนกับคาร์บอนไฮโดรเจนแบบฟอร์ม 2-พันธบัตร อิเล็กตรอนในสองชุดตั้งฉากของ orbitals p 2 คู่มีการทับซ้อนโดยเคียงข้างพันธบัตร 2 - ขึ้นรูปที่ 90 กัน ในโมเลกุล N2 ความหนาแน่นอิเล็กตรอนในรูปแบบพันธบัตรเป็นถังเกี่ยวกับแกนพันธะ C¬C ยึดได้รูปแบบจะแสดงใน FIG. 4.23คิดจุดรูปร่างสิ่งทำอะตอมเชื่อมต่อกับคาร์บอนสองผูก triplyกำหนดอะตอมในโมเลกุลที่ประกอบด้วยกลุ่มดังกล่าวหรือไม่เราสามารถเข้าใจตอนนี้ทำไมพันธะคู่คาร์บอนคาร์บอนจะแข็งแกร่งกว่าหนึ่งคาร์บอนคาร์บอนบอนด์เดี่ยวแต่ต่ำกว่าผลรวมของสองเดียวพันธบัตร (ส่วน3.15), และ ทำไมคาร์บอนคาร์บอนทริพันธบัตรจะต่ำกว่าผลรวมของสามคาร์บอนคาร์บอนเดี่ยวพันธบัตร การเรียกคืนพันธบัตร CßC เดียวที่ - พันธบัตร แต่พันธบัตรเพิ่มเติมในพันธบัตรหลายได้ - พันธบัตร เหตุผลหนึ่งสำหรับความแตกต่างในความว่าเนื่องจาก p-orbitals เหลื่อมใน--เคียงข้างกัน การทับซ้อนในตราสารหนี้มีขนาดเล็ก และต่ำกว่าซ้อนท้ายสุดที่มีผลการ-ตราสารหนี้ ทับซ้อน--เคียงข้างกันยังอธิบายเหตุพันธบัตรคู่ไม่ค่อยมีรูประหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ ในระยะหลัง 3 รอบระยะเวลา อะตอมมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับการทับซ้อนต้องแข็งแรงพอที่จะฟอร์มพันธบัตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โมเลกุลเพราะจะป้องกันไม่ให้ส่วนหนึ่งของโมเลกุลจากการหมุนเทียบกับอีกส่วนหนึ่ง พันธะคู่ของ ethene
เช่นถือโมเลกุลทั้งแบน รูปที่ 4.19 แสดงให้เห็นว่าทั้งสอง 2p-orbitals
ทับซ้อนที่ดีที่สุดถ้าทั้งหกอะตอมของทั้งสองกลุ่มCH2 อยู่ในระนาบเดียวกัน เพื่อให้โมเลกุลเพื่อหมุนเกี่ยวกับพันธะคู่หรือไม่ -bond จะต้องทำลายและอีกรูปแบบ. พันธบัตรคู่และอิทธิพลของพวกเขาในรูปร่างโมเลกุลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสิ่งมีชีวิต ตัวอย่างเช่นพวกเขาช่วยให้คุณสามารถอ่านคำเหล่านี้ วิสัยทัศน์ขึ้นอยู่กับรูปร่างของจอประสาทตาโมเลกุลในเรตินาของตาที่ ถูกต้อง-จอประสาทตาจะจัดขึ้นที่เข้มงวดด้วยพันธะคู่ (41) เมื่อแสงเข้าตาก็ตื่นเต้นอิเล็กตรอนออกจาก? -bond ทำเครื่องหมายด้วยลูกศร พันธะคู่อยู่ในขณะนี้ปรับตัวลดลงและโมเลกุลเป็นอิสระในการหมุนรอบที่เหลือ? -bond เมื่ออิเล็กตรอนตื่นเต้นตกกลับโมเลกุลได้หมุนเกี่ยวกับพันธะคู่และถูกขังอยู่ในขณะนี้ในรูปของทรานส์(42) การเปลี่ยนแปลงในรูปนี้จะเรียกสัญญาณไปตามเส้นประสาทตาและถูกตีความโดยสมองเป็นความรู้สึกของวิสัยทัศน์. ตอนนี้พิจารณา alkynes ที่ไฮโดรคาร์บอนกับพันธบัตรสามคาร์บอน. โครงสร้างลูอิสของโมเลกุลเชิงเส้น ethyne (อะเซทิลีน) เป็นHßCΩCßH โมเลกุลเชิงเส้นมีสอง orbitals เทียบเท่าที่ 180? จากกัน: นี่คือ SP ผสมพันธุ์ แต่ละอะตอมซีมีอิเล็กตรอนในแต่ละสอง SP orbitals ไฮบริดและอิเล็กตรอนในแต่ละสองตั้งฉากunhybridized 2p orbitals ของมัน (43). อิเล็กตรอนในหนึ่งในไฮบริดออร์บิทั SP คู่แต่ละอะตอมคาร์บอนและรูปแบบคาร์บอนคาร์บอน? -bond อิเล็กตรอนในสองที่เหลือเอสพีไฮบริดออร์บิทัคู่กับไฮโดรเจน 1s-อิเล็กตรอนในรูปแบบสองคาร์บอนไฮโดรเจน? -bonds อิเล็กตรอนในสองชุดตั้งฉากของคู่ 2p-orbitals กับด้านข้างที่ทับซ้อนกัน, การขึ้นรูปสอง? -bonds ที่ 90? ซึ่งกันและกัน. ในขณะที่โมเลกุล N2 ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนใน? -bonds รูปแบบทรงกระบอกเกี่ยวกับแกนพันธบัตรC¬C พันธะที่เกิดรูปแบบที่ปรากฏอยู่ในมะเดื่อ 4.23. จุดคิดว่ารูปร่างไม่อะตอมที่เชื่อมต่อกับสองผูกมัด triply คาร์บอนอะตอมกำหนดเกี่ยวกับโมเลกุลที่มีกลุ่มดังกล่าวได้หรือไม่ตอนนี้เราสามารถเข้าใจว่าทำไมพันธะคาร์บอนคู่จะแข็งแกร่งกว่าหนึ่งพันธบัตรเดียวคาร์บอนแต่อ่อนแอกว่า ผลรวมของสองพันธะเดี่ยว (มาตรา3.15) และทำไมคาร์บอนพันธะสามอ่อนแอกว่าผลรวมของสามคาร์บอนพันธะเดี่ยว จำได้ว่าพันธบัตร อ.ก.พ. เดียวหรือไม่? -bond แต่พันธบัตรเพิ่มเติมในพันธบัตรหลาย? -bonds เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ความแตกต่างในความแข็งแรงคือว่าเพราะ orbitals พีทับซ้อนกันในด้านโดยด้านแฟชั่นทับซ้อนใน? -bond มีขนาดเล็กและอ่อนแอกว่าแบบ end-to-end ที่ทับซ้อนกันที่จะส่งผลให้? -bond . ทับซ้อนด้านข้างนอกจากนี้ยังอธิบายว่าทำไมพันธะคู่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นระหว่างองค์ประกอบในระยะเวลาเกินระยะเวลา 3 อะตอมที่มีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับการทับซ้อนจะต้องมีความแข็งแรงพอที่จะสร้างความผูกพัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โมเลกุล เพราะป้องกันไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของโมเลกุลจากญาติหมุน

ส่วนอื่น คู่พันธะของก๊าซเอธิลีน เช่น ถือแบนโมเลกุล
ทั้งหมด รูปที่ 4.19 แสดงให้เห็นว่าทั้งสองซ้อนกัน ดีที่สุด ถ้าทั้งหก 2p ออร์บิทัลเชิงอะตอมของ C
2 กลุ่มอยู่ในระนาบเดียวกัน เพื่อให้โมเลกุลหมุนเกี่ยวกับ
พันธะคู่ ,  - พันธบัตรจะต้องตัดและ re
แบบฟอร์มพันธะคู่และอิทธิพลของพวกเขาเกี่ยวกับรูปร่างโมเลกุลคือสิ่งสำคัญสำหรับ
สิ่งมีชีวิต เช่นที่พวกเขาช่วยให้คุณสามารถอ่านคำเหล่านี้ วิสัยทัศน์ขึ้นอยู่กับ
ในรูปร่างของโมเลกุลเรตินาในเรตินาของดวงตา CIS retinal จัดขึ้นแข็ง
โดยพันธบัตรเดิม ( 41 ) เมื่อแสงเข้าสู่ตาก็ตื่นเต้นอิเล็กตรอนออกจาก
 - พันธบัตรที่มีเครื่องหมายลูกศร พันธบัตรคู่กำลังอ่อนแอลงและโมเลกุลคือ
ฟรีหมุนเรื่องที่เหลือ  - บอนด์ เมื่ออิเล็กตรอนตื่นเต้นตกกลับ
โมเลกุลได้หมุนเกี่ยวกับพันธะคู่และขณะนี้ติดอยู่ในรูป trans
( 42 ) การเปลี่ยนแปลงนี้ในรูปร่างเรียกสัญญาณตามประสาทตาและตีความ
โดยสมองเป็นความรู้สึกของวิสัยทัศน์ .
ตอนนี้พิจารณาลูกคำ , ไฮโดรคาร์บอนที่มีคาร์บอน - คาร์บอน
สามพันธบัตรที่ลูอิสโครงสร้างของชาดก . โมเลกุลเชิงเส้น ( อะเซทิลีน ) H ß C Ω C ßเอชเป็นโมเลกุลเชิงเส้นได้ 2
เทียบเท่าวงโคจรที่ 180  จากแต่ละอื่น ๆนี้เป็น SP
ลูกผสม แต่ละอะตอมมีอิเล็กตรอนหนึ่ง C ในแต่ละสอง SP ไฮบริดออร์บิทัลเชิง
และหนึ่งอิเล็กตรอนในแต่ละสองออร์บิทัลเชิงตั้งฉาก unhybridized 2p
( 43 )อิเล็กตรอนในหนึ่งของ SP ไฮบริดออร์บิทัลเชิงอะตอมคาร์บอนในแต่ละคู่และรูปแบบ
คาร์บอน–  คาร์บอน - พันธบัตร อิเล็กตรอนในออร์บิทัลเชิง
อีก 2 SP ลูกผสมคู่กับไฮโดรเจน 1s อิเล็กตรอนแบบสองคาร์บอนและไฮโดรเจน  - พันธบัตร อิเล็กตรอน
ในทั้งสองชุดของออร์บิทัลเชิงตั้งฉาก 2p คู่กับเคียงข้างซ้อนกันเป็นสอง 
- พันธบัตรที่ 90  กับแต่ละอื่น ๆ ใน 2 โมเลกุลอิเล็กตรอนความหนาแน่น
ใน  - พันธบัตรรูปแบบทรงกระบอกเกี่ยวกับ C ¬ C พันธบัตรแกน ผลต่อแบบแผนที่แสดงในรูปที่ 4.23
.
คิดอะไรรูปร่างทำอะตอมเชื่อมต่อกับสองสามเท่าพันธะคาร์บอนอะตอม
รบกวนเป็นโมเลกุลที่ประกอบด้วยกลุ่มดังกล่าว ?
ตอนนี้เราสามารถเข้าใจว่าทำไมคาร์บอนคาร์บอนพันธะคู่และแข็งแกร่งกว่า
คาร์บอน - คาร์บอนเป็นพันธะเดี่ยว แต่อ่อนแอกว่าผลรวมของเตียงเดี่ยวสองพันธบัตร ( ส่วน
3.15 ) และทำไมคาร์บอนและคาร์บอนพันธะสามจะอ่อนแอกว่าผลรวมของ 3
คาร์บอนคาร์บอนเดี่ยวและพันธบัตร จำได้ว่า เดียวß C C พันธบัตรเป็น  - พันธบัตร แต่
พันธบัตรเพิ่มเติมในพันธบัตรหลาย  - พันธบัตร เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ความแตกต่างใน
แรงเพราะ p-orbitals ทับซ้อนกันในด้าน - แฟชั่นทับซ้อน
ใน  - พันธบัตรมีขนาดเล็กและอ่อนแอกว่าแบบทับซ้อนกันซึ่งผลลัพธ์ใน
 - บอนด์ ด้านข้างกัน ซ้อน ยังอธิบายถึงสาเหตุที่พันธะคู่จะไม่ค่อยเกิดขึ้น
ระหว่างองค์ประกอบในช่วงเวลาต่อมา กว่าช่วงที่ 3 . อะตอมมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับ
ซ้อนจะแข็งแรงพอที่จะฟอร์มพันธบัตร