The giant panda is a terrestrial an

The giant panda is a terrestrial animal and primarily spends its life roaming and feeding in the bamboo forests of the Qinling Mountains and in the hilly Sichuan Province.[28] Giant pandas are generally solitary,[29] and each adult has a defined territory, and a female is not tolerant of other females in her range. Pandas communicate through vocalization and scent marking such as clawing trees or spraying urine.[8] They are able to climb and take shelter in hollow trees or rock crevices, but do not establish permanent dens. For this reason, pandas do not hibernate, which is similar to other subtropical mammals, and will instead move to elevations with warmer temperatures.[30] Pandas rely primarily on spatial memory rather than visual memory.[31]

Social encounters occur primarily during the brief breeding season in which pandas in proximity to one another will gather.[32] After mating, the male leaves the female alone to raise the cub.[33]

Though the panda is often assumed to be docile, it has been known to attack humans, presumably out of irritation rather than aggression.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แพนด้ายักษ์เป็นสัตว์บกทั้งหลาย และส่วนใหญ่ใช้ชีวิตข้าม และอาหาร ในป่าไผ่ของภูเขา Qinling และ จังหวัดเสฉวนฮิลลี[28] แพนด้ายักษ์เป็นปัจเจกโดยทั่วไป, [29] และผู้ใหญ่แต่ละมีอาณาเขตกำหนด และหญิงไม่ทนกับหญิงอื่นในช่วงเธอ แพนด้าสื่อสารผ่าน vocalization และกลิ่นเครื่องเช่น clawing ต้นไม้ หรือฉีดพ่นปัสสาวะ[8] จะ สามารถปีนขึ้นในต้นไม้กลวงหรือร็อค crevices แต่สร้าง dens ถาวร ด้วยเหตุนี้ แพนด้าไม่ไฮเบอร์ เนต ซึ่งจะคล้ายกับการเลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ สำรอง และจะไป elevations มีอุณหภูมิอุ่นแทน[30] แพนด้าอาศัยหลักในพื้นที่หน่วยความจำแทนที่เป็นหน่วยความจำเสมือน[31]พบสังคมที่เกิดขึ้นในระหว่างฤดูผสมพันธุ์โดยสังเขปซึ่งแพนด้าแห่งหนึ่งจะรวบรวมเป็นหลัก[32] หลังจากการผสมพันธุ์ ชายทิ้งหญิงคนเดียวจะยก cub[33]แม้แพนด้าจะมักถือ docile รู้จักโจมตีมนุษย์ สันนิษฐานจากการระคายเคืองมากกว่ารุกราน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แพนด้ายักษ์เป็นสัตว์บกและใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตสัญจรและการให้อาหารในป่าไผ่ของเทือกเขา Qinling และเนินมณฑลเสฉวน. [28] หมีแพนด้ายักษ์เป็นโดดเดี่ยวโดยทั่วไป [29] และผู้ใหญ่แต่ละคนมีอาณาเขตที่กำหนดไว้ และหญิงไม่ใจกว้างของผู้หญิงอื่น ๆ ในช่วงของเธอ นุ่นสื่อสารผ่านโฆษะและกลิ่นเครื่องหมายเช่น clawing ต้นไม้หรือฉีดพ่นปัสสาวะ. [8] พวกเขามีความสามารถที่จะปีนขึ้นไปและใช้เวลาที่อยู่อาศัยในโพรงต้นไม้หรือรอยแยกหิน แต่ไม่สร้างเดนส์ถาวร ด้วยเหตุนี้หมีแพนด้าไม่จำศีลซึ่งคล้ายกับเลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ ที่ค่อนข้างร้อนและแทนที่จะจะย้ายไปที่ระดับความสูงที่มีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้น. [30] นุ่นอาศัยหลักในอวกาศหน่วยความจำมากกว่าหน่วยความจำภาพ. [31] เผชิญหน้าสังคมส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วง ฤดูผสมพันธุ์ในช่วงสั้น ๆ ที่หมีแพนด้าในบริเวณใกล้เคียงกับอีกคนหนึ่งจะรวบรวม. [32] หลังจากที่ผสมพันธุ์ตัวผู้ใบหญิงคนเดียวที่จะยกลูก. [33] แม้ว่าแพนด้ามักจะถือว่าเป็นอ่อนน้อมมันได้รับการรู้จักที่จะถูกโจมตี มนุษย์น่าจะออกจากการระคายเคืองมากกว่าการรุกราน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หมีแพนด้าเป็นสัตว์บกและเป็นหลักของชีวิตที่ใช้สัญจรและการให้ไม้ไผ่ป่า Qinling ภูเขาในมณฑลเสฉวน hilly [ 28 ] ยักษ์หมีแพนด้าโดยทั่วไปเป็นสีน้ำตาล [ 29 ] และผู้ใหญ่แต่ละคนได้กำหนดอาณาเขต และผู้หญิงไม่ได้มีความอดทนของผู้หญิงอื่น ๆ ในช่วงที่เธอหมีแพนด้าสื่อสารผ่านการเปล่งเสียงและกลิ่น เครื่องหมาย เช่น ทำร้ายต้นไม้ หรือฉีดพ่นปัสสาวะ [ 8 ] พวกเขาสามารถปีนและหลบภัยอยู่ในโพรงหิน หรือต้นไม้ใหญ่ แต่ไม่สร้างถ้ำถาวร ด้วยเหตุผลนี้ นุ่นไม่ได้จำศีล ซึ่งคล้ายกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเขตร้อนอื่น ๆและแทนจะย้ายไปยังระดับที่มีอุณหภูมิอุ่น[ 30 ] แพนด้าอาศัยหลักพื้นที่หน่วยความจำมากกว่าหน่วยความจำภาพ [ 31 ]

สังคมการเผชิญหน้าเกิดขึ้นเป็นหลักในช่วงฤดูการผสมพันธุ์ที่สวนสัตว์ย่อใกล้กันจะรวบรวม [ 32 ] หลังจากผสมพันธุ์ ตัวผู้ทิ้งผู้หญิงคนเดียวที่จะยกลูก [ 33 ]

แต่แพนด้า มักจะถือว่าเป็นเชื่องได้โจมตีมนุษย์สันนิษฐานจากการระคายเคืองมากกว่าก้าวร้าว