Three methods have been used in the

Three methods have been used in the present
study as the measures to assess tubal status. These
include hysterosalpingography (HSG), laparoscopy
and the combination of both methods. Several studies
demonstrated that HSG is a good screening test for
tubal occlusion although it has some limitations in
evaluating extra-luminal pathology such as pelvic
adhesion distant from the fallopian tubes or pelvic
endometriosis(5). The advantage of laparoscopy
presented in the present study is that this method
provides the physician the opportunity to thoroughly
evaluate tubal status as well as other pelvic structures.
The data from the present study revealed a high
prevalence (87.50%) of extra-tubal pelvic pathologies.
Endometriosis was the disease most commonly
detected by laparoscopy (61.49% of cases underwent laparoscopic procedures). Other conditions such as
pelvic adhesions and myoma uteri were found in
more than one-third of the cases. These pathologies,
to some extent, can attribute to the reduction in
fertility potentials of the patients and hence proper
management after correct diagnosis being established
is needed to improve the prognosis of such cases.
Based on the results of the present study, the authors,
therefore propose that laparoscopy should be considered
as part of female infertility investigation since
it is helpful in revealing extra-tubal pathologies that
seem to occur quite commonly in such patients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สามวิธีการที่มีการใช้อยู่ในปัจจุบันการศึกษาเป็นมาตรการเพื่อประเมินสถานะท่อนำไข่ เหล่านี้รวมถึง Hysterosalpingography (HSG) การส่องกล้องและการรวมกันของทั้งสองวิธี งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า HSG คือการทดสอบการตรวจคัดกรองที่ดีสำหรับการอุดท่อนำไข่แม้ว่ามันจะมีข้อจำกัด บางประการในการประเมินผลทางพยาธิวิทยาพิเศษluminal เช่นกระดูกเชิงกรานการยึดเกาะที่ห่างไกลจากท่อนำไข่หรือกระดูกเชิงกรานendometriosis (5) ประโยชน์จากการส่องกล้องนำเสนอในการศึกษานี้คือวิธีการนี้ช่วยให้แพทย์มีโอกาสที่จะอย่างทั่วถึงประเมินสถานะท่อนำไข่เช่นเดียวกับโครงสร้างกระดูกเชิงกรานอื่นๆ . ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาครั้งนี้พบสูงชุก (87.50%) ของโรคเกี่ยวกับกระดูกเชิงกรานพิเศษท่อนำไข่ . Endometriosis เป็นโรคมากที่สุดที่ตรวจพบโดยการส่องกล้อง(61.49% ของกรณีขั้นตอนการเปลี่ยนผ่านกล้อง) เงื่อนไขอื่น ๆ เช่นadhesions กระดูกเชิงกรานและมดลูก Myoma ถูกพบอยู่ในกว่าหนึ่งในสามของกรณีที่ โรคเหล่านี้บางส่วนสามารถแอตทริบิวต์การลดลงในศักยภาพความอุดมสมบูรณ์ของผู้ป่วยและเหมาะสมด้วยเหตุนี้การจัดการหลังการวินิจฉัยที่ถูกต้องถูกจัดตั้งขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นในการปรับปรุงการพยากรณ์โรคของกรณีดังกล่าว. ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาปัจจุบันผู้เขียนจึงเสนอการส่องกล้องที่ควรได้รับการพิจารณาเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบการมีบุตรยากหญิงตั้งแต่จะเป็นประโยชน์ในการเปิดเผยโรคพิเศษท่อนำไข่ที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในผู้ป่วยดังกล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 วิธีได้ถูกใช้ในการศึกษา
เป็นมาตรการเพื่อประเมินสถานภาพยัง . เหล่านี้รวมถึง hysterosalpingography

( hsg ) อย่างหนักและการรวมกันของทั้งสองวิธี หลายการศึกษาแสดงให้เห็นว่า hsg เป็นดี

ยังการคัดเลือกการแม้จะมีข้อจำกัดในการประเมินพยาธิวิทยา
+ พิเศษเช่นเชิงกราน
การยึดเกาะที่ห่างไกลจากท่อนำไข่หรือกระดูกเชิงกราน
Endometriosis ( 5 ) ประโยชน์ของ laparoscopy
นำเสนอในการศึกษาครั้งนี้คือวิธีนี้
ให้แพทย์เปิดโอกาสให้ถี่ถ้วน
ประเมินสถานะยังเป็นโครงสร้างกระดูกเชิงกราน .
ข้อมูลจากการศึกษาพบความชุก
( 25 % ) พิเศษของกระดูกเชิงกรานโรค
ทู .Endometriosis คือ โรคที่พบบ่อยที่สุด
laparoscopy ( 61.49 % กรณีได้รับขั้นตอน laparoscopic ) เงื่อนไขอื่น ๆเช่น เนื้องอกมดลูก อุ้งเชิงกราน และไมโอมา

พบในมากกว่าหนึ่งในสามของกรณี โรคเหล่านี้
พอเหมาะสามารถคุณลักษณะที่จะลดลงในภาวะเจริญพันธุ์และศักยภาพของผู้ป่วย

จึงเหมาะสมการจัดการหลังการวินิจฉัยที่ถูกต้องมีการก่อตั้ง
คือต้องการปรับปรุงการพยากรณ์โรคของกรณีดังกล่าว
ขึ้นอยู่กับผลการศึกษา ปัจจุบัน ผู้เขียนจึงขอเสนอให้

laparoscopy ควรจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนเนื่องจากหญิง infertility
เป็นประโยชน์มากในการเปิดเผยพิเศษ
ทูโรคที่ดูเหมือนเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในผู้ป่วย เช่น