1. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ลด

1. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้
ลดการใช้พลังงานในบ้าน ด้วยการปิดโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 455 กิโลกรัมต่อปี
2. ถอดปลั๊กหลังจากใช้งาน
ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย เครื่องเสียงระบบไฮไฟ โทรทัศน์ เครื่องบันทึกวิดีโอ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และอุปกรณ์พ่วงต่างๆ ที่ติดมา ด้วยการดึงปลั๊กออก หรือใช้ปลั๊กเสียบพ่วงอุปกรณ์ตัดไฟอัตโนมัติ
3. หลอดไส้เปลืองไฟ ควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์
เปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้ เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ 1 ดวง จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 68 กิโลกรัมต่อปี แถมยังช่วยประหยัดการใช้พลังงาน
4. ใช้งานตู้เย็นให้ถูกวิธี
ประหยัดพลังงานให้ตู้เย็น ด้วยการไม่นำอาหารร้อนเข้าตู้เย็นทันทีควรรอให้เย็นก่อน หลีกเลี่ยงการนำถุงพลาสติกใส่ของในตู้เย็น เพราะจะทำให้ตู้เย็นจ่ายความเย็นได้ไม่ทั่วถึงอาหาร ควรย้ายตู้เย็นออกจากห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ และละลายน้ำแข็งในตู้เย็นเป็นประจำ เพราะตู้เย็นจะจ่ายไฟมากขึ้นเมื่อมีน้ำแข็ง ควรทำความสะอาดตู้เย็นทุกสัปดาห์
5. นำเสื้อผ้ามาตากแสงแดด
ควรตากเสื้อผ้าที่ซักแล้วให้แห้ง ด้วยแสงแดดธรรมชาติ ช่วยทำลายเชื้อโรค และช่วยประหยัดไฟฟ้า ไม่ควรใช้เครื่องปั่นผ้าแห้งหากไม่จำเป็น
6. ปั่นจักรยานประหยัดพลังงาน
รถยนต์ส่วนตัวจอดไว้ที่บ้าน แล้วออกมาขี่จักรยาน ใช้รถโดยสารประจำทาง หรือเดินเมื่อต้อง ไปทำกิจกรรมหรือธุระใกล้ๆ บ้าน เพราะการขับรถยนต์น้อยลงหมายถึงการใช้น้ำมันลดลง และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะน้ำมันทุกๆ 3.785 ลิตร (1 แกลลอน) ที่ประหยัด จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ประมาณ 9 กิโลกรัม
7. เติมน้ำมันชีวภาพ รักษาสิ่งแวดล้อม
เปลี่ยนมาใช้พลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอทานอล ให้มากขึ้นเพื่อลดการใช้พลังงานประเภทน้ำมัน แถมราคาถูก
8. eco-car ประหยัดพลังงานช่วยชาติ
เลือกซื้อรถยนต์ที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดครอบครัว และประโยชน์ในการใช้งาน รวมทั้งเลือกรุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เพื่อโลก และตัวคุณเอง
9. ทางเดียวกันไปด้วยกัน
บ้านใกล้กันไปด้วยกัน ร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool ช่วยประหยัดน้ำมันและยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อม แถมที่สำคัญยังได้เพื่อนใหม่
10. ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เผื่อเวลาก่อนออกจากบ้าน ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในระยะทางไกล จะช่วยลดการใช้ น้ำมันลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตัน ต่อรถยนต์แต่ละคัน ที่ใช้งานราว 3 หมื่นกิโลเมตรต่อปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ลดการใช้พลังงานในบ้านด้วยการปิดโทรทัศน์คอมพิวเตอร์เครื่องเสียงและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆเมื่อไม่ได้ใช้งานจะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 455 กิโลกรัมต่อปี2 . ถอดปลั๊กหลังจากใช้งานลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บายเครื่องเสียงระบบไฮไฟโทรทัศน์เครื่องบันทึกวิดีโอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและอุปกรณ์พ่วงต่างๆที่ติดมาด้วยการดึงปลั๊กออกหรือใช้ปลั๊กเสียบพ่วงอุปกรณ์ตัดไฟอัตโนมัติ3 . หลอดไส้เปลืองไฟควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์เปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ 1 ดวงจะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 68 กิโลกรัมต่อปีแถมยังช่วยประหยัดการใช้พลังงาน4 . ใช้งานตู้เย็นให้ถูกวิธีประหยัดพลังงานให้ตู้เย็นด้วยการไม่นำอาหารร้อนเข้าตู้เย็นทันทีควรรอให้เย็นก่อนหลีกเลี่ยงการนำถุงพลาสติกใส่ของในตู้เย็นเพราะจะทำให้ตู้เย็นจ่ายความเย็นได้ไม่ทั่วถึงอาหารควรย้ายตู้เย็นออกจากห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศและละลายน้ำแข็งในตู้เย็นเป็นประจำเพ ราะตู้เย็นจะจ่ายไฟมากขึ้นเมื่อมีน้ำแข็งควรทำความสะอาดตู้เย็นทุกสัปดาห์5 . นำเสื้อผ้ามาตากแสงแดดควรตากเสื้อผ้าที่ซักแล้วให้แห้งด้วยแสงแดดธรรมชาติช่วยทำลายเชื้อโรคและช่วยประหยัดไฟฟ้าไม่ควรใช้เครื่องปั่นผ้าแห้งหากไม่จำเป็น6 . ปั่นจักรยานประหยัดพลังงานรถยนต์ส่วนตัวจอดไว้ที่บ้านแล้วออกมาขี่จักรยานใช้รถโดยสารประจำทางหรือเดินเมื่อต้องไปทำกิจกรรมหรือธุระใกล้ๆบ้านเพราะการขับรถยนต์น้อยลงหมายถึงการใช้น้ำมันลดลงและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพราะน้ำมันทุกๆ 3.785 ลิตร ( 1 แกลลอน ) ที่ประหยัดจะลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ประมาณ 9 กิโลกรัม7 . เติมน้ำมันชีวภาพรักษาสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนมาใช้พลังงานชีวภาพเช่นไบโอดีเซลเอทานอลให้มากขึ้นเพื่อลดการใช้พลังงานประเภทน้ำมันแถมราคาถูก8 . รถอีโคประหยัดพลังงานช่วยชาติเลือกซื้อรถยนต์ที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดครอบครัวและประโยชน์ในการใช้งานรวมทั้งเลือกรุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเพื่อโลกและตัวคุณเอง9 . ทางเดียวกันไปด้วยกัน"