[MANILA] South-East Asia is again e

[MANILA] South-East Asia is again experiencing haze problems — the worst in the last two decades — spurring calls for tougher policies and a regional solution to stop once and for all slash-and-burn practices harming both human health and the environment.

Satellite feeds have already recorded over 1,000 fire alerts as of 8 September, exceeding the highest peaks of the last two years, reports the Washington-based World Resources Institute (WRI).

The haze was caused by the illegal burning of forest land for oil palm and pulp plantations in Kalimantan and Sumatra, inducing air pollution not only in Indonesia but neighbouring Singapore, Malaysia and Brunei. The haze has shut down airports and schools and caused respiratory health problems. This year’s strong El Niño compounded the problem as the dry weather leads to more fire outbreaks.
“The persistence of the haze... will ultimately be determined by the response of the government and the companies and communities that manage land.”

By Susan Minnemeyer of WRI





The Indonesian National Disaster Management Authority says it will be able to control most of the forest fires by mid-October but experts interviewed by SciDev.Net urge long-term solutions to prevent forest and land burning.

“The persistence of the haze will depend on many things, including weather patterns, but will ultimately be determined by the response of the government and the companies and communities that manage land,” says Susan Minnemeyer, WRI geographic information systems manager.

She stresses that unless there is strong enforcement against those who burn land and hold them accountable, the fires and haze will continue whenever the weather is dry enough.

“The government should prioritise efforts to prevent fires in the first place through sustained engagement with local farmers and local governments to address conflicts over land,” she adds.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

[มะนิลา] เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอีกประสบปัญหาฝนตกพรำตัวร้ายในทศวรรษที่สอง — หนุนเรียกนโยบายรุนแรงและแก้ไขปัญหาภูมิภาคหยุดปฏิบัติทีทับ และเขียนเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ตัวดึงข้อมูลดาวเทียมได้แล้วบันทึกกว่า 1000 ไฟแจ้งเตือน ณ 8 กันยายน เกินยอดสูงสุดของสองปี รายงานวอชิงตันที่ใช้โลกทรัพยากรสถาบัน (WRI) เมฆหมอกที่เกิดจากการไม่ถูกต้องเผาป่าที่ดินปาล์มน้ำมันและสวนเยื่อในกาลิมันตันและสุมาตรา inducing มลพิษในอากาศไม่เพียงแต่ ในอินโดนีเซีย แต่ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และบรูไน เมฆหมอกมีปิดสนามบินและโรงเรียน และเกิดปัญหาสุขภาพระบบทางเดินหายใจ ในปีนี้ซันโตนิโญเอลแรงเพิ่มปัญหาเป็นอากาศแห้งที่นำไปสู่ไฟแพร่กระจายมากขึ้น"การมีอยู่ของเมฆหมอก...สุดจะถูกกำหนด โดยการตอบสนองของรัฐบาลบริษัท และชุมชนที่จัดการที่ดินนั้น"โดยศิริรัตน์ Minnemeyer ของ WRIอินโดนีเซียชาติภัยอำนาจในการจัดการกล่าวว่า มันจะสามารถควบคุมทั้งจากไฟป่า โดยช่วงกลางเดือนตุลาคมแต่ผู้เชี่ยวชาญผู้ SciDev.Net แก้ปัญหาระยะยาวกระตุ้นให้ป่าและดินเผา "การมีอยู่ของเมฆหมอกจะขึ้นอยู่กับสิ่งต่าง ๆ มากมาย รวมถึงรูปแบบอากาศ แต่ในที่สุดจะถูกกำหนด โดยการตอบสนองของรัฐบาลบริษัท และชุมชนที่จัดการที่ดิน กล่าวว่า ซูซาน Minnemeyer ผู้จัดการระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ WRI เธอเน้นที่เว้นแต่จะมีการบังคับใช้ที่แข็งแกร่งกับผู้เขียนที่ดิน และถือรับผิดชอบ ไฟและฟ้าหลัวจะดำเนินต่อเมื่อสภาพอากาศจะแห้งมาก "รัฐบาลควร prioritise พยายามป้องกันไฟแรกผ่าน sustained หมั้นกับเกษตรกรในท้องถิ่นและรัฐบาลท้องถิ่นกับความขัดแย้งที่อยู่เหนือแผ่นดิน เธอเพิ่มขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

[มะนิลา] เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอีกครั้งที่ประสบปัญหาหมอกควัน - ที่เลวร้ายที่สุดในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา - โทรกระตุ้นนโยบายรุนแรงและวิธีการแก้ปัญหาในระดับภูมิภาคที่จะหยุดและทุกครั้งการปฏิบัติเฉือนและการเผาไหม้ทั้งการทำร้ายสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมฟีดดาวเทียมได้รับการบันทึกไว้แล้วกว่า 1,000 การแจ้งเตือนไฟไหม้เมื่อวันที่ 8 กันยายนเกินยอดเขาที่สูงที่สุดของช่วงสองปีที่ผ่านมารายงานทรัพยากรโลกวอชิงตันตามสถาบัน (WRI). หมอกควันที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ผิดกฎหมายของที่ดินป่าปาล์มน้ำมัน และพื้นที่เพาะปลูกอ้อยในกาลิมันตันและสุมาตราการกระตุ้นให้เกิดมลพิษทางอากาศไม่เพียง แต่ในประเทศอินโดนีเซียเพื่อนบ้านสิงคโปร์มาเลเซียและบรูไน หมอกควันที่มีการปิดสนามบินและโรงเรียนและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพระบบทางเดินหายใจ ในปีนี้เอลนีโญที่แข็งแกร่งประกอบกับปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะที่สภาพอากาศแห้งมากขึ้นนำไปสู่การระบาดของไฟ. "คงอยู่ของหมอกควันที่ ... ในที่สุดจะถูกกำหนดโดยการตอบสนองของรัฐบาลและ บริษัท และชุมชนที่จัดการที่ดิน." โดยซูซาน Minnemeyer ของ WRI อินโดนีเซียอำนาจการบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวว่าจะสามารถที่จะควบคุมส่วนใหญ่ของไฟป่าโดยช่วงกลางเดือนตุลาคม แต่ผู้เชี่ยวชาญสัมภาษณ์โดย SciDev.Net ขอเรียกร้องให้แก้ปัญหาระยะยาวเพื่อป้องกันไม่ให้ป่าและการเผาไหม้ที่ดิน. "คงอยู่ของหมอกควันที่จะ ขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่างรวมทั้งรูปแบบสภาพอากาศ แต่ในท้ายที่สุดจะถูกกำหนดโดยการตอบสนองของรัฐบาลและ บริษัท และชุมชนที่จัดการที่ดิน "ซูซาน Minnemeyer, WRI ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ผู้จัดการ. กล่าวว่าเธอเน้นว่าจนกว่าจะมีการบังคับใช้ที่แข็งแกร่งกับผู้ที่ที่เผาที่ดินและถือพวกเขารับผิดชอบไฟและหมอกควันจะยังคงเมื่อใดก็ตามที่สภาพอากาศจะแห้งพอ. "รัฐบาลควรจัดลำดับความสำคัญความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดเพลิงไหม้ในครั้งแรกที่ผ่านการมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืนกับเกษตรกรในท้องถิ่นและรัฐบาลท้องถิ่นที่จะแก้ไขความขัดแย้งเหนือดินแดน" เธอจะเพิ่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

[ 3 ] ใต้เอเชียตะวันออก เป็นอีกครั้งที่ประสบปัญหาจากหมอกควัน ที่เลวร้ายที่สุดในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา - เครื่องเรียกนโยบายรุนแรงและโซลูชั่นในระดับภูมิภาคเพื่อหยุดทันทีและสำหรับทั้งหมดเฉือนและการเผาไหม้การปฏิบัติทำร้ายทั้งสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

ดาวเทียมฟีดได้บันทึกไว้กว่า 1000 ไฟแจ้งเตือนเมื่อ 8 กันยายน , เกินยอดสูงสุดของ 2 ปีสุดท้ายรายงานจากวอชิงตันสถาบันทรัพยากรโลก ( อ้างอิง )

หมอกควันที่เกิดจากเผาป่าที่ผิดกฎหมายของที่ดินและสวนปาล์มน้ำมันผลิตในกาลิมันตันและสุมาตรา กระตุ้นให้เกิดมลพิษทางอากาศไม่เพียง แต่ในอินโดนีเซีย แต่เพื่อนบ้านสิงคโปร์ มาเลเซีย และบรูไน หมอกควันได้ปิดสนามบิน และโรงเรียน และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพระบบทางเดินหายใจ .ปีนี้แรง เอลนิá n ประกอบที่เกิดจากอากาศแห้ง นำไปสู่การเพิ่มไฟ .
" ความคงอยู่ของหมอกควัน . . . . . . . สุดจะถูกกำหนดโดยการตอบสนองของรัฐบาลและ บริษัท และชุมชนที่จัดการที่ดิน "

โดยอ้างอิง





minnemeyer ของซูซานการจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า อินโดนีเซียจะสามารถควบคุมส่วนใหญ่ของไฟป่า โดยกลางเดือนตุลาคม แต่ผู้เชี่ยวชาญการสัมภาษณ์โดย scidev กระตุ้นระยะยาวสุทธิโซลูชั่นป้องกันป่าและเผาแผ่นดิน

" ความคงอยู่ของหมอกควันจะขึ้นอยู่กับหลายสิ่งหลายอย่างรวมทั้งรูปแบบสภาพอากาศแต่สุดจะถูกกำหนดโดยการตอบสนองของรัฐบาลและ บริษัท และชุมชนที่จัดการที่ดิน กล่าวว่า ซูซาน minnemeyer อ้างอิงระบบภูมิศาสตร์สารสนเทศ , ผู้จัดการ

เธอเน้นที่นอกจากจะมีแรงบังคับกับผู้เผาที่ดินและถือพวกเขารับผิดชอบ , ไฟและหมอกควันจะดำเนินการเมื่อใดก็ตามที่อากาศแห้งพอแล้ว

" รัฐบาลควรจัดลำดับความสำคัญในความพยายามเพื่อป้องกันไฟไหม้ในสถานที่แรกที่ผ่านได้รับหมั้นกับเกษตรกรท้องถิ่นและรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อแก้ไขความขัดแย้งเรื่องที่ดิน , " เธอจะเพิ่ม .