Schools and companies should work t

Schools and companies should work together

Mechai calls for private sector to help boost education

To Mechai Viravaidya, a man who has spent over three decades on community development, Thailand's schools are under-utilised when they should be exploited to strengthen communities and society as a whole.

"Schools could be multi-purpose venues for everybody, serving as lifetime learning centres. For the Chinese, they eat all parts of a chicken, from head to feet. Westerners eat only meat, breast and legs and throw away the rest," he said during an interview.



However, communities can't be left to work that out by themselves. Mechai is calling for financial assistance from private companies, pinning hopes on the government's income tax measures to allow a 200-per-cent deduction on education-oriented donations to spur participation.

"The government has been overwhelmed with tasks. The private sector can help fill in the void. I call this the privatisation of education for the poor. To improve education, we need the private sector's involvement," said the chairman of Mechai Viravaidya Foundation.

Mechai is now running an experimental project, through Mechai Pattana School in Buri Ram, to show how a school can help spread knowledge and empower communities at the same time.

He was pleased with Thailand's policy to allocate a larger portion of the annual budget to education, but academic scores are moving in the wrong direction. Upon graduation, many students lack the knowledge to support themselves financially if they are unable to find jobs.

By focusing on memorisation, the education policy is creating "followers of yesterday, not leaders of tomorrow". Aside from students, communities should also benefit as schools should be a hub "for economic and social advancement" under the School-BIRD concept (School-Based Integrated Rural Development).

At Mechai Pattana School, the concept is being experimented on.

Secondary-school students don't have to pay tuition fees but their parents are required to give 400 hours of public service and plant 400 trees in the year. In classrooms, students learn basic subjects as their peers at other schools. But on top of that, professional skills - agricultural lessons, sewing, industrial management, hotel management and many others - are included in the curriculum. With help from technical colleges in the province, students are encouraged to excel in academic scores and win technical college degrees at the same time.

Aside from free tuition fees, students are offered conditional "free lunches". For each lunch, they have to devote one hour on public services - including helping the underprivileged and elementary-school students in their communities.

To promote leadership, they are involved in teacher selection and evaluations, as well as the school's budgeting, while students in Grades 8 and 9 are involved in the selection of Grade-7 students.

At this school, students get involved on a 1-rai laboratory farm, which grows organic vegetables like mushrooms. In its first two years, the farm generated net profits of Bt600,000 and the proceeds are used to support the school's expenses.

"We all know that 70 per cent of students will become self-employed on graduation. Yet, most do not have the knowledge to support themselves," Mechai said.

Knowledge learned at this farm is shared with students' parents, who are entitled to a micro-credit scheme sponsored by donations to the foundation. Return from their farms is to be split in three parts - to parents, students and a fund to finance the students' university education.

When they are in Grade 10, they spend a year at Birds & Bees Resort in Pattaya. At this boarding school, where there's no homework, they work for the resort after class, to learn business lessons. Every Tuesday and Wednesday, they are taken to places in the province. On Saturdays, they attend sessions with guest lecturers. For leisure, they're trained in the ukulele and meditation.

The lessons learned at this school are being shared with others in the area. Both teachers and students are involved in training at other schools. The concept is also implemented by investors in Chaiyaphum, Khao Yai and Buri Ram.

Mechai is hopeful the School-BIRD concept will ensure 100 per cent sustainability for schools and communities and he aims to spread this concept to all 7,000 tambons in Thailand. In preparation for the Asean Economic Community (AEC), he plans to welcome two Thai-literate students each from neighbouring countries like Myanmar, Laos, Cambodia and Vietnam.

Yet, in the initial stage, private companies' donations are vital. At present, Birds & Bees Resort is key in financing operations. Located on a 60-rai plot from his family, the resort and Cabbages & Condoms Restaurant on Hu-Kwang Bay give 50 per cent of after-expense income to the school. That help is necessary as expenses average at Bt120,000 for each of the 120 students, while teacher-training at other schools requires funding. The good news is a few companies, including Siam Winery Co, have recognised the schools' needs.

He looks forward to having schools look for companies where students can receive job training and where they can be potential employers. Scholarships for further education would then follow.

To Mechai, schools should be modelled on convenience stores like 7-Eleven, where all products are available. As such, they could prosper well beyond Starbucks, which mainly sells coffee.

"All we need is holistic education," he concluded.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรงเรียนและบริษัทควรทำงานร่วมกันบริเรียกสำหรับภาคเอกชนจะช่วยให้การศึกษาเพิ่มให้ไวทยะ คนที่ได้ใช้เวลากว่า 3 ทศวรรษในการพัฒนาชุมชน โรงเรียนของประเทศไทยอยู่ภายใต้ใช้เมื่อพวกเขาควรนำไปเพื่อเสริมสร้างชุมชนและสังคม "โรงเรียนอาจเป็นสถานที่เอนกประสงค์สำหรับทุกคน ให้บริการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ตลอดชีวิต จีน พวกเขากินทุกส่วนของไก่ ตั้งแต่หัวถึงเท้า ชาวตะวันตกกินเฉพาะเนื้อ เต้านม และขา และทิ้งส่วนเหลือ เขากล่าวว่า ในระหว่างการสัมภาษณ์อย่างไรก็ตาม ไม่ทิ้งชุมชนการทำงานที่ออก โดยตัวเอง บริโทรขอความช่วยเหลือทางการเงินจากบริษัทเอกชน ตรึงหวังกับมาตรการภาษีของรัฐบาลให้หัก 200 ต่อร้อยละบนเน้นศึกษาบริจาคให้ร่วมแรงกัน"รัฐบาลมีการจมกับงาน ภาคเอกชนสามารถช่วยกรอกโมฆะ ฉันโทรหานี้ privatisation การศึกษาสำหรับคนยากจน เพื่อปรับปรุงการศึกษา เราจำเป็นต้องมีส่วนร่วมของภาคเอกชน กล่าวว่า ประธานมูลนิธิ Viravaidya บริบริคือตอนนี้ทำโครงการทดลอง ผ่านโรงเรียนในบุรีรัมย์ เพื่อแสดงว่าโรงเรียนสามารถช่วยเผยแพร่ความรู้ และอำนาจชุมชนในเวลาเดียวกัน เขาก็พอใจกับนโยบายของประเทศไทยจัดสรรส่วนใหญ่ของงบประมาณประจำปีการศึกษา ได้คะแนนวิชาการกำลังจะย้ายในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง เมื่อจบการศึกษา นักเรียนจำนวนมากขาดความรู้เพื่อสนับสนุนตัวเองทางการเงินถ้าไม่สามารถหางาน โดยเน้นไปที่ memorisation นโยบายการศึกษาคือการสร้าง "ลูกศิษย์ของไม่นำของวันพรุ่งนี้ เมื่อวานนี้" นอกจากนักศึกษา ชุมชนควรยังประโยชน์เป็นโรงเรียนควรเป็นศูนย์กลาง "สำหรับการก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และสังคม" ภายใต้แนวคิดโรงเรียนนก (โรงเรียนรวมพัฒนาชนบท)ที่โรงเรียน แนวความคิดจะถูกเบื้องบน นักเรียนมัธยมศึกษาไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน แต่พ่อแม่ต้องให้ 400 ชั่วโมงบริการสาธารณะและปลูกต้นไม้ 400 ในปี ในห้องเรียน นักเรียนเรียนรู้เรื่องพื้นฐานเป็นเพื่อนของพวกเขาที่โรงเรียนอื่น แต่ด้านบนของที่ ทักษะอาชีพ -เรียนเกษตร จักรเย็บผ้า การจัดการอุตสาหกรรม บริหารโรงแรม และอื่น ๆ อีกมากมาย - รวมอยู่ในหลักสูตร นักเรียนจะไม่ให้ excel ในวิชาการคะแนน และชนะเทคนิคเพศในเวลาเดียวกัน ด้วยความช่วยเหลือจากวิทยาลัยเทคนิคในจังหวัด นอกเหนือจากค่าเล่าเรียนฟรี เรียนจะเสนอเงื่อนไข "ฟรีอาหารกลางวัน" ในแต่ละมื้อกลางวัน พวกเขาจะต้องอุทิศหนึ่งชั่วโมงบริการสาธารณะ - รวมถึงการช่วยเหลือนักเรียนที่ด้อยโอกาส และ โรงเรียนประถมศึกษาในชุมชนของตน เพื่อส่งเสริมความเป็นผู้นำ พวกเขาจะเกี่ยวข้องกับการเลือกครู และประเมิน ตลอดจนงบ ประมาณของโรงเรียน ในขณะที่นักเรียนเกรด 8 และ 9 มีส่วนร่วมในการเลือกของนักเรียนเกรด 7 ที่โรงเรียนนี้ นักศึกษาได้เกี่ยวข้องใน 1 ไร่ห้องปฏิบัติการฟาร์ม ซึ่งเติบโตอินทรีย์ผักเห็ด ในปีสองแรก ฟาร์มสร้างกำไรสุทธิของ Bt600, 000 และจำนวนที่ใช้ในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายของโรงเรียน "เรารู้ว่า ร้อยละ 70 ของนักเรียนจะเป็นเจ้าของธุรกิจในการศึกษา ยัง ส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ช่วยเหลือตัวเอง บริกล่าวว่า ความรู้ที่ได้เรียนรู้ที่ฟาร์มแห่งนี้ร่วมกับผู้ปกครองนักเรียน ที่ได้รับการสนับสนุน โดยบริจาคให้มูลนิธิแบบไมโครเครดิต จากฟาร์มของพวกเขาจะถูกแบ่งในส่วนที่สาม - ผู้ปกครอง นักเรียน และกองทุนการเงินที่นักศึกษามหาวิทยาลัยเมื่ออยู่ในเกรด 10 พวกเขาใช้จ่ายปีที่เบิร์ดแอนด์บีรีสอร์ทในพัทยา ที่โรงเรียนนี้ประจำ ไม่ มีการบ้านไม่ พวกเขาทำงานในรีสอร์ทหลังเลิกเรียน การเรียนบทเรียนทางธุรกิจ ทุกวันอังคารและวันพุธ พวกเขาจะถูกนำไปยังสถานที่ในจังหวัด เสาร์ พวกเขาเข้าร่วมเซสชันกับวิทยากร ผ่อน พวกเขากำลังฝึกเต้นและฝึกสมาธิ บทเรียนที่เรียนโรงเรียนนี้จะถูกใช้ร่วมกับผู้อื่นในพื้นที่ ครูและนักเรียนมีส่วนร่วมในการฝึกอบรมที่โรงเรียนอื่น ยังมีนำแนวความคิด โดยนักลงทุนในจังหวัดชัยภูมิ บุรีรัมย์และเขาใหญ่บริจะมีความหวังแนวคิดโรงเรียนนกว่าร้อยละ 100 ความยั่งยืนในโรงเรียน และชุมชนและเขามีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่แนวคิดนี้ไปทั้งหมดเป็น 7000 แห่งในประเทศไทย ในการเตรียมการสำหรับอาเซียนเศรษฐกิจชุมชน (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน), เขาแผนต้อนรับสองไทย-literate นักศึกษาแต่ละประเทศเช่นพม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ยัง ในระยะเริ่มต้น บริจาคของบริษัทเอกชนที่มีความสำคัญ ในปัจจุบัน เบิร์ดแอนด์บีรีสอร์ทเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินงานการเงิน ตั้งอยู่บนแปลง 60 ไร่จากครอบครัว รีสอร์ทกาด และเวลในหูกวางให้ร้อยละ 50 ของรายได้ค่าใช้จ่ายหลังโรงเรียน ที่ช่วยให้เป็นสิ่งจำเป็นเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ Bt120, 000 สำหรับแต่ละของนักเรียน 120 ในขณะที่การฝึกอบรมครูในโรงเรียนอื่น ๆ ต้องจัดหาเงินทุน ข่าวดีคือ บริษัทกี่ รวมทั้ง บริษัทสยามไวน์ มียังความต้องการของโรงเรียน เขามองไปข้างหน้ามีโรงเรียนมองหาบริษัท ที่นักศึกษาได้ฝึกงานและที่จะเป็นนายจ้างที่มีศักยภาพ ทุนสำหรับศึกษาต่อแล้วจะทำตาม โรงเรียนควร modelled ในร้านสะดวกซื้อเช่น 7-Eleven ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมีการบริ เช่น พวกเขาสามารถเจริญดีเกินกว่า Starbucks ซึ่งส่วนใหญ่ขายกาแฟ"เรามีการศึกษาแบบองค์รวม เขากล่าวสรุป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรงเรียนและ บริษัท ควรจะทำงานร่วมกันมีชัยเรียกร้องให้ภาคเอกชนที่จะช่วยให้การศึกษาส่งเสริมการมีชัยวีระไวทยะ, คนที่ได้ใช้เวลากว่าสามทศวรรษที่ผ่านมาในการพัฒนาชุมชนของโรงเรียนของประเทศไทยภายใต้การใช้เมื่อพวกเขาควรจะใช้ประโยชน์ในการเสริมสร้างชุมชนและสังคมโดยรวม . "โรงเรียนอาจจะเป็นสถานที่จัดงานอเนกประสงค์สำหรับทุกคนที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต. สำหรับจีนที่พวกเขากินทุกส่วนของไก่จากหัวถึงเท้า. ชาวตะวันตกกินเนื้อสัตว์เพียงเต้านมและขาและทิ้งส่วนที่เหลือ" เขากล่าวว่าในระหว่างการให้สัมภาษณ์. แต่ชุมชนไม่สามารถออกไปทำงานที่ออกมาด้วยตัวเอง ชัยเรียกร้องเพื่อขอความช่วยเหลือทางการเงินจาก บริษัท เอกชนปักหมุดหวังเกี่ยวกับมาตรการภาษีรายได้ที่จะอนุญาตให้หัก 200 เปอร์เซ็นต์การบริจาคการศึกษาที่มุ่งเน้นที่จะกระตุ้นการมีส่วนร่วม. "รัฐบาลได้รับจมกับงาน. ภาคเอกชนสามารถช่วย กรอกเป็นโมฆะ. ผมเรียกนี้การแปรรูปของการศึกษาสำหรับคนยากจน. ในการปรับปรุงการศึกษาเราต้องมีส่วนร่วมของภาคเอกชน "กล่าวว่าประธานมีชัยวีระไวทยะมูลนิธิ. ชัยตอนนี้ทำงานโครงการทดลองผ่านโรงเรียนมีชัยพัฒนาในบุรี รามแสดงให้เห็นว่าโรงเรียนสามารถช่วยให้การแพร่กระจายความรู้และช่วยให้ชุมชนในเวลาเดียวกัน. เขาก็พอใจกับนโยบายของไทยในการจัดสรรส่วนขนาดใหญ่ของงบประมาณประจำปีเพื่อการศึกษาทางวิชาการ แต่คะแนนเป็นไปในทิศทางที่ผิด เมื่อสำเร็จการศึกษานักเรียนจำนวนมากขาดความรู้ที่จะสนับสนุนตัวเองทางการเงินหากพวกเขาไม่สามารถที่จะหางานทำ. โดยมุ่งเน้น memorisation นโยบายการศึกษาคือการสร้าง "สาวกของเมื่อวานนี้ไม่ได้เป็นผู้นำในวันพรุ่งนี้" นอกเหนือจากนักเรียนชุมชนควรได้รับประโยชน์เช่นโรงเรียนควรจะเป็นศูนย์กลาง "เพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม" ภายใต้แนวคิดของโรงเรียน-BIRD (โรงเรียนเชิงบูรณาการพัฒนาชนบท). ที่โรงเรียนมีชัยพัฒนาแนวคิดจะถูกทดลอง. Secondary- นักเรียนจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน แต่พ่อแม่ของพวกเขาจะต้องให้ 400 ชั่วโมงของการบริการสาธารณะและโรงงาน 400 ต้นในปี ในห้องเรียนให้นักเรียนเรียนรู้วิชาพื้นฐานเป็นเพื่อนร่วมงานของพวกเขาที่โรงเรียนอื่น ๆ แต่ด้านบนของที่ทักษะมืออาชีพ - บทเรียนการเกษตรเย็บผ้า, การจัดการอุตสาหกรรมการจัดการโรงแรมและอื่น ๆ อีกมากมาย - จะรวมอยู่ในหลักสูตร ด้วยความช่วยเหลือจากวิทยาลัยเทคนิคในจังหวัดนักเรียนมีกำลังใจที่จะเก่งในด้านวิชาการและคะแนนชนะองศาวิทยาลัยเทคนิคในเวลาเดียวกัน. นอกเหนือจากค่าเล่าเรียนฟรีนักเรียนมีการเสนอเงื่อนไข "อาหารกลางวันฟรี" สำหรับแต่ละกลางวันพวกเขาจะต้องอุทิศเวลาหนึ่งชั่วโมงในการให้บริการสาธารณะ -. รวมทั้งช่วยให้นักเรียนด้อยโอกาสและประถมศึกษาโรงเรียนในชุมชนของตนเพื่อส่งเสริมความเป็นผู้นำที่พวกเขามีส่วนร่วมในการเลือกครูและการประเมินผลเช่นเดียวกับการจัดทำงบประมาณของโรงเรียนในขณะที่นักเรียนใน เกรด 8 และ 9 มีส่วนร่วมในการเลือกของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี-7. ที่โรงเรียนนี้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในฟาร์มทางห้องปฏิบัติการ 1 ไร่ซึ่งเติบโตผักปลอดสารพิษเช่นเห็ด ในสองปีแรกของฟาร์มสร้างกำไรสุทธิ Bt600,000 และเงินที่จะใช้ในการสนับสนุนค่าใช้จ่ายของโรงเรียน. "เราทุกคนรู้ว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนจะกลายเป็นของตนเองในการสำเร็จการศึกษา. แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ ความรู้เพื่อสนับสนุนตัวเอง "มีชัยกล่าวว่า. ความรู้เรียนรู้ที่ฟาร์มแห่งนี้จะใช้ร่วมกันกับผู้ปกครองนักเรียนที่มีสิทธิโครงการสินเชื่อขนาดเล็กได้รับการสนับสนุนจากการบริจาคให้กับมูลนิธิ กลับมาจากฟาร์มของพวกเขาจะได้รับการแบ่งออกเป็นสามส่วน -. ให้กับผู้ปกครองนักเรียนและกองทุนเพื่อเป็นเงินทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัยของนักเรียนเมื่อพวกเขาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 10 พวกเขาใช้จ่ายปีที่นกและผึ้งรีสอร์ทพัทยาใน ที่โรงเรียนกินนอนนี้ที่มีบ้านไม่มีพวกเขาทำงานให้กับรีสอร์ทหลังเลิกเรียนที่จะเรียนรู้บทเรียนทางธุรกิจ ทุกวันอังคารและวันพุธที่พวกเขาจะถูกนำไปยังสถานที่ในจังหวัด ในวันเสาร์ที่พวกเขาเข้าร่วมประชุมกับวิทยากร สำหรับการพักผ่อนที่พวกเขากำลังได้รับการฝึกฝนในอูคูเลเล่และการทำสมาธิ. บทเรียนที่โรงเรียนนี้จะถูกใช้ร่วมกันกับคนอื่น ๆ ในพื้นที่ ทั้งครูและนักเรียนมีส่วนร่วมในการฝึกอบรมที่โรงเรียนอื่น ๆ แนวคิดที่จะดำเนินการโดยนักลงทุนในชัยภูมิ, เขาใหญ่และบุรีรัมย์. มีชัยเป็นความหวังแนวคิดของโรงเรียน-BIRD จะช่วยให้การพัฒนาอย่างยั่งยืนร้อยละ 100 สำหรับโรงเรียนและชุมชนและเขามีจุดมุ่งหมายที่จะแพร่กระจายแนวคิดนี้ทั้งหมด 7,000 ตำบลในประเทศไทย ในการเตรียมตัวสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เขาวางแผนที่จะต้อนรับนักเรียนสองคนไทยรู้แต่ละคนมาจากประเทศเพื่อนบ้านเช่นพม่าลาวกัมพูชาและเวียดนาม. แต่ในระยะแรก บริษัท เอกชนบริจาค 'มีความสำคัญ ปัจจุบันนกและผึ้งรีสอร์ทเป็นกุญแจสำคัญในการจัดหาเงินทุนในการดำเนินงาน ตั้งอยู่บนพล็อต 60 ไร่จากครอบครัวของเขา, รีสอร์ทและกะหล่ำปลีและถุงยางอนามัยร้านอาหารอู่กวางเบย์ให้ร้อยละ 50 ของรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายไปโรงเรียน ความช่วยเหลือที่จำเป็นเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ Bt120,000 สำหรับแต่ละ 120 คนในขณะที่การฝึกอบรมครูที่โรงเรียนอื่น ๆ ต้องใช้เงินทุน ข่าวดีก็คือไม่กี่ บริษัท รวมทั้งสยามไวเนอรี่ จำกัด ได้รับการยอมรับความต้องการของโรงเรียน. เขามองไปข้างหน้าจะมีโรงเรียนมองหา บริษัท ที่นักเรียนจะได้รับการฝึกอบรมงานและสถานที่ที่พวกเขาสามารถเป็นนายจ้างที่มีศักยภาพ ทุนการศึกษาสำหรับการศึกษาต่อจากนั้นก็จะทำตาม. เพื่อชัยโรงเรียนควรจะมีรูปแบบร้านสะดวกซื้อเช่น 7-Eleven ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มีอยู่ ดังนั้นพวกเขาจะประสบความสำเร็จดีเกิน Starbucks ซึ่งส่วนใหญ่ขายกาแฟ. "ทั้งหมดที่เราต้องการคือการศึกษาแบบองค์รวม" เขาสรุป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรงเรียนและบริษัทควรทำงานด้วยกัน

มีชัยเรียกเอกชนเพื่อช่วยในการเพิ่มระดับการศึกษา

ที่จะมีชัย วีระไวทยะ คนที่ใช้เวลากว่าสามทศวรรษในการพัฒนาชุมชน , โรงเรียนของประเทศไทยอยู่ภายใต้ใช้เมื่อพวกเขาควรจะใช้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนและสังคมโดยรวม

" โรงเรียนเป็นสถานที่อเนกประสงค์ สำหรับทุกคน ที่ให้บริการเป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต .สำหรับจีน พวกเขากินทุกส่วนของไก่ตั้งแต่หัวจรดเท้า ฝรั่งกินแต่เนื้อสัตว์ นม และ ขา และทิ้งส่วนที่เหลือ " เขากล่าวในการสัมภาษณ์ .



อย่างไรก็ตาม ชุมชนไม่สามารถไปทำงานที่ออกมาเอง มีชัยเป็นโทรสำหรับความช่วยเหลือทางการเงินจากบริษัทเอกชนฝากความหวังกับรัฐบาลเพื่อให้มีมาตรการภาษีรายได้ 200 บาท หักเปอร์เซ็นต์ในการศึกษาที่มุ่งเน้นการกระตุ้นการมีส่วนร่วม

" รัฐบาลได้รับจมกับงาน ภาคเอกชนสามารถช่วยกรอกในช่องว่าง ที่ผมเรียกนี้มีการแปรรูปการศึกษา เพื่อคนจน เพื่อปรับปรุงการศึกษา เราต้องการการมีส่วนร่วมภาคเอกชนของ" กล่าวว่า ประธานมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ .

มีชัยคือตอนนี้ทำงานเป็น 2 โครงการ ผ่านโรงเรียนมีชัยพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าโรงเรียนสามารถช่วยกระจายความรู้ให้ชุมชน และในเวลาเดียวกัน

เขาพอใจกับนโยบายของประเทศไทย เพื่อจัดสรรเป็นส่วนใหญ่ของงบประมาณประจำปี เพื่อการศึกษา แต่คะแนนวิชาการจะย้ายในทิศทางที่ไม่ถูกต้องเมื่อจบการศึกษา นักศึกษาหลายคนขาดความรู้ที่จะสนับสนุนตัวเองทางการเงินหากพวกเขาไม่สามารถที่จะหางาน

โดยเน้น memorisation นโยบายการศึกษา คือการสร้าง " ผู้ติดตามของเมื่อวาน พรุ่งนี้ " ไม่ใช่ผู้นำของ นอกจากนักเรียนชุมชนควรจะได้รับประโยชน์ เช่น โรงเรียนควรเป็น ฮับ " ทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าทางสังคม ภายใต้แนวคิด " โรงเรียนนก ( โดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาชนบทแบบผสมผสาน )

ที่โรงเรียนมีชัยพัฒนา แนวคิดคือการทำการทดลองบน

โรงเรียนมัธยม นักเรียนไม่ต้องจ่ายค่าเล่าเรียน แต่พ่อแม่จะต้องให้ 400 ชั่วโมงของการบริการสาธารณะและปลูก 400 ต้นในปีใน ห้องเรียน นักเรียนจะได้เรียนวิชาขั้นพื้นฐาน เช่น เพื่อนที่โรงเรียนอื่น แต่ที่สำคัญ ทักษะอาชีพการเกษตรเรียนเย็บผ้า , การจัดการอุตสาหกรรม , การจัดการโรงแรมและคนอื่น ๆ - จะรวมอยู่ในหลักสูตร ด้วยความช่วยเหลือจาก วิทยาลัยเทคนิคในจังหวัด นักเรียนจะได้รับการส่งเสริมให้เก่งและชนะคะแนนวิชาการองศาวิทยาลัยเทคนิคในเวลาเดียวกัน

นอกเหนือจากค่าเล่าเรียนฟรี นักเรียน นักศึกษา มีการเสนอเงื่อนไขฟรี " อาหารกลางวัน " สำหรับแต่ละกลางวัน พวกเขาได้อุทิศชั่วโมงในการบริการสาธารณะ รวมทั้งช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส และนักเรียนระดับประถม โรงเรียนในชุมชนของตน

เพื่อส่งเสริมความเป็นผู้นำ พวกเขามีส่วนร่วมในการสอนและการประเมินผล ตลอดจนงบประมาณของโรงเรียนในขณะที่นักเรียนในเกรด 8 และ 9 จะเกี่ยวข้องกับการเลือกของนักเรียน grade-7 .

ที่โรงเรียนนี้ นักเรียนได้มีส่วนร่วมในปฏิบัติการ 44 ไร่ ซึ่งการปลูกผักอินทรีย์ เช่น เห็ด ในสองปีแรกของฟาร์มที่สร้างผลกำไรสุทธิของ bt600000 และเงินที่ใช้สนับสนุนค่าใช้จ่ายของโรงเรียน

" เราทุกคนรู้ว่าร้อยละ 70 ของนักเรียนจะเป็นอิสระในการศึกษา แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีความรู้เพื่อสนับสนุนตัวเอง " มีชัย กล่าว

ความรู้ที่ฟาร์มนี้ร่วมกันกับผู้ปกครอง ใครมีสิทธิ์โครงการไมโครเครดิตสนับสนุนโดยการบริจาคให้มูลนิธิ กลับจากฟาร์มของพวกเขาจะแบ่งเป็นสามส่วน - ผู้ปกครองนักเรียน และกองทุนการศึกษาการเงินมหาวิทยาลัย นักศึกษา

เมื่อพวกเขาอยู่ในเกรด 10 ที่พวกเขาใช้เวลาหนึ่งปีในนก&ผึ้ง รีสอร์ทในพัทยา ที่โรงเรียน ที่ไม่มีการบ้าน พวกเขาทำงานในรีสอร์ท หลังเลิกเรียน เพื่อเรียนรู้บทเรียนทางธุรกิจ ทุกวันอังคารและวันพุธ พวกเขาจะถ่ายสถานที่ในจังหวัด ในวันเสาร์ที่พวกเขาเข้าร่วมการประชุมกับอาจารย์แขกเพื่อพักผ่อน , พวกเขากำลังฝึกในอูคูเลเล่ และ สมาธิ

บทเรียนที่โรงเรียนนี้มีการใช้ร่วมกันกับคนอื่น ๆในพื้นที่ ทั้งครูและนักเรียนมีส่วนร่วมในการฝึกอบรมที่โรงเรียนอื่น เป็นแนวคิดที่ยังใช้ทุนใน จ. ชัยภูมิ ที่เขาใหญ่

และบุรีรัมย์มีชัยมีความหวังโรงเรียนนกแนวคิดจะให้ 100 ต่อความยั่งยืนจากโรงเรียนและชุมชน และเขามีจุดมุ่งหมายที่จะเผยแพร่แนวคิดนี้ให้ 7 , 000 ตำบลในประเทศไทย ในการเตรียมการสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC ) , เขาวางแผนที่จะต้อนรับนักเรียนสองคนที่รู้หนังสือไทยแต่ละจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม

ยัง ในเริ่มแรกบริษัทเอกชนบริจาคเป็นสําคัญ ปัจจุบันนก&ผึ้งรีสอร์ทเป็นกุญแจสำคัญในการจัดหาเงินทุนการดำเนินงาน ตั้งอยู่บน 60 ไร่ จากครอบครัว รีสอร์ท และร้านอาหาร&กะหล่ำถุงยางอนามัยหูกวางอ่าวให้ร้อยละ 50 ของรายได้หลังค่าใช้จ่ายกับโรงเรียน ช่วยที่จำเป็นเป็นค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ bt120000 ทั้ง 120 คนในขณะที่การฝึกอบรมครูในโรงเรียนอื่นๆ ต้องระดมทุน ข่าวดีคือ เพียงไม่กี่ บริษัท สยามไวเนอรี่ จำกัด รวมทั้งมีการยอมรับความต้องการของโรงเรียน

เขามองไปข้างหน้าเพื่อมีโรงเรียนมองหา บริษัท ที่นักศึกษาสามารถรับการฝึกอบรมงานและที่พวกเขาสามารถให้นายจ้างที่มีศักยภาพ ทุนการศึกษาสำหรับการศึกษาต่อไปจะตามมา

ต้องมีชัยโรงเรียนควรจำลองในร้านสะดวกซื้ออย่างเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่มีอยู่ เช่น , พวกเขาสามารถเจริญได้ดีเกินสตาร์บัคส์ ซึ่งส่วนใหญ่ขายกาแฟ

" ทั้งหมดที่เราต้องการคือการศึกษาแบบองค์รวม " เขาสรุป