Starbucks primarily operates and co

Starbucks primarily operates and competes in the retail coffee and snacks store industry. This industry
experienced a major slowdown in 2009 due to the economic crisis and changing consumer tastes, with the
industry revenue in the US declining 6.6% to $25.9 billion. Before this, the industry had a decade of growth
consistent. Due to the economic slump, consumers spent less on luxuries like eating out, choosing to purchase
low-price items instead of high-priced coffee drinks due to shrinking budgets.3
The industry grew at a low
annualized average growth rate of 0.9% from 2008 till 2013 with current industry revenues at $29 billion in the
US. The industry is now forecasted to grow at an annualized rate of 3.9% over the next five years, with a potential
to reach $35.1 billion revenues in the US. This growth would be mainly driven by an improving economy,
increase in consumer confidence and expanding menu offerings within the industry. Starbucks dominates the
industry with a market share of 36.7%, Dunkin Brands with 24.6% and other competitors like McDonalds,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชอบทำงาน และแข่งขันในกาแฟขายปลีกเป็นหลัก และอาหารว่างร้านค้าอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมนี้
ความล่าช้าที่สำคัญในปี 2552 เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจและรสนิยมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง มีประสบการณ์การ
รายได้อุตสาหกรรมในสหรัฐอเมริกาลดลง 6.6% การ 25.9 พันล้านเหรียญ ก่อนนี้ อุตสาหกรรมมีทศวรรษโต
สอดคล้องกัน เนื่องจากการตกต่ำทางเศรษฐกิจ ผู้บริโภคใช้จ่ายหรูหราในน้อยชอบกิน ต้องซื้อ
สินค้าราคาต่ำแทนราคาสูงดื่มกาแฟจาก budgets.3
อุตสาหกรรมเติบโตที่ต่ำเป็นการหดตัว
อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของ 0.9% จากปี 2008 จนถึงปี 2013 ด้วยปัจจุบันอุตสาหกรรมรายได้ที่ 29 พันล้านเหรียญในการ
สหรัฐฯ ขณะนี้มีการคาดการณ์อุตสาหกรรมเติบโตในอัตราปี 3.9% ห้าปีถัดไป มีศักยภาพเป็น
ถึง $35.1 ล้านรายได้ในสหรัฐอเมริกา เจริญเติบโตนี้จะเป็นส่วนใหญ่ขับเคลื่อน ด้วยเศรษฐกิจปรับปรุง,
เพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภคและขยายเสนอเมนูภายในอุตสาหกรรม มกราคมกุมอำนาจ
อุตสาหกรรมส่วนตลาด 36.7% แบรนด์ดังกิ้น 24.6% และคู่แข่งอื่น ๆ เช่น McDonalds

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สตาร์บัส่วนใหญ่ทำงานและแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกกาแฟและอาหารว่างอุตสาหกรรมร้านค้า อุตสาหกรรมนี้
มีประสบการณ์การชะลอตัวที่สำคัญในปี 2009 อันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงรสนิยมของผู้บริโภคที่มี
รายได้จากอุตสาหกรรมในสหรัฐลดลง 6.6% ถึง $ 25900000000 ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมมีทศวรรษของการเจริญเติบโต
ที่สอดคล้องกัน เนื่องจากการตกต่ำทางเศรษฐกิจที่ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลงในการฟุ่มเฟือยเช่นการรับประทานอาหารนอกเลือกที่จะซื้อ
สินค้าที่ราคาต่ำแทนเครื่องดื่มกาแฟที่มีราคาสูงเนื่องจากการหดตัว budgets.3
อุตสาหกรรมขยายตัวในระดับต่ำ
ปีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 0.9% จากปี 2008 จนถึงปี 2013 ที่มีรายได้จากอุตสาหกรรมในปัจจุบันที่ $ 29000000000 ใน
สหรัฐอเมริกา อุตสาหกรรมในขณะนี้คาดว่าจะเติบโตในอัตรา 3.9% ในอีกห้าปีที่ผ่านมาที่มีศักยภาพ
ในการเข้าถึง 35100000000 $ รายได้ในสหรัฐอเมริกา การเจริญเติบโตนี้จะถูกผลักดันส่วนใหญ่โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่
เพิ่มขึ้นในความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการขยายการให้บริการเมนูในอุตสาหกรรม สตาร์บัปกครอง
อุตสาหกรรมที่มีส่วนแบ่งการตลาดของ 36.7% แบรนด์ดังกิ้น 24.6% และคู่แข่งอื่น ๆ เช่น McDonalds,

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Starbucks เป็นหลัก และการแข่งขันในอุตสาหกรรมค้าปลีก และกาแฟ ร้านขนม อุตสาหกรรมนี้
มีประสบการณ์การชะลอตัวสาขาในปี 2552 เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงรสนิยมของผู้บริโภค กับ
อุตสาหกรรม รายได้ในเราลดลง 6.6% $ 25.9 ล้านบาท ก่อนนี้ อุตสาหกรรมมีทศวรรษของการเจริญเติบโต
ที่สอดคล้องกัน เนื่องจากการตกต่ำทางเศรษฐกิจผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลงในสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น การรับประทานอาหาร การเลือกซื้อสินค้าราคาต่ำ
แทนที่จะดื่มกาแฟราคาสูงเนื่องจากการงบประมาณหดตัว 3
อุตสาหกรรมขยายตัวในระดับ
ปีอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 0.9% จากปี 2008 จนถึง 2013 กับรายได้อุตสาหกรรมในปัจจุบันที่ $ 29 พันล้าน
เรา อุตสาหกรรมคือตอนนี้คาดว่าจะเติบโตในอัตรา 4% ต่อปีในอีกห้าปีกับศักยภาพที่จะเข้าถึง $ 7
พันล้านรายได้ในสหรัฐอเมริกา การเจริญเติบโตนี้จะได้รับส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยการปรับปรุงเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และขยายเพิ่มใน
เสนอเมนูภายในอุตสาหกรรม สตาร์บัคส์ dominates
อุตสาหกรรมที่มีส่วนแบ่งตลาด 36.7 % แบรนด์ดังกิ้นกับ 24.6 % และคู่แข่งอื่น ๆเช่น McDonalds ,