Speech and Language TrainingThe neu

Speech and Language Training

The neurologic music therapist may implement several techniques to remediate speech and
language deficits or to maintain language in patients with debilitating conditions such as
dementia or Parkinson's disease. The therapeutic mechanisms involved in the treatment include
differential hemispheric processing, patterned information processing, perceptual sensory
priming, and rhythmic entrainment (Thaut, 1999b ). The standardized techniques include Melodic
Intonation Therapy (MIT), Musical Speech Stimulation (MUSTIM), Rhythmic Speech Cueing
(RSC), Vocal Intonation Therapy (VIT), Therapeutic Singing (TS), Oral Motor and Respiratory
Exercises (OMREX), Developmental Speech and Language Training Through Music (DSLM),
and Symbolic Communication Training Through Music (SYCOM) (Thaut, 2001

Musical Speech Stimulation (MUSTIM)- The purpose of this technique is to produce
nonpropositional speech in persons who have aphasia. The technique incorporates initiation or
completion of overlearned songs, chants, rhymes, and musical phrases to elicit spoken words or
functional phrases (Basso, Capatini, & Vignola, 1979). For example, when presented with
overlearned song lyrics, an individual is likely to fill in the blank, such as "You are my "
(Thaut, 1999b ).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คำพูดและภาษาเพลง neurologic ผู้บำบัดอาจใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการสำรองเสียง และภาษาขาดดุลหรือ เพื่อรักษาในผู้ป่วยที่มี debilitating เงื่อนไขเช่นภาษาสมองเสื่อมหรือโรคพาร์กินสัน กลไกการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องในการรักษารวมแตกต่างกัน hemispheric ประมวลผล ลวดลายการประมวลผลข้อมูล perceptual ทางประสาทสัมผัสปั๊ม และจังหวะ entrainment (Thaut, 1999b) เทคนิคมาตรฐานรวม Melodicเน้นการบำบัด (MIT), เสียงดนตรีกระตุ้น (MUSTIM), Cueing เสียงจังหวะ(RSC), รักษาด้วยโทนเสียง Vocal (วิตามิน), เพลงบำบัด (TS) ปากมอเตอร์ และระบบทางเดินหายใจออกกำลังกาย (OMREX), เสียงที่พัฒนาและฝึกอบรมภาษาผ่านเพลง (DSLM),และการฝึกอบรมสื่อสารสัญลักษณ์ผ่านเพลง (SYCOM) (Thaut, 2001เสียงดนตรีกระตุ้น (MUSTIM) -วัตถุประสงค์ของเทคนิคนี้คือการ ผลิตเสียง nonpropositional ในบุคคลที่ aphasia เริ่มต้นประกอบด้วยเทคนิค หรือความสมบูรณ์ของเพลง overlearned, chants ตาไรมส์ และดนตรีวลีเพื่อบอกคำพูด หรือวลีหน้าที่ (Basso, Capatini, & Vignola, 1979) ตัวอย่างเช่น เมื่อนำเสนอด้วยoverlearned เพลง บุคคลมีแนวโน้มที่จะเติมในช่องว่าง เช่น "คุณเป็นของฉัน"(Thaut, 1999b)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การพูดและภาษาฝึก

therapist เพลง ประสาทวิทยาอาจใช้หลายเทคนิคเพื่อรักษาและการพูดภาษาหรือภาษา
การรักษาในผู้ป่วยที่มีเงื่อนไข debilitating เช่น
โรคสมองเสื่อมและพาร์กินสัน ใช้กลไกที่เกี่ยวข้องในการรักษารวมถึง
การประมวลผลขนาดต่างกัน ลวดลาย การประมวลผลข้อมูล การรับรู้ทางประสาทสัมผัส
รองพื้น และจังหวะที่รถไฟ ( thaut 1999b , ) เทคนิคที่ได้มาตรฐาน รวมถึงน้ำเสียงไพเราะบำบัด
( MIT ) กระตุ้นการพูด ดนตรี ( mustim ) จังหวะการพูดแบบ
รังสีอาทิตย์ ( RSC ) นักร้องทำนองเสียงบำบัด ( VIT ) , ผู้ร้องเพลง ( TS ) , แบบฝึกหัด Motor ช่องปากและระบบทางเดินหายใจ
( omrex ) , การพูดการพัฒนาและฝึกอบรมภาษาผ่านเพลง (
dslm )และสัญลักษณ์การสื่อสารการฝึกอบรมผ่านเพลง ( sycom ) ( thaut 2001

ดนตรีการพูดกระตุ้น ( mustim ) - วัตถุประสงค์ของเทคนิคนี้คือการผลิต
nonpropositional การพูดในบุคคลที่มี ความจำเสื่อม เทคนิคประกอบด้วยการริเริ่มหรือ
เสร็จ overlearned เพลง , chants , บทกวีและวลีดนตรีเพื่อกระตุ้นพูดคำหรือวลีที่ใช้งานได้ ( ว่า capatini
, &วิญญอลา , 1979 )ตัวอย่างเช่น เมื่อนำเสนอด้วย
overlearned เนื้อเพลง บุคคลมีแนวโน้มที่จะกรอกในช่องว่าง เช่น " คุณ " ( thaut
,
1999b )