The app then takes that text and se

The app then takes that text and sets all the proper functions in the calendar, significantly faster than trying to enter all that information into a traditional calendar app. The app is aware of things like time zones, and the parser is very good at setting up repeating events with odd cycles like "every third week", something that the standard iOS calendar can't always deal with. It also has an in-app map view if locations are entered, and users can send that address to Apple or Google's Mapping apps.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

App แล้วใช้ข้อความ และตั้งฟังก์ชั่นที่เหมาะสมทั้งหมดในปฏิทิน มากเร็วกว่าการพยายามป้อนข้อมูลทั้งหมดที่เป็น app ปฏิทินแบบดั้งเดิม App จะตระหนักถึงสิ่งต่าง ๆ เช่นโซนเวลา และตัวแยกวิเคราะห์เป็นอย่างดีที่ตั้งซ้ำมีวงจรคี่เช่น "ทุกสัปดาห์สาม" สิ่งที่ iOS มาตรฐานปฏิทินเสมอไม่สามารถจัดการกับ ยังมีมุมมองในแผนที่ถ้าป้อนตำแหน่งที่ตั้ง และผู้ใช้สามารถส่งที่อยู่ไปยังแอปเปิ้ลหรือของ Google apps การแม็ป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

app ที่แล้วจะใช้เวลาและข้อความที่กำหนดทุกฟังก์ชันที่เหมาะสมในปฏิทินอย่างมีนัยสำคัญได้เร็วขึ้นกว่าการพยายามที่จะป้อนข้อมูลที่เป็น app ปฏิทินแบบดั้งเดิม app ที่ตระหนักถึงสิ่งที่ต้องการโซนเวลาและแยกวิเคราะห์เป็นสิ่งที่ดีมากในการตั้งค่าการทำซ้ำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับวงจรแปลกเช่น "ทุกสัปดาห์ที่สาม" สิ่งที่ iOS ปฏิทินมาตรฐานไม่สามารถจัดการกับ นอกจากนี้ยังมีมุมมองแผนที่ในการตรวจสอบสถานที่หากมีการป้อนและผู้ใช้สามารถส่งที่อยู่ที่แอปเปิ้ลหรือปพลิเคชันแผนที่ของ Google

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

app แล้วใช้ข้อความและชุดทั้งหมดที่เหมาะสมฟังก์ชันปฏิทิน เร็วมากกว่าการพยายามที่จะใส่ข้อมูลทั้งหมดลงใน app ปฏิทินแบบดั้งเดิม app จะทราบเรื่องโซนเวลาและ parser เป็นอย่างดีในการตั้งค่าเหตุการณ์ซ้ำๆ กับวงจรแปลกๆเช่น " ทุก 3 สัปดาห์ " , สิ่งที่ปฏิทิน iOS มาตรฐานไม่สามารถจัดการกับนอกจากนี้ยังมีในมุมมองแผนที่ App ถ้าสถานที่จะป้อนและผู้ใช้สามารถส่งที่อยู่กับแอปเปิ้ลหรือ Google แผนที่ปพลิเคชัน