In the run-up to the Iranian Revolu

In the run-up to the Iranian Revolution of 1979, Khomeini’s popularity and influence grew. In particular, Khomeini struck a chord with the urban poor and his words provided a channel into which to funnel the revolutionary anger, enthusiasm, and uncertainty sweeping the nation. Khomeini’s refusal to compromise with the monarchy and his disdain for Western governments gave weight to his claim that Iran’s problems could be resolved by a return to Islamic ways, an idea that was increasingly gaining traction among the Muslim masses.
By the fall of 1978, there was a decisive entry of the industrial and salaried working classes, including influential oil workers, into the mass protest movement. The middle class, generally associated with the National Front, was swept up in the revolutionary current and increasingly had little choice but to join forces with Khomeini. As people became emboldened and enthusiastic, even in the face of deaths during demonstrations, the crucial stage of the revolution began with massive politico-economic strikes against the shah starting in late summer. The economy was virtually paralyzed, contributing to a groundswell of support for Khomeini’s uncompromising stance.38
When Khomeini returned to Iran from exile on February 1, 1979, crowds of more than three million greeted him. From February 9 to 11, intense fighting took place between antishah guerillas, rebel troops, and soldiers loyal to the shah. Two days of street fighting culminated with the overthrow of the monarchy. Of the three pillars the Pahlavis had constructed to strengthen their state, the military had been ren- dered powerless, the bureaucracy had fused with the revolution, and court patronage had become a humiliating façade of justice.39
The voice of the people had proved powerful enough to destroy the Pahlavi monarchy, but the immediate challenge after the revolution was to channel that voice and draft a new constitution to replace the 1906 fundamental laws. Religion was at the heart of Khomeini’s objective to enshrine Islam at the center of Iran’s new constitution. Indeed, as the revolution sought to define itself in constitutional terms, Khomeini demonstrated a pragmatic ability to handle challenges from major social and political groups and the restructuring of the Iranian state.40
The process of crafting a new constitution produced an uneven struggle between Khomeini and his disciples on the one hand and Prime Minister Mehdi Bazargan and his liberal Muslim allies on the other. Bazargan and Khomeini clashed over whether or not to institute an Islamic republic. Bazargan advocated a third option in the form of a democratic Islamic republic.41 Khomeini responded by arguing that “Islam does not need adjectives such as democratic. Precisely because Islam is everything, it means everything. It is sad for us to add another word near the word Islam, which is perfect.”42
On April 1, 1979, Khomeini won the debate decisively with 99 percent of electorate voting yes on a referendum to institute the Islamic republic. Out of a total of 21 million people, 20 million participated. The vote established the framework for the elections of a 73-man constituent body called the Majles-e Khebregan (Assembly of Experts)—a term with strong religious overtones. When the elections took place in August, the Central Komiteh, the Central Mosque Office, and the newly structured Society for the Militant Clergy of Tehran (Jam’eh-e Rouhaniyan-e Mobarez-e Tehran) closely scrutinized all candidates. In predictable fashion, the elec- tions resulted in a lopsided victory for Khomeini’s allies, and the Assembly of Experts began drafting the Islamic Constitution.43 The referendum was voted upon before any of the

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน run-up การปฏิวัติอิหร่านของ 1979 ความนิยมและอิทธิพลของโคเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โคหลงคอร์ดมีกับคนจนเมือง และคำพูดของเขาให้ช่องสัญญาณที่กรวยปฏิวัติความโกรธ ความกระตือรือร้น และความไม่แน่นอนในการกวาดประเทศ ปฏิเสธของโคจะประนีประนอมกับพระมหากษัตริย์และ disdain ของเขาสำหรับรัฐบาลตะวันตกให้น้ำหนักของเขาอ้างว่า สามารถแก้ไขปัญหาของอิหร่าน ด้วยวิธีอิสลาม ความคิดที่มีมากขึ้นสามารถลากในหมู่มวลชนมุสลิมโดยฤดูใบไม้ร่วงของ 1978 มีรายการเด็ดขาดของอุตสาหกรรม และเงินเดือนทำงานคลา รวมทั้งน้ำมันมีอิทธิพลแรงงาน ในการเคลื่อนไหวมวลชนประท้วง ชั้นกลาง โดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับชาติหน้า ถูกกวาดขึ้นในการปฏิวัติปัจจุบัน และมีทางเลือกน้อยแต่การเข้าร่วมกองกำลังกับโคมากขึ้น เป็นคนกลายเป็น emboldened และ กระตือรือร้น แม้แต่หน้าเสียชีวิตในระหว่างการสาธิต ขั้นตอนสำคัญของการปฏิวัติเริ่ม ด้วยการนัดหยุดงาน politico เศรษฐกิจขนาดใหญ่กับชาห์ที่เริ่มต้นในช่วงปลายฤดูร้อน เศรษฐกิจถูกแทบอัมพาต สนับสนุน groundswell ของการสนับสนุนของโค stance.38 แน่วแน่เมื่อโคกลับไปอิหร่านจากพลัดถิ่นบน 1 กุมภาพันธ์ 1979 จำนวนลูกค้ากว่าสามล้านรับการต้อนรับเขา จาก 9 กุมภาพันธ์ 11 ต่อสู้รุนแรงเกิดขึ้น ระหว่างกลุ่ม antishah กบฏทหาร ทหารที่ภักดีกับชาห์ วันที่สองของถนนต่อสู้โดยกลุ่มกับล้มล้างพระมหากษัตริย์ หลักสามที่ Pahlavis ที่ได้สร้างขึ้น เพื่อเสริมสร้างสถานะ ทหารได้เร็น - dered อำนาจ อำมาตยาธิปไตยที่มี fused กับการปฏิวัติ และอุปถัมภ์คอร์ทได้กลายเป็น กระจก humiliating ของ justice.39เสียงของประชาชนได้พิสูจน์ประสิทธิภาพพอที่จะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ปาห์ลาวี แต่ความท้าทายทันทีหลังจากการปฏิวัติถูกช่องที่เสียง และร่างรัฐธรรมนูญใหม่แทนกฎหมายพื้นฐานของ 1906 ศาสนาเป็นหัวใจของวัตถุประสงค์ของโคประดิษฐานศาสนาอิสลามในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของอิหร่าน แน่นอน เป็นการปฏิวัติที่พยายามที่จะกำหนดตัวเองในแง่รัฐธรรมนูญ โคแสดงความสามารถในการปฏิบัติเพื่อจัดการกับความท้าทายจากกลุ่มทางสังคม และการเมืองที่สำคัญและการปรับโครงสร้างของ state.40 อิหร่านกระบวนการของรัฐธรรมนูญใหม่งานหัตถกรรมผลิตการต่อสู้ไม่สม่ำเสมอระหว่างโคและพวกสาวกของพระองค์คง และนายกรัฐมนตรี Mehdi Bazargan และมุสลิมเขาเสรีพันธมิตรอื่น ๆ Bazargan และโคกระทบผ่านสถาบันสาธารณรัฐอิสลามหรือไม่ Bazargan advocated ตัวเลือกที่สามในรูปแบบของประชาธิปไตยอิสลาม republic.41 โคตอบสนอง โดยใช้คำที่ "อิสลามไม่ต้องการคำคุณศัพท์เช่นประชาธิปไตย เพราะอิสลามเป็นทุกอย่าง หมายความว่า ทุกอย่าง ได้เศร้าที่เราจะเพิ่มคำอื่นใกล้คำว่าอิสลาม ซึ่งเหมาะ" 42บน 1 เมษายน 1979 โคชนะการอภิปรายรากฐานกับร้อยละ 99 ของเขตเลือกตั้งออกเสียงลงคะแนนได้ในการลงประชามติเพื่อสถาบันสาธารณรัฐอิสลาม จากทั้งหมด 21 ล้านคน 20 ล้านคน คะแนนการสร้างกรอบงานสำหรับการเลือกตั้ง 73 คนส่วนประกอบต่าง ๆ ของร่างกายเรียกว่า Khebregan Majles-อี (แอสเซมบลีของผู้เชี่ยวชาญ) — คำ มี overtones ทางศาสนาที่แข็งแกร่ง เมื่อเลือกตั้งใช้ในเดือนสิงหาคม Komiteh กลาง สำนัก งานมัสยิดกลาง สังคมโครงสร้างใหม่ และสำหรับหัวรุนแรงเคลอจีของเตหราน (Jam'eh-e Rouhaniyan-e Mobarez e เตหะราน) อย่างใกล้ชิด scrutinized ผู้สมัครทั้งหมด ในแฟชั่นได้ elec-tions ส่งผลให้เกิดชัยชนะเท่าไหร่สำหรับพันธมิตรของโค และแอสเซมบลีของผู้เชี่ยวชาญเริ่มร่าง Constitution.43 อิสลามที่ลงประชามติถูกโหวตเมื่อก่อน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการวิ่งขึ้นไปปฏิวัติอิหร่านของปี 1979 ความนิยม Khomeini และมีอิทธิพลต่อการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Khomeini หลงคอร์ดกับคนยากจนและคำพูดของเขาในเมืองให้ช่องทางที่จะเข้าไปในช่องทางความโกรธปฏิวัติความกระตือรือร้นและความไม่แน่นอนกวาดประเทศ ปฏิเสธ Khomeini ที่จะประนีประนอมกับสถาบันพระมหากษัตริย์และดูถูกของเขาสำหรับรัฐบาลตะวันตกให้น้ำหนักในการเรียกร้องของเขาว่าปัญหาของอิหร่านอาจจะแก้ไขได้โดยการกลับไปสู่รูปแบบอิสลามความคิดที่มากขึ้นได้รับแรงในหมู่มวลมุสลิมที่.
ฤดูใบไม้ร่วงของปี 1978 มี เป็นรายการที่เด็ดขาดของอุตสาหกรรมและการเรียนการทำงานมีเงินเดือนรวมทั้งคนงานน้ำมันที่มีอิทธิพลเข้ามาเคลื่อนไหวประท้วงมวล ชนชั้นกลางเกี่ยวข้องกับชาติหน้าถูกกวาดขึ้นมาในปัจจุบันการปฏิวัติและมีทางเลือกมากขึ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่จะเข้าร่วมกับกองกำลัง Khomeini ขณะที่ผู้คนกลายเป็นความกล้าและมีความกระตือรือร้นแม้ในใบหน้าของการเสียชีวิตในระหว่างการประท้วงที่ขั้นตอนที่สำคัญของการปฏิวัติเริ่มต้นด้วยการนัดหยุดงานการเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่กับอิหร่านเริ่มต้นในช่วงปลายฤดูร้อน เศรษฐกิจเป็นอัมพาตจริงที่เอื้อต่อการ groundswell ของการสนับสนุนสำหรับ stance.38 แน่วแน่ของ Khomeini
เมื่อ Khomeini กลับไปยังอิหร่านจากการถูกเนรเทศวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 1979 ฝูงชนของมากกว่าสามล้านทักทายเขา จาก 09-11 กุมภาพันธ์, การต่อสู้ที่รุนแรงเกิดขึ้นระหว่าง antishah โจรกองกำลังกบฏและทหารที่จงรักภักดีต่ออิหร่าน สองวันของถนนต่อสู้ culminated กับการล้มล้างระบอบกษัตริย์ ของทั้งสามเสา Pahlavis ได้สร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความเข้มแข็งของรัฐทหารที่ได้รับอำนาจ dered ren- ข้าราชการได้ผสมกับการปฏิวัติและการอุปถัมภ์ศาลได้กลายเป็นfaçadeอับอายของ justice.39
เสียงของประชาชนที่มีประสิทธิภาพได้พิสูจน์ พอที่จะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ปาห์ลาวี แต่ความท้าทายในทันทีหลังการปฏิวัติเป็นช่องทางเสียงและร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะมาแทนที่ 1906 กฎพื้นฐาน ศาสนาเป็นหัวใจของวัตถุประสงค์ของ Khomeini ประดิษฐานศาสนาอิสลามที่เป็นศูนย์กลางของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของอิหร่าน แท้จริงเป็นปฏิวัติพยายามที่จะกำหนดตัวเองในแง่รัฐธรรมนูญ Khomeini แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปฏิบัติในการจัดการกับความท้าทายจากกลุ่มที่สำคัญทางสังคมและการเมืองและการปรับโครงสร้างของอิหร่าน state.40
กระบวนการของงานหัตถกรรมรัฐธรรมนูญใหม่ผลิตการต่อสู้ที่ไม่สม่ำเสมอระหว่าง Khomeini และ เหล่าสาวกของพระองค์บนมือข้างหนึ่งและนายกรัฐมนตรีเมห์ Bazargan และพันธมิตรมุสลิมเสรีนิยมของเขาในที่อื่น ๆ Bazargan และ Khomeini ปะทะกันมากกว่าหรือไม่ที่จะจัดตั้งเป็นสาธารณรัฐอิสลาม Bazargan สนับสนุนตัวเลือกที่สามในรูปแบบของอิสลามประชาธิปไตย republic.41 Khomeini ตอบสนองด้วยการเถียงว่า "ศาสนาอิสลามไม่จำเป็นต้องมีคำคุณศัพท์เช่นประชาธิปไตย เพราะศาสนาอิสลามคือทุกอย่างมันหมายความว่าทุกอย่าง มันเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับเราที่จะเพิ่มคำอื่นที่อยู่ใกล้คำว่าศาสนาอิสลามซึ่งเป็นที่สมบูรณ์แบบ. "42
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 1979, Khomeini ได้รับรางวัลการอภิปรายอย่างเด็ดขาดกับร้อยละ 99 ของการลงคะแนนเลือกตั้งใช่ในการลงประชามติที่จะจัดตั้งสาธารณรัฐอิสลาม จากทั้งหมด 21 ล้านคน 20 ล้านบาทมีส่วนร่วม การลงคะแนนเสียงจัดตั้งกรอบการทำงานสำหรับการเลือกตั้ง 73 คนที่เป็นส่วนประกอบของร่างกายที่เรียกว่า e-Majles Khebregan (การประชุมของผู้เชี่ยวชาญ) ระยะ -a กับหวือหวาทางศาสนา เมื่อการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมกลาง Komiteh ที่มัสยิดกลางสำนักงาน, และสังคมที่มีโครงสร้างใหม่สำหรับพระสงฆ์สงครามเตหะราน (Jam'eh อี Rouhaniyan อี Mobarez อีเตหะราน) พิจารณาผู้สมัครทุกคนอย่างใกล้ชิด ในแฟชั่นที่คาดการณ์ทั้งนี้การไฟฟ้าส่งผลให้เป็นชัยชนะที่ไม่สมดุลสำหรับพันธมิตรของ Khomeini และประชุมของผู้เชี่ยวชาญเริ่มร่างอิสลาม Constitution.43 ประชามติได้รับการโหวตเมื่อก่อนของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในวิ่งเพื่อการปฏิวัติอิหร่าน 1979 , ความนิยม Khomeini และอิทธิพลอื่น ๆ โดยเฉพาะ Khomeini หลงคอร์ดกับคนจนเมือง และคำพูดของเขาที่ให้ช่องทางในที่ช่องทางความโกรธปฏิวัติ ความกระตือรือร้น และความไม่แน่นอน กวาดประเทศKhomeini คือปฏิเสธที่จะประนีประนอมกับสถาบันกษัตริย์ และการดูถูกของเขาสำหรับรัฐบาลตะวันตกให้หนักของเขาเรียกร้องว่าปัญหาของอิหร่านที่อาจจะได้รับการแก้ไข โดยกลับไปทางอิสลาม ความคิดที่ดึงดูดมากขึ้นและในหมู่มุสลิมมวล .
โดยฤดูใบไม้ร่วงของปี 1978 มีการแตกหักของอุตสาหกรรมและเงินเดือน เรียนทำงาน รวมทั้งคนงานน้ำมันมีอิทธิพลในการชุมนุมมวลชนเคลื่อนไหว ชนชั้นกลางโดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับแนวหน้าแห่งชาติ ถูกกวาดขึ้นในการปฏิวัติปัจจุบันและมากขึ้นมีทางเลือกน้อย แต่จะร่วมมือกับ Khomeini . เป็นคนเริ่มล้าและกระตือรือร้น แม้ในใบหน้าของการเสียชีวิตในระหว่างการสาธิตขั้นตอนที่สำคัญของการปฏิวัติใหญ่ทางการเมือง เศรษฐกิจเริ่มมีนัดกับอิหร่านเริ่มในช่วงปลายฤดูร้อน เศรษฐกิจแทบเป็นอัมพาต สาเหตุที่จะกระตุ้นความสนใจจากผู้คนของการสนับสนุน Khomeini คือจุดยืนแน่วแน่ . 38
เมื่อ Khomeini กลับไปยังอิหร่านจาก EXILE เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ , 1979 , ฝูงชนของมากกว่าสามล้านทักทายเขา วันที่ 9 ถึง 11การต่อสู้ที่รุนแรงเกิดขึ้นระหว่าง antishah เพื่อนทหารกบฏและทหารที่จงรักภักดีต่อกษัตริย์ . สองวันของการต่อสู้ข้างถนน culminated กับล้มล้างพระมหากษัตริย์ จากสามเสา pahlavis ได้สร้างขึ้นเพื่อเสริมสร้างสถานะของตน ทหารมีเรน - dered อำนาจระบบราชการได้ผสมกับการปฏิวัติและศาลในพระบรมราชูปถัมภ์ได้กลายเป็นอัปยศ 2 ̧ ADE ของความยุติธรรม 39
เสียงของประชาชนได้พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะทำลายราชวงศ์ปาห์ลาวี แต่ทันทีที่ท้าทายหลังจากการปฏิวัติคือ ช่องเสียง และร่างรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อแทนที่ 1906 พื้นฐานกฎหมายศาสนาคือหัวใจของ Khomeini ของวัตถุประสงค์ เพื่อประดิษฐาน ศาสนาอิสลามที่ศูนย์ของรัฐธรรมนูญใหม่ของอิหร่าน แน่นอน เป็นการปฏิวัติพยายามที่จะกำหนดตัวเองในเรื่องรัฐธรรมนูญ แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางวัจนปฏิบัติศาสตร์ โคมัยนีเพื่อจัดการกับความท้าทายจากกลุ่มทางสังคมและการเมืองครั้งใหญ่ และการปรับโครงสร้างของรัฐ 40
อิหร่านกระบวนการของการสร้างรัฐธรรมนูญใหม่ที่ไม่เท่ากัน การต่อสู้ ระหว่าง Khomeini และสาวกของเขาในมือข้างหนึ่งและนายกรัฐมนตรีเมห์ bazargan และพันธมิตรมุสลิมเสรีนิยมของเขาในอื่น ๆ และ bazargan Khomeini ปะทะหรือไม่ให้สถาบันสาธารณรัฐอิสลาม bazargan สนับสนุนตัวเลือกที่สามในรูปแบบของประชาธิปไตยสาธารณรัฐอิสลาม .41 Khomeini ตอบโดยให้เหตุผลว่า " อิสลามไม่ได้ต้องการคำคุณศัพท์ เช่น ประชาธิปไตย เพราะอิสลามคือทุกอย่าง มันหมายถึง ทุกอย่าง มันเศร้าสำหรับเราที่จะเพิ่มคำอื่นใกล้คำว่าอิสลาม ซึ่งสมบูรณ์แบบ " 42
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 1979 Khomeini จะอภิปรายเด็ดขาดกับ 99 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนในการลงประชามติเพื่อจัดตั้งสาธารณรัฐอิสลามจำนวน 21 ล้านคน และ 20 ล้านร่วม การสร้างกรอบสำหรับการเลือกตั้งของ 73 คนองค์ประกอบร่างกายที่เรียกว่า majles-e khebregan ( ประกอบผู้เชี่ยวชาญ ) - ระยะเสียงทางศาสนาที่แข็งแกร่ง เมื่อการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม komiteh กลาง สำนักงาน มัสยิดกลางและโครงสร้างสังคมใหม่ เพื่อพระสงฆ์หัวรุนแรงของเตหะราน ( jam'eh-e rouhaniyan-e mobarez-e เตหะราน ) อย่างใกล้ชิดตรวจสอบผู้สมัครทุกคน . แฟชั่นในแบบฉบับ , Elec - ใช้งานส่งผลให้เกิดชัยชนะเอียงสำหรับ Khomeini ของพันธมิตร และ การประชุมของผู้เชี่ยวชาญเริ่มร่างแบบอิสลาม constitution.43 การลงประชามติให้บนก่อนใด ๆของ