Post-World War IIAfter World War II

Post-World War II
After World War II, a new government was formed in Brunei under the British Military Administration (BMA). It consisted mainly of Australian officers and servicemen.[46] The administration of Brunei was passed to the Civil Administration on 6 July 1945. The Brunei State Council was also revived that year.[47] The BMA was tasked to revive the Bruneian economy, which was extensively damaged by the Japanese during their occupation. They also had to put out the fires on the wells of Seria, which had been set by the Japanese prior to their defeat.[47]

Before 1941, the Governor of the Straits Settlements, based in Singapore, was responsible for the duties of British High Commissioner for Brunei, Sarawak, and North Borneo (now Sabah).[48] The first British High Commissioner for Brunei was the Governor of Sarawak, Sir Charles Ardon Clarke. The Barisan Pemuda ("Youth Movement") (abbreviated as BARIP) was the first political party to be formed in Brunei, on 12 April 1946. The party intended to "preserve the sovereignty of the Sultan and the country, and to defend the rights of the Malays".[49] BARIP also contributed to the composition of the country's national anthem. The party was dissolved in 1948 due to inactivity.

In 1959, a new constitution was written declaring Brunei a self-governing state, while its foreign affairs, security, and defence remained the responsibility of the United Kingdom.[10] A small rebellion erupted against the monarchy in 1962, which was suppressed with help of the UK. Known as the Brunei Revolt, it contributed to the failure to create the North Borneo Federation. The rebellion partially affected Brunei's decision to opt out of the Malaysian Federation.[10]

Brunei gained its independence from the United Kingdom on 1 January 1984.[10] The official National Day, which celebrates the country's independence, is held by tradition on 23 February.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โลกหลังสงครามครั้งที่สองหลังจากสงครามโลก รัฐบาลได้ก่อตั้งขึ้นในประเทศบรูไนภายใต้อังกฤษทหารจัดการ (BMA) มันประกอบด้วยส่วนใหญ่ของเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียและเล็ง [46] การบริหารงานของบรูไนถูกส่งผ่านไปจัดการพลเรือนบน 6 1945 กรกฎาคม คณะรัฐบรูไนยังฟื้นฟูปี [47] BMA ได้รับมอบหมายเพื่อฟื้นเศรษฐกิจบรูไน ซึ่งเสียหายอย่างกว้างขวาง โดยญี่ปุ่นระหว่างการยึดครองของพวกเขา พวกเขายังมีดับไฟในบ่อของ Seria ซึ่งได้ถูกตั้งค่า โดยญี่ปุ่นก่อนที่จะพ่ายแพ้ของพวกเขา [47]ก่อน 1941 ผู้ว่าการอาณานิคม ในสิงคโปร์ มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของอังกฤษข้าบรูไน ซาราวัค และ บอร์เนียวเหนือ (ตอนนี้ซาบาห์) [48] แรกอังกฤษข้าบรูไนเป็นข้าหลวงของ Sarawak เซอร์ชาร์ลส์ Ardon คลาร์ก บาริซาน Pemuda ("เยาวชนย้าย") (ย่อเป็น BARIP) เป็นพรรคการเมืองแรกจะต้องเกิดขึ้นในประเทศบรูไน 12 1946 เมษายน บุคคลมีจุดประสงค์เพื่อ "รักษาอธิปไตยสุลต่านและประเทศ และปกป้องสิทธิของตัวเชื้อสายมลายู" [49] BARIP ส่วนองค์ประกอบของเพลงชาติของประเทศ ฝ่ายถูกละลายในค.ศ. 1948 เนื่องจากสาเหตุใน 1959 มีเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ประกาศบรูไนรัฐกำกับดูแลตนเอง ในขณะต่างประเทศ ความปลอดภัย และป้องกันยังคง ความรับผิดชอบของสหราชอาณาจักร [10] เป็นกบฏเล็ก ๆ ปะทุกับพระมหากษัตริย์ในปี 1962 ซึ่งถูกระงับไว้ ด้วยความช่วยเหลือของสหราชอาณาจักร เรียกว่ากบฏบรูไน มันส่วนการล้มเหลวในการสร้างสภาแห่งบอร์เนียวเหนือ การกบฏบางส่วนผลกระทบของบรูไนตัดสินใจเลือกจากสหพันธรัฐมาเลเซีย [10]บรูไนได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรบน 1 1984 มกราคม [10] ทางวันชาติ ซึ่งฉลองเอกราชของประเทศ จะจัดขึ้นตามประเพณี 23 กุมภาพันธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองรัฐบาลใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นในบรูไนทหารภายใต้การบริหารของอังกฤษ (กทม) มันประกอบด้วยส่วนใหญ่ของเจ้าหน้าที่ของออสเตรเลียและ servicemen. [46] การบริหารงานของบรูไนถูกส่งผ่านไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนวันที่ 6 กรกฎาคม 1945 บรูไนสภาแห่งรัฐก็ยังฟื้นขึ้นมาในปีนั้น. [47] กทมถูกมอบหมายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของบรูไน, ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างกว้างขวางโดยญี่ปุ่นในช่วงอาชีพของพวกเขา พวกเขายังมีการดับไฟในหลุมของเซเรียซึ่งได้รับการกำหนดโดยญี่ปุ่นก่อนที่จะพ่ายแพ้ของพวกเขา. [47] ก่อนปี 1941 ผู้ว่าการชำระหนี้ช่องแคบซึ่งตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์เป็นผู้รับผิดชอบในหน้าที่ของอังกฤษ ข้าหลวงใหญ่เพื่อบรูไนซาราวักและบอร์เนียวเหนือ (ตอนนี้ซาบาห์). [48] ครั้งแรกที่อังกฤษข้าหลวงบรูไนเป็นผู้ว่าการรัฐซาราวักเซอร์ชาร์ลส์อาร์ดอนคล๊าร์ค ซัน Pemuda ("หนุ่มขยับ") (โดยย่อว่า BARIP) เป็นพรรคการเมืองแรกที่จะเกิดขึ้นในบรูไนที่ 12 เมษายน 1946 บุคคลที่ตั้งใจที่จะ "รักษาอธิปไตยของสุลต่านและประเทศและเพื่อปกป้องสิทธิ ของมาเลเซีย ". [49] BARIP ก็มีส่วนทำให้องค์ประกอบของประเทศชาติ บุคคลที่ถูกกลืนหายไปในปี 1948 เนื่องจากไม่มีการใช้งาน. ในปี 1959 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ถูกเขียนประกาศบรูไนรัฐปกครองตนเองในขณะที่ต่างประเทศของการรักษาความปลอดภัยและการป้องกันประเทศยังคงอยู่ในความรับผิดชอบของสหราชอาณาจักร. [10] จลาจลปะทุขึ้นขนาดเล็ก กับสถาบันพระมหากษัตริย์ในปี 1962 ซึ่งได้รับการปราบปรามด้วยความช่วยเหลือของสหราชอาณาจักร ที่รู้จักกันในการปฏิวัติบรูไนก็มีส่วนทำให้เกิดความล้มเหลวในการสร้างบอร์เนียวเหนือสภา กบฏได้รับผลกระทบบางส่วนตัดสินใจของบรูไนจะเลือกออกจากสหพันธรัฐมาเลเซีย. [10] บรูไนได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรวันที่ 1 มกราคม 1984 [10] วันชาติอย่างเป็นทางการซึ่งฉลองเอกราชของประเทศที่จัดขึ้นโดยประเพณีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นในบรูไน ภายใต้การบริหารงานของทหารอังกฤษ ( กรุงเทพมหานคร ) มันประกอบด้วยส่วนใหญ่ของเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียและ servicemen [ 46 ] การบริหารของบรูไนคือ ผ่านการบริหารงานวิศวกรรมโยธาวันที่ 6 กรกฎาคม 1945 บรูไนรัฐสภาก็ฟื้นขึ้นมา ปีนั้น [ 47 ] กทม. ได้รับมอบหมาย เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจบรูไน ,ซึ่งเป็นอย่างกว้างขวางความเสียหายจากญี่ปุ่นในอาชีพของพวกเขา พวกเขายังต้องดับไฟในบ่อของซีเรีย ซึ่งถูกตั้งโดยญี่ปุ่น ก่อนที่จะพ่ายแพ้ [ 47 ]

ก่อน , ผู้ว่าการการชำระหนี้ช่องแคบซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์ รับผิดชอบหน้าที่ข้าหลวงใหญ่อังกฤษบรูไน ซาราวัคและบอร์เนียวเหนือ ( ตอนนี้ ซาบาห์ )[ 48 ] ครั้งแรกที่อังกฤษข้าหลวงใหญ่บรูไนเป็นผู้ว่าการรัฐซาราวักเซอร์ชาร์ลส์อาร์เดิ่น คลาร์ก บาริซาน pemuda ( " เคลื่อนไหว " เยาวชน ) ( ย่อเป็น barip ) เป็นครั้งแรกที่พรรคการเมืองจะเกิดขึ้นในบรูไน ในวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2489 ( ค.ศ. 1946 ) . พรรคตั้งใจที่จะ " รักษาอธิปไตยของสุลต่านและประเทศ และปกป้องสิทธิของชาวมลายู "[ 49 ] barip ยังสนับสนุนองค์ประกอบของเพลงชาติของประเทศ พรรคถูกยุบในปี พ.ศ. 2491 เนื่องจากไม่มีการใช้งาน .

ในปี 1959 รัฐธรรมนูญใหม่ เขียนว่า บรูไนเป็นรัฐปกครองตนเอง ในขณะที่ของต่างประเทศ ความมั่นคง และการป้องกันยังคงอยู่ในความรับผิดชอบของสหราชอาณาจักร [ 10 ] กบฏเล็กๆ ปะทุขึ้น ต่อสถาบันในปี 1962ซึ่งถูกปราบปรามด้วยความช่วยเหลือของสหราชอาณาจักร เรียกว่าการปฏิวัติบรูไน มันส่งผลต่อความล้มเหลวที่จะสร้างบอร์เนียวเหนือพันธมิตร กบฏบางส่วน ส่งผลต่อการตัดสินใจของบรูไนที่จะเลือกออกจากสหพันธรัฐมาเลเซีย [ 10 ]

บรูไนได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2527 [ 10 ] วันแห่งชาติอย่างเป็นทางการ ซึ่งฉลองเอกราชของประเทศที่จัดขึ้นตามประเพณีในวันที่ 23 กุมภาพันธ์