Flow direction is encoded as an ang

Flow direction is encoded as an angle 'ang' in radians counter-clockwise from east as a continuous (floating point) quantity between 0 and 2 pi. The flow direction angle is determined as the direction of the steepest downward slope on the eight triangular facets formed in a 3 x 3 grid cell window centered on the grid cell of interest. A block-centered representation is used with each elevation value taken to represent the elevation of the center of the corresponding grid cell. Eight planar triangular facets are formed between each grid cell and its eight neighbors. Each of these has a downslope vector which when drawn outwards from the center may be at an angle that lies within or outside the 45o (pi/4 radian) angle range of the facet at the center point. If the slope vector angle is within the facet angle, it represents the steepest flow direction on that facet. If the slope vector angle is outside a facet, the steepest flow direction associated with that facet is taken along the steepest edge. The slope and flow direction associated with the grid cell is taken as the magnitude and direction of the steepest downslope vector from all eight facets. Slope is measured as drop/distance, i.e. tan of the slope angle. In the case where no slope vectors are positive (downslope), the flow direction is set using the method of Garbrecht and Martz (1997) for the determination of flow across flat areas. This makes flat areas drain away from high ground and towards low ground. The flow path grid to enforce drainage along existing streams is an optional input and if used, takes precedence over elevations for the setting of flow directions. The Dinf flow direction algorithm may be applied to a DEM that has not had pits filled, but will then result in no data values for Dinf flow direction and slope associated with the lowest point of the pit.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทิศทางการไหลจะถูกเข้ารหัสเป็นมุม 'อ่างทอง' ในหน่วยเรเดียนที่ทวนเข็มนาฬิกาจากทิศตะวันออกเป็นอย่างต่อเนื่อง (ลอยจุด) ปริมาณระหว่าง 0 ถึง 2 ปี มุมทิศทางของกระแสจะถูกกำหนดเป็นทางลาดลง steepest ในแง่มุมสามเหลี่ยมแปดที่ก่อตั้งขึ้นในหน้าต่างตาราง 3 x 3 เซลล์กึ่งกลางในเซลล์ตารางที่น่าสนใจ แสดงที่บล็อกน่าจะใช้กับแต่ละค่ายกมาถึงความสูงของศูนย์กลางของเซลล์ตารางที่สอดคล้องกัน แง่มุมสามเหลี่ยมระนาบแปดเกิดขึ้นระหว่างแต่ละกริดเซลล์และปฏิกิริยาของแปด เหล่านี้มี downslope เป็นเวกเตอร์ซึ่งเมื่อ outwards ออกจากศูนย์อาจจะเป็นมุมที่อยู่ภายใน หรือภาย นอก 45o (pi/4 เรเดียน) มุมช่วงพได้ที่จุดศูนย์กลาง ได้ ถ้ามุมเวกเตอร์ความชันอยู่มุมพได้ แสดงทิศทางการไหล steepest บนพได้นั้น ถ้ามุมเวกเตอร์ความชันอยู่นอกพได้ ทิศทางกระแส steepest ที่เกี่ยวข้องกับพได้ที่จะนำมาริม steepest ทิศทางความชันและขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ตารางจะถูกใช้เป็นขนาดและทิศทางของเวกเตอร์ downslope steepest จากแปดทุกแง่มุม วัดลาดเป็นหล่น/ระยะทาง เช่น tan ของมุมลาด ในกรณีที่ไม่มีเวกเตอร์ความชันมีค่าเป็นบวก (downslope), ทิศทางการไหลที่ถูกตั้งค่าโดยใช้วิธีของ Garbrecht และ Martz (1997) ในการกำหนดการไหลผ่านพื้นที่ราบ ทำให้พื้นที่ราบระบายน้ำ จากพื้นดินสูง และ ทางพื้นดินต่ำ ตารางเส้นทางขั้นตอนการบังคับใช้การระบายน้ำตามลำธารที่มีอยู่เป็นการป้อนข้อมูลที่ไม่จำเป็น และถ้าใช้ จะสำคัญกว่า elevations สำหรับการตั้งค่าทิศทางของกระแส Dinf กระแสทิศทางอัลกอริทึมอาจใช้กับ DEM ที่ได้มีเติมหลุม แต่จะผลค่าข้อมูลไม่ Dinf ทิศทางการไหลและความชันที่เกี่ยวข้องกับจุดต่ำสุดของหลุม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทิศทางการไหลจะถูกเข้ารหัสเป็นมุม 'อ่างทอง' เรเดียนทวนเข็มนาฬิกาจากทิศตะวันออกเป็นต่อเนื่อง (จุดลอย) ปริมาณระหว่าง 0 และ 2 ปี่ มุมทิศทางการไหลจะถูกกำหนดเป็นทิศทางของลาดชันลงบนแปดแง่มุมสามเหลี่ยมที่เกิดขึ้นใน 3 x 3 หน้าต่างเซลล์ตารางศูนย์กลางในเซลล์ตารางของดอกเบี้ย เป็นตัวแทนบล็อกเป็นศูนย์กลางจะใช้กับแต่ละค่าระดับความสูงที่นำมาเพื่อเป็นตัวแทนของความสูงของศูนย์กลางของเซลล์ตารางที่สอดคล้องกันที่ แปดแง่มุมสามเหลี่ยมระนาบจะเกิดขึ้นระหว่างแต่ละเซลล์ตารางแปดเพื่อนบ้าน แต่ละเหล่านี้มีเวกเตอร์เจสซิกาซึ่งเมื่อดึงออกมาจากศูนย์อาจจะอยู่ที่มุมที่อยู่ภายในหรือภายนอก 45o (ปี่ / 4 เรเดียน) ช่วงแง่มุมที่จุดศูนย์ที่ ถ้ามุมลาดเวกเตอร์อยู่ในแง่มุมที่มันแสดงให้เห็นถึงทิศทางการไหลลาดชันในแง่ที่ว่า ถ้ามุมลาดเวกเตอร์อยู่นอกด้านทิศทางการไหลลาดชันที่เกี่ยวข้องกับด้านที่จะนำมาตามขอบลาดชัน ความลาดชันและทิศทางการไหลที่เกี่ยวข้องกับเซลล์ตารางจะมาเป็นขนาดและทิศทางของเวกเตอร์เจสซิกาลาดชันจากแปดแง่มุม เป็นวัดลาดเป็นลดลง / ระยะทางคือผิวสีแทนของมุมลาดชัน ในกรณีที่ไม่มีพาหะลาดชันเป็นบวก (เจสซิกา) ทิศทางการไหลที่มีการตั้งค่าการใช้วิธีการของการ Garbrecht และมาร์ทส (1997) สำหรับการวัดการไหลผ่านพื้นที่ราบ นี้จะทำให้พื้นที่ราบระบายน้ำออกไปจากพื้นดินสูงและต่อพื้นดินต่ำ ตารางเส้นทางการไหลในการบังคับใช้การระบายน้ำตามลำธารที่มีอยู่เป็นตัวเลือกการป้อนข้อมูลและถ้าใช้จะเหนือกว่าเอนไซม์สำหรับการตั้งค่าทิศทางการไหล อัลกอริทึมทิศทางการไหล Dinf อาจจะนำไปใช้กับ DEM ที่ยังไม่ได้เต็มไปด้วยหลุม แต่แล้วจะส่งผลให้ไม่มีค่าข้อมูลสำหรับทิศทางการไหล Dinf และลาดชันที่เกี่ยวข้องกับจุดต่ำสุดของหลุม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทิศทางการไหลจะถูกเข้ารหัสเป็นมุมในหน่วยเรเดียน ' อ่างทอง ' เคาน์เตอร์ตามเข็มนาฬิกาจากด้านตะวันออกเป็นอย่างต่อเนื่อง ( จุดลอย ) ปริมาณระหว่าง 0 และ 2 pi ทิศทางการไหลจะถูกกำหนดเป็นทิศทางของมุมสูงชันลาดลงในแปดสามเหลี่ยมแง่มุมเกิดขึ้นใน 3 x 3 ตารางเซลล์หน้าต่างตรงกลางบนกริดเซลล์ของดอกเบี้ยบล็อกเป็นสำคัญ การใช้กับการถ่ายแต่ละค่าของความสูงของศูนย์ของเซลล์ตารางที่สอดคล้องกัน แปดระนาบสามเหลี่ยมแง่มุมที่เกิดขึ้นระหว่างแต่ละเซลล์ในตาราง และแปดเพื่อนบ้านแต่ละเหล่านี้มี downslope เวกเตอร์ที่วาดออกจากศูนย์ อาจเป็นมุมที่อยู่ภายในหรือภายนอก 45o ( pi / 2 เรเดียน ) ช่วงมุมของแง่มุมที่จุดศูนย์ ถ้าความลาดชันเวกเตอร์มุมภายในแง่มุม มันเป็นสิ่งที่ทิศทางการไหลในที่แง่ ถ้าความลาดชันเวกเตอร์มุมนอกด้าน ,สูงชันทิศทางการไหลที่เกี่ยวข้องกับแง่มุมที่ถ่ายตามขอบสูงชัน . ความชัน และทิศทางการไหลที่เกี่ยวข้องกับตารางเซลล์ถูกจับเป็นขนาดและทิศทางของเวกเตอร์ downslope ลาดชันจากทั้งหมดแปดแง่มุม ลาดวัดเป็นหยด / ระยะทาง เช่น ตันของความลาดชันที่มุม ในกรณีที่ไม่มีเวกเตอร์ความชันเป็นบวก ( downslope )ทิศทางการไหลถูกตั้งค่าโดยใช้วิธี garbrecht และมาซ ( 1997 ) เพื่อหาปริมาณการไหลข้ามพื้นที่ที่แบน ทำให้แบนพื้นที่ระบายออกไปจากพื้นดินและพื้นดินสูงไปต่ำ การไหลตามกระแสกริดบังคับเส้นทางระบายน้ำที่มีอยู่ตัวเลือกการป้อนข้อมูลและถ้าใช้ จะเหนือกว่าเอนไซม์สำหรับการตั้งค่าของเส้นทางการไหลและทิศทางการไหล dinf ขั้นตอนวิธีอาจจะประยุกต์ใช้กับเด็มที่ไม่ได้มีหลุมเต็ม แต่ก็จะส่งผลให้ไม่มีข้อมูลค่าสำหรับ dinf ทิศทางการไหลและความชันที่เกี่ยวข้องกับจุดต่ำสุดของหลุม