Visa DenialsThe United States is an

Visa Denials

The United States is an open society. Unlike many other countries, the United States does not impose internal controls on most visitors, such as registration with local authorities. In order to enjoy the privilege of unencumbered travel in the United States, aliens have a responsibility to prove they are going to return abroad before a visitor or student visa is issued. Our immigration law requires consular officers to view every visa applicant as an intending immigrant until the applicant proves otherwise.

What Is Section 214(b)?
Section 214(b) is part of the Immigration and Nationality Act (INA). It states:

Every alien shall be presumed to be an immigrant until he establishes to the satisfaction of the consular officer, at the time of application for admission, that he is entitled to a nonimmigrant status...

To qualify for a visitor or student visa, an applicant must meet the requirements of sections 101(a)(15)(B) or (F) of the INA respectively. Failure to do so will result in a refusal of a visa under INA 214(b). The most frequent basis for such a refusal concerns the requirement that the prospective visitor or student possess a residence abroad he/she has no intention of abandoning. Applicants prove the existence of such residence by demonstrating that they have ties abroad that would compel them to leave the U.S. at the end of the temporary stay. The law places this burden of proof on the applicant.

Our consular officers have a difficult job. They must decide in a very short time if someone is qualified to receive a temporary visa. Most cases are decided after a brief interview and review of whatever evidence of ties an applicant presents.

What Constitutes "Strong Ties"?
Strong ties differ from country to country, city to city, individual to individual. Some examples of ties can be a job, a house, a family, a bank account. "Ties" are the various aspects of your life that bind you to your country of residence: your possessions, employment, social and family relationships.

As a U.S. citizen or legal permanent resident, imagine your own ties in the United States. Would a consular office of a foreign country consider that you have a residence in the United States that you do not intend to abandon? It is likely that the answer would be "yes" if you have a job, a family, if you own or rent a house or apartment, or if you have other commitments that would require you to return to the United States at the conclusion of a visit abroad. Each person's situation is different.

Our consular officers are aware of this diversity. During the visa interview they look at each application individually and consider professional, social, cultural and other factors. In cases of younger applicants who may not have had an opportunity to form many ties, consular officers may look at the applicants specific intentions, family situations, and long-range plans and prospects within his or her country of residence. Each case is examined individually and is accorded every consideration under the law.

Is a Denial Under Section 214(B) Permanent?

No. The consular officer will reconsider a case when an applicant reapplies, if an applicant can show further convincing evidence of ties outside the United States. Unfortunately, some applicants will not qualify for a nonimmigrant visa, regardless of how many times they reapply, until their personal, professional, and financial circumstances change considerably.

How Can I Help?

You may provide a letter of invitation or support. However, this cannot guarantee visa issuance to a foreign national friend, relative or student. Visa applicants must qualify for the visa according to their own circumstances, not on the basis of an American sponsor's assurance.

What Can Be Done If Refused A Visa Under 214(B) For Lack of a Residence Abroad?

Applicants refused visas under section 214(b) may reapply for a visa. When they do, they will have to show further evidence of their ties or how their circumstances have changed since the time of the original application. It may help to answer the following questions before reapplying: (1) Did I explain my situation accurately? (2) Did the consular officer overlook something? (3) Is there any additional information I can present to establish my residence and strong ties abroad?

Also note that they will be charged a nonrefundable application fee each time they apply for a visa, regardless of whether a visa is issued.

Who Can Influence The Consular Officer to Reverse a Decision?

Immigration law delegates the responsibility for issuance or refusal of visas to consular officers overseas. They have the final say on all visa cases. By regulation the U.S. Department of State has authority to review consular decisions, but this authority is limited to the interpretation of law, as contrasted to determinations of facts. The question at issue in such denials, whether an applicant possesses the required residence abroad, is a factual one. Therefore, it falls exclusively within the authority of consular officers at our Foreign Service posts to resolve. An applicant can influence the post to change a prior visa denial only through the presentation of new convincing evidence of strong ties.

Inquiries on visa cases in progress overseas should contact the appropriate U.S. Embassy or Consulate handling your case.

More Resources

For a detailed listing of the different visa ineligibilities, review Ineligibilities and Waivers, on the Department of State, Travel.state.gov website.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปฏิเสธวีซ่าสหรัฐอเมริกาเป็นสังคมเปิด ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ สหรัฐอเมริกาไม่กำหนดตัวควบคุมภายในกับผู้เข้าชมมากที่สุด เช่นการลงทะเบียนกับหน่วยงานท้องถิ่น เพลิดเพลินกับสิทธิพิเศษในการเดินทาง unencumbered ในสหรัฐอเมริกา คนต่างด้าวมีความรับผิดชอบเพื่อพิสูจน์พวกเขากำลังจะกลับต่างประเทศก่อนผู้เยี่ยมชม หรือวีซ่าจะออกให้ กฎหมายคนเข้าเมืองของเราต้องใช้เจ้าหน้าที่กงสุลดูทุกผู้สมัครวีซ่าเป็นการอพยพจะจนกว่าผู้สมัครพิสูจน์เป็นอย่างอื่นส่วน 214(b) คืออะไรส่วน 214(b) เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจคนเข้าเมืองและพระราชบัญญัติสัญชาติ (อิ) ระบุ:คนต่างด้าวทุกจะ presumed ได้มี การอพยพจนเขาสร้างพึงพอใจของเจ้าหน้าที่กงสุล ในขณะแอพลิเคชันสำหรับค่าเข้าชม ที่เขาจะได้รับสถานะชั่วคราว...เพื่อขอวีซ่านักเรียนหรือผู้เข้าชม ผู้สมัครต้องตรงกับความต้องการของส่วน 101(a)(15)(B) หรือ (F) ของ INA ตามลำดับ ไม่จะส่งผลในการปฏิเสธวีซ่าภายใต้ 214(b) อิ พื้นฐานบ่อย ๆ สำหรับการปฏิเสธดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความต้องการให้ผู้เยี่ยมชมผู้สนใจหรือนักเรียนมีเป็นต่างประเทศได้ขอละทิ้ง ผู้สมัครพิสูจน์อยู่อาศัยดังกล่าว โดยเห็นว่า มีความสัมพันธ์ต่างประเทศที่จะกดดันพวกเขาไปสหรัฐเมื่อสิ้นสุดการเข้าพักชั่วคราว กฎหมายวางหลักฐานของภาระนี้บนผู้สมัครเจ้าหน้าที่กงสุลของเรามีงานยาก พวกเขาต้องตัดสินใจในเวลาสั้น ๆ ถ้ามีคุณสมบัติที่จะได้รับวีซ่าชั่วคราว ส่วนใหญ่จะตัดสินใจหลังจากย่อสัมภาษณ์ และตรวจสอบผู้สมัครแสดงหลักฐานใด ๆ ของความสัมพันธ์สิ่งที่ก่อ "ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง"ความสัมพันธ์ที่แข็งแรงแตกต่างจากประเทศประเทศ การเมือง บุคคลกับบุคคล ตัวอย่างของความสัมพันธ์ได้งาน บ้าน ครอบครัว บัญชีธนาคาร ในด้านต่าง ๆ ของชีวิตที่ผูกคุณกับประเทศที่คุณมี "ความสัมพันธ์": ทรัพย์สิน จ้างงาน สังคม และครอบครัวความสัมพันธ์ของคุณเป็นพลเมืองสหรัฐหรืออาศัยกฎหมายถาวร จินตนาการความสัมพันธ์ของคุณเองในสหรัฐอเมริกา จะเป็นสถานกงสุลของต่างประเทศที่พิจารณาว่า คุณได้อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกานั้นไม่ละทิ้ง มีแนวโน้ม ว่าคำตอบจะเป็น "ใช่" ถ้าคุณมีงาน ครอบครัว ถ้าคุณเป็นเจ้าของ หรือเช่าบ้านหรืออพาร์ทเมนท์ หรือ ถ้าคุณมีข้อผูกมัดอื่น ๆ ซึ่งจะทำให้คุณกลับไปยังสหรัฐอเมริกาในข้อสรุปของการ ต่างประเทศ สถานการณ์ของแต่ละคนจะแตกต่างกันเจ้าหน้าที่กงสุลของเราได้ตระหนักถึงความหลากหลายนี้ ในระหว่างการสัมภาษณ์วีซ่า จะดูแต่ละแอพลิเคชันแต่ละ และพิจารณาปัจจัยอาชีพ สังคม วัฒนธรรม และอื่น ๆ ในกรณีผู้สมัครอายุน้อยที่อาจไม่มีโอกาสแบบหลายความสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่กงสุลอาจดูที่ความตั้งใจเฉพาะของผู้สมัคร สถานการณ์ครอบครัว และแผนระยะยาว และแนวโน้มภายในประเทศของเขา หรือเธอเรสซิเดนซ์ แต่ละกรณีตรวจสอบเป็นรายบุคคล และทรัพย์ทุกพิจารณากฎหมายคือการปฏิเสธภายใต้ส่วน 214(B) ถาวร555 เจ้าหน้าที่กงสุลจะ reconsider กรณีเมื่อผู้สมัครคุณ ถ้าผู้สมัครสามารถแสดงหลักฐานเพิ่มเติมดูแข่งนอกสหรัฐอเมริกา อับ ไม่คัดเลือกผู้สมัครบางคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว ไม่กี่ครั้งพวกเขา ใช้ จนถึงส่วนบุคคลของพวกเขา มืออาชีพ และสถานการณ์ทางการเงินเปลี่ยนแปลงอย่างมากฉันจะช่วยหรือไม่คุณอาจมีหนังสือเชิญหรือสนับสนุน อย่างไรก็ตาม นี้ไม่รับประกันวีซ่าออกให้ต่างชาติเพื่อน ญาติหรือนักเรียน ผู้สมัครวีซ่าต้องรับรองวีซ่าตามสถานการณ์ของตนเอง ไม่ตามการรับรองของสปอนเซอร์เป็นอเมริกันทำอย่างไรถ้าถูกปฏิเสธวีซ่าภายใต้ 214(B) ขาดอาศัยต่างประเทศผู้สมัครที่ถูกปฏิเสธวีซ่าภายใต้ 214(b) ส่วนอาจนำคำร้องขอวีซ่า เมื่อพวกเขาทำ พวกเขาจะต้องแสดงหลักฐานความสัมพันธ์ของพวกเขาหรือว่ามีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของพวกเขานับตั้งแต่เวลาที่ของแอพลิเคชันเดิมเพิ่มเติม มันอาจช่วยตอบคำถามต่อไปนี้ก่อนนำ: (1) ได้ฉันอธิบายสถานการณ์ของฉันถูกต้องหรือไม่ (2) ได้เจ้าหน้าที่กงสุลมองข้ามบางสิ่งบางอย่างหรือไม่ (3) จะมีข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ ที่ฉันสามารถนำเสนอการสร้างเรสซิเดนซ์และแข็งแรงความสัมพันธ์ต่างประเทศของฉันนอกจากนี้ยัง ทราบว่า พวกเขาจะคิดค่าค่าธรรมเนียมการสมัคร nonrefundable ทุกครั้งที่จะใช้สำหรับการขอวีซ่า ไม่ว่าวีซ่าจะออกให้ที่สามารถมีอิทธิพลต่อเจ้าหน้าที่ติดต่อกงศุลการกลับการตัดสินใจหรือไม่กฎหมายคนเข้าเมืองมอบหมายความรับผิดชอบในการออกหรือปฏิเสธวีซ่าให้เจ้าหน้าที่กงสุลต่างประเทศ มีเสขั้นสุดท้ายในกรณีวีซ่าทั้งหมด โดยระเบียบ ภาครัฐสหรัฐอเมริกามีอำนาจทบทวนตัดสินใจกงสุล แต่อำนาจนี้จำกัดอยู่ที่การตีความกฎหมาย เป็นการเปรียบเทียบกับ determinations ของข้อเท็จจริง คำถามในปัญหาดังกล่าวปฏิเสธ ว่าที่ผู้สมัครครบถ้วนต้องอาศัยต่างประเทศ เป็นหนึ่งในเรื่อง ดังนั้น มันอยู่เฉพาะภายในอำนาจของเจ้าหน้าที่กงสุลที่เราโพสต์ต่างแก้ ผู้สมัครสามารถส่งผลต่อการประกาศการเปลี่ยนการปฏิเสธวีซ่าก่อนนำเสนอหลักฐานที่น่าเชื่อถือใหม่ของความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งเท่านั้นสอบถามเกี่ยวกับกรณีวีซ่ายู่ต่างประเทศควรติดต่อสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาหรือสถานกงสุลที่จัดการกรณีของคุณที่เหมาะสมทรัพยากรเพิ่มเติมสำหรับรายการโดยละเอียดของ ineligibilities วีซ่าต่าง ๆ ตรวจสอบ Waivers ในภาครัฐ เว็บไซต์ Travel.state.gov และ Ineligibilities

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปฏิเสธวีซ่าสหรัฐอเมริกาเป็นสังคมเปิด ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ หลายประเทศสหรัฐอเมริกาไม่ได้กำหนดระบบการควบคุมภายในที่ผู้เข้าชมมากที่สุดเช่นการลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อที่จะได้สิทธิพิเศษในการเดินทางปราศจากภาระผูกพันในประเทศสหรัฐอเมริกาที่คนต่างด้าวมีความรับผิดชอบที่จะพิสูจน์ว่าพวกเขากำลังจะกลับมาในต่างประเทศก่อนที่จะเข้าชมหรือวีซ่านักเรียนจะออก กฎหมายคนเข้าเมืองของเราต้องมีเจ้าหน้าที่กงสุลเพื่อดูผู้สมัครขอวีซ่าทุกคนเป็นผู้อพยพที่ตั้งใจจนผู้ยื่นคำขอพิสูจน์ให้เห็นเป็นอย่างอื่น. คืออะไรมาตรา 214 (ข) มาตรา 214 (ข) เป็นส่วนหนึ่งของคนเข้าเมืองและสัญชาติ (INA) มันฯ : คนต่างด้าวทุกคนจะได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้อพยพจนกว่าเขาจะสร้างความพึงพอใจของเจ้าหน้าที่กงสุลในเวลาของการประยุกต์ใช้สำหรับการเข้าศึกษาว่าเขามีสิทธิที่จะสถานะชั่วคราว ... จะมีคุณสมบัติสำหรับผู้เข้าชมหรือวีซ่านักเรียน ผู้สมัครจะต้องตอบสนองความต้องการของส่วน 101 (ก) (15) (ข) หรือ (F) ของนาตามลำดับ ล้มเหลวในการทำเช่นนั้นจะส่งผลให้การปฏิเสธวีซ่าภายใต้ INA 214 (ข) พื้นฐานที่พบบ่อยที่สุดสำหรับการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการปฏิเสธความต้องการที่ผู้เข้าชมที่คาดหวังหรือนักเรียนมีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศเขา / เธอมีความตั้งใจที่ไม่ทิ้ง สมัครพิสูจน์การดำรงอยู่ของที่อยู่อาศัยดังกล่าวโดยแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ต่างประเทศที่จะบังคับให้พวกเขาออกจากสหรัฐอเมริกาในตอนท้ายของการเข้าพักของชั่วคราว กฎหมายวางภาระการพิสูจน์นี้ผู้สมัคร. เจ้าหน้าที่กงสุลของเรามีงานที่ยาก พวกเขาจะต้องตัดสินใจในเวลาที่สั้นมากถ้ามีคนมีคุณสมบัติที่จะได้รับวีซ่าชั่วคราว ส่วนกรณีที่มีการตัดสินใจหลังจากที่ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ และทบทวนสิ่งที่เป็นหลักฐานของความสัมพันธ์ผู้สมัครนำเสนอ. สิ่งที่ถือว่าเป็น "ความสัมพันธ์ที่ดี"? ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ, เมืองไปยังเมือง, แต่ละบุคคล ตัวอย่างบางส่วนของความสัมพันธ์ที่สามารถเป็นงานที่บ้านครอบครัวบัญชีธนาคาร "สายใย" เป็นแง่มุมต่าง ๆ ในชีวิตของคุณที่ผูกคุณประเทศที่คุณอยู่. ทรัพย์สินของคุณการจ้างงานทางสังคมและความสัมพันธ์ในครอบครัวในฐานะที่เป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาหรือถิ่นที่อยู่ถาวรตามกฎหมายคิดความสัมพันธ์ของคุณเองในประเทศสหรัฐอเมริกา สำนักงานกงสุลของต่างประเทศจะพิจารณาว่าคุณมีถิ่นที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาว่าคุณไม่ได้ตั้งใจที่จะละทิ้ง? มันเป็นไปได้ว่าคำตอบจะ "ใช่" ถ้าคุณมีงานครอบครัวหากคุณเป็นเจ้าของหรือให้เช่าบ้านหรืออพาร์ทเม้นหรือถ้าคุณมีภาระผูกพันอื่น ๆ ที่จะทำให้คุณต้องกลับไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงท้ายของ การไปเยือนต่างประเทศ สถานการณ์ของแต่ละคนที่แตกต่างกัน. เจ้าหน้าที่กงสุลของเรามีความตระหนักในความหลากหลายนี้ ในระหว่างการสัมภาษณ์วีซ่าที่พวกเขามองไปที่การประยุกต์ใช้เป็นรายบุคคลแต่ละคนและพิจารณามืออาชีพสังคมวัฒนธรรมและปัจจัยอื่น ๆ ในกรณีของผู้สมัครที่อายุอาจจะไม่ได้มีโอกาสที่จะสร้างความสัมพันธ์หลายเจ้าหน้าที่กงสุลอาจจะดูที่ความตั้งใจของผู้สมัครเฉพาะสถานการณ์ครอบครัวและแผนระยะยาวและแนวโน้มในประเทศของเขาหรือเธอที่อยู่อาศัย แต่ละกรณีจะตรวจสอบเป็นรายบุคคลและมีการพิจารณาตามที่ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย. คือการปฏิเสธตามมาตรา 214 (B) ถาวร? เลขที่ เจ้าหน้าที่กงสุลจะพิจารณากรณีเมื่อผู้สมัคร reapplies ถ้าผู้สมัครสามารถแสดงหลักฐานที่น่าเชื่อต่อไปของความสัมพันธ์นอกประเทศสหรัฐอเมริกา แต่น่าเสียดายที่ผู้สมัครบางคนจะไม่ได้มีคุณสมบัติสำหรับการขอวีซ่าชั่วคราวโดยไม่คำนึงถึงวิธีการหลายครั้งที่พวกเขานำไปใช้ใหม่จนกว่าส่วนตัวของพวกเขาเป็นมืออาชีพและสถานการณ์ทางการเงินที่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก. ฉันจะช่วยเหลือหรือไม่คุณอาจจะให้หนังสือเชิญหรือการสนับสนุน แต่นี้ไม่สามารถรับประกันได้ออกวีซ่าให้เพื่อนชาวต่างชาติ, ญาติหรือนักเรียน ยื่นขอวีซ่าจะต้องมีสิทธิ์ได้รับวีซ่าตามสถานการณ์ของตัวเองไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นผู้มีพระคุณอเมริกันของ. สิ่งที่สามารถทำได้หากปฏิเสธวีซ่าภายใต้ 214 (B) สำหรับการขาดสซิเดนซ์ในต่างประเทศหรือไม่ผู้สมัครปฏิเสธวีซ่าตามมาตรา214 ( ข) อาจจะนำไปใช้ใหม่ขอวีซ่า เมื่อพวกเขาทำพวกเขาจะต้องแสดงหลักฐานเพิ่มเติมของความสัมพันธ์ของพวกเขาหรือว่าสถานการณ์ของพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เวลาของการประยุกต์เดิม มันอาจจะช่วยในการตอบคำถามต่อไปนี้ก่อน reapplying (1) ว่าฉันอธิบายสถานการณ์ของฉันได้อย่างถูกต้อง? (2) ไม่เจ้าหน้าที่กงสุลสามารถมองเห็นบางสิ่งบางอย่าง? (3) มีข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ ฉันจะได้นำเสนอในการสร้างที่อยู่อาศัยและความสัมพันธ์ที่ดีในต่างประเทศของฉันได้อย่างไรนอกจากนี้ยังทราบว่าพวกเขาจะถูกเรียกเก็บค่าสมัครคืนได้ในแต่ละครั้งที่พวกเขายื่นขอวีซ่าโดยไม่คำนึงว่าวีซ่าจะออก. ที่สามารถมีอิทธิพลต่อ เจ้าหน้าที่กงสุลเพื่อ Reverse การตัดสินใจหรือไม่ได้รับมอบหมายกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองรับผิดชอบในการออกหรือการปฏิเสธการขอวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่กงสุลต่างประเทศ พวกเขามีสุดท้ายกล่าวว่าในกรณีที่วีซ่าทุกประเภท ตามระเบียบที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯมีอำนาจในการตรวจสอบการตัดสินใจกงสุล แต่อำนาจนี้จะถูก จำกัด ให้มีการตีความของกฎหมายเช่นการหาความแตกต่างของข้อเท็จจริง คำถามที่มีปัญหาในการปฏิเสธดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครที่มีคุณสมบัติที่อยู่อาศัยในต่างประเทศต้องเป็นจริงอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นจึงตกอยู่เฉพาะภายในอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กงสุลที่โพสต์บริการของเราต่างประเทศในการแก้ไข ผู้สมัครสามารถมีอิทธิพลต่อการโพสต์ที่จะเปลี่ยนการปฏิเสธวีซ่าก่อนเพียงผ่านการนำเสนอหลักฐานที่น่าเชื่อใหม่ของความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง. สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกรณีการขอวีซ่าในความคืบหน้าในต่างประเทศควรติดต่อสถานทูตสหรัฐที่เหมาะสมหรือสถานกงสุลจัดการกรณีของคุณ. ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับรายชื่อที่มีรายละเอียดของineligibilities วีซ่าที่แตกต่างกันตรวจสอบและ Ineligibilities ยกเว้นในภาครัฐเว็บไซต์ Travel.state.gov

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การปฏิเสธวีซ่า

สหรัฐอเมริกาเป็นสังคมที่เปิด ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ สหรัฐอเมริกาไม่ได้กําหนดการควบคุมภายในผู้เข้าชมมากที่สุด เช่น การลงทะเบียนกับหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์ของเปล่าเดินทาง ในสหรัฐอเมริกา , คนต่างด้าวมีความรับผิดชอบที่จะพิสูจน์ว่าพวกเขาจะกลับต่างประเทศ ก่อนที่ผู้เข้าชมหรือวีซ่านักเรียนออกกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของเราต้องการให้เจ้าหน้าที่กงสุลจะดูทุกผู้ขอวีซ่าเป็นวีซ่าจนกว่าผู้สมัครจะพิสูจน์เป็นอย่างอื่น

อะไรคือมาตรา 214 ( b )
มาตรา 214 ( b ) เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจคนเข้าเมือง และสัญชาติ ( INA ) มันระบุ :

คนต่างด้าวทุกคนจะถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้อพยพ จนกระทั่งเขาสร้างเพื่อความพึงพอใจของเจ้าหน้าที่กงสุลในช่วงเวลาของการรับสมัคร เขามีสิทธิที่จะเป็นภาวะชั่วคราว . . . . . . .

เพื่อให้มีคุณสมบัติสำหรับผู้เข้าชมหรือวีซ่านักเรียน ผู้สมัครจะต้องตอบสนองความต้องการของมาตรา 101 ( ) ( 15 ) ( b ) หรือ ( ฉ ) ของอินาตามลำดับ ความล้มเหลวที่จะทำเช่นนั้นจะส่งผลในการปฏิเสธวีซ่าภายใต้ INA 214 ( b )พื้นฐานที่ใช้บ่อยที่สุดเช่นการปฏิเสธเกี่ยวกับความต้องการที่ผู้เข้าชมในอนาคตหรือนักเรียนมีถิ่นที่อยู่ต่างประเทศ เขา / เธอมีความตั้งใจที่จะไม่ทิ้งใคร ผู้สมัครที่พิสูจน์การมีอยู่ของเช่นที่อยู่อาศัย โดยแสดงที่พวกเขามีความสัมพันธ์ต่างประเทศที่จะบังคับให้พวกเขาออกจากสหรัฐฯ ในตอนท้ายของการเข้าพักชั่วคราว กฎหมายที่ภาระการพิสูจน์นี้ผู้สมัคร .

เจ้าหน้าที่กงสุลของเรามีงานที่ยาก พวกเขาต้องตัดสินใจในเวลาที่สั้นมาก ถ้าใครมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้รับวีซ่าชั่วคราว กรณีส่วนใหญ่จะตัดสินใจหลังจากสัมภาษณ์และตรวจสอบหลักฐานของความสัมพันธ์ของสิ่งที่ผู้สมัครแสดง

สิ่งที่ถือว่าเป็น " ความสัมพันธ์ " เข้มแข็ง
สายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งแตกต่างจากประเทศเมืองไปยังเมือง แต่ละบุคคล ตัวอย่างบางส่วนของความสัมพันธ์สามารถงานบ้าน , ครอบครัว , บัญชีธนาคาร " . เสมอ " ในแง่มุมต่าง ๆของชีวิตของคุณที่มัดคุณประเทศของคุณที่อยู่อาศัย : เงินทอง การจ้างงานของคุณ ความสัมพันธ์ในครอบครัว และสังคม

เป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาหรือถิ่นที่อยู่ถาวรถูกต้องตามกฎหมาย , จินตนาการความสัมพันธ์ของคุณเองในสหรัฐอเมริกาจะเป็นกงสุลของต่างประเทศ พิจารณาว่าคุณมีถิ่นที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาที่คุณไม่ได้ตั้งใจจะทิ้ง ? เป็นไปได้ที่คำตอบจะเป็น " ใช่ " ถ้าคุณมีงาน ครอบครัว ถ้าคุณเป็นเจ้าของหรือเช่าบ้านหรืออพาร์ทเม้น หรือ ถ้าคุณมีภาระผูกพันอื่น ๆที่คุณต้องกลับไปที่สหรัฐอเมริกาในการสรุปของไปต่างประเทศสถานการณ์ของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกัน

เจ้าหน้าที่กงสุลของเราตระหนักถึงความหลากหลายนี้ ตอนสัมภาษณ์วีซ่าที่พวกเขามองและพิจารณาแต่ละโปรแกรมแบบมืออาชีพ สังคมวัฒนธรรม และปัจจัยอื่น ๆ ในกรณีของน้องผู้สมัครที่อาจไม่มีโอกาสที่จะฟอร์มมากมายเสมอ เจ้าหน้าที่กงสุลอาจดูโดยเฉพาะความตั้งใจของครอบครัว , สถานการณ์และระยะยาว แผน และลูกค้าในประเทศ ของเขาหรือเธอ ที่อยู่อาศัย แต่ละกรณีจะตรวจสอบเป็นรายบุคคลและได้รับทุกการพิจารณาภายใต้กฎหมาย

เป็นปฏิเสธมาตรา 214 ( b ) ถาวร

ไม่ เจ้าหน้าที่กงสุลจะพิจารณาคดีเมื่อผู้สมัคร reapplies ถ้าผู้สมัครสามารถแสดงหลักฐานเพิ่มเติม convincing เลยนอกสหรัฐอเมริกา ขออภัยผู้สมัครบางคนจะไม่ได้มีคุณสมบัติสำหรับวีซ่าชั่วคราว ไม่ว่ากี่ครั้งที่พวกเขาใช้ใหม่ได้ จนกว่าของพวกเขาส่วนบุคคลมืออาชีพและสถานการณ์ทางการเงินเปลี่ยนแปลงมาก

ผมจะช่วยได้อย่างไร

คุณอาจมีจดหมายเชิญหรือสนับสนุน แต่นี้ไม่สามารถรับประกันออกวีซ่าให้คนต่างชาติ เพื่อน ญาติ หรือนักเรียนผู้สมัครขอวีซ่าจะต้องมีคุณสมบัติสำหรับวีซ่าตามสถานการณ์ของตัวเอง ไม่ใช่บนพื้นฐานของชาวอเมริกันผู้สนับสนุนประกัน

จะทำอะไรได้ถ้าปฏิเสธวีซ่าภายใต้ 214 ( b ) ไม่มีที่พักต่างประเทศ

สมัครปฏิเสธวีซ่าภายใต้มาตรา 214 ( b ) จะขอทำวีซ่า เมื่อพวกเขาทำพวกเขาจะต้องแสดงหลักฐานของความสัมพันธ์ของพวกเขาหรือวิธีการที่สถานการณ์ของพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เวลาของโปรแกรมต้นฉบับ มันอาจช่วยตอบคำถามต่อไปนี้ก่อน reapplying ( 1 ) ฉันอธิบายสถานการณ์ของฉันถูกต้อง ( 2 ) เจ้าหน้าที่กงสุลมองข้ามบางอย่าง ( 3 ) มีข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆที่ฉันสามารถนำเสนอเพื่อสร้างความผูกพันของฉันที่อยู่ในต่างประเทศ

ยังทราบว่า พวกเขาจะถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการคืนเงินไม่ได้ด้วยเวลาที่พวกเขายื่นขอวีซ่าไม่ว่าจะเป็นวีซ่าจะออก

ใครสามารถต่อเจ้าหน้าที่กงสุลกลับการตัดสินใจ ?

กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง มอบหมายความรับผิดชอบ หรือปฏิเสธการออกวีซ่าเจ้าหน้าที่กงสุลต่างประเทศ มีสุดท้ายกล่าวเกี่ยวกับกรณีวีซ่าทั้งหมด ตามกฎของสหรัฐอเมริกาแผนกของรัฐมีอำนาจที่จะทบทวนการตัดสินใจกงสุล แต่อำนาจนี้จำกัดการตีความของกฎหมาย รวมทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับข้อเท็จจริง คำถามที่เป็นปัญหา เช่น การปฏิเสธ ว่าผู้สมัครมีคุณสมบัติที่ต้องการที่อยู่อาศัยในต่างประเทศเป็นจริงหนึ่ง ดังนั้นมันตกอยู่เฉพาะในอำนาจของเจ้าหน้าที่กงสุลที่โพสต์บริการต่างประเทศของเราเพื่อแก้ไข ผู้สมัครสามารถมีอิทธิพลต่อการโพสต์การเปลี่ยนแปลงการปฏิเสธวีซ่าก่อนผ่านการนำเสนอเชื่อหลักฐานใหม่ของความสัมพันธ์ที่แข็งแรง

สอบถามเกี่ยวกับวีซ่ากรณีความคืบหน้าในต่างประเทศควรติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลเหมาะสมในการจัดการกรณีของคุณ .



เพิ่มเติมทรัพยากรสำหรับรายละเอียดของ ineligibilities วีซ่าที่แตกต่างกัน ineligibilities ทบทวนและยกเลิกในแผนกของรัฐ travel.state.gov เว็บไซต์