Case 6.1 Philip Morris: Lessening T

Case 6.1 Philip Morris: Lessening Tobacco Dependency Mention Philip Morris, and everyone immediately thinks of tobaccos Indeed, in the early 1960s, Philip Morris was the smallest of the six U.S tobacco companies. In 1990, however, it ranked number one. Marlboro wus the nation's leading cigarette, with a 26 percent market share; combined with Merit, Virginia Slims, and Benson & Hedges it gave Philip Morris 42 percent of the U.S. cigarette market. Philip Morris's earlier diversification came in the 1970s. Whe Hamish Maxwell became CEO and chairman in July 1984, his goal was lo move Philip Morris away from its cigarette focus-but no one figured it would happen so fast or go so far In late 1985, Maxwell bought Ge Foods for $5.7 billion, which moved Philip Morris squarely into the food-processing mainstream Thi was followed in late 1988 by the acquisition of Kra for which Phili Morris paid 813 billion. The key brands for each are the following:
Kraft General Foods Velveeta Maxwell House Parkay Margarine Sanka. Sealtest Jell-O Breyers Post Philadelphia Brand Cream Cheese Oscar Mayer rusen Glad Tang All American Gourmet Frozen Entrees Birds Eye Maxwell immediately merged the two to form the second-largest pac luged foods operation in the world, behind only Nestlé. He likely is through yet, but it will probably take a year or so to digest what's alrea been acquired
It was orpected that between 1990 and 1994, Philip Morris, after taxes and dividends, would still have a healthy excess cash flow of 8l.3 billion, making its $15 billion debt manageable. That means you can look for another food company to be on the menu. Maxwell says he has no intention of getting into the motion picture, cable TV, or personal care business, as Philip Morris would not have the synergy it gets with food Two key names that seem to crop up as likely candidates are Pepsi and Campbell Soup. Pepsi has a dominant position in snack foods (Frito Lay), and its soft-drink and restaurant businesses (Pizza Hut) are doing well in the United States and abroad. A Pepsi drawback is the likely high price ($18-$20 billion), plus the probability that the Justice De- partment might require Philip Morris to divest itself of its Miller Brewing division to satisfy laws regulating beer companies' ownership of restau- rants. Campbell Soup Company, on the other hand, not only is strong in soups but has Le Menu, Swanson, and Mrs. Paul's, which would com plement the full-meal All-American Gourmet and Birds Eye brands from the Krall acquisition. Meanwhile, the tobacco business is still going strong, despite the growing external pressures from government and health-care groups and the public. After the Kraft and General Foods acquisitions, food ac counted for 50 percent of Philip Morris sales and 30 percent of profits cigarettes, while accounting for only 40 percent of sales, contributed a whopping 65 percent of operating income Maxwell will continue to lessen risk by using profits generated by tobacco to reduce Philip Morris's dependence on it. Apparently, some- one likes what he is doing--Philip Morris stock kicked up 63 percent in 1989. Moreover, Philip Morris was runner-up as "America's most a mired corporation" in Fortune's annual survey Source: Subrata N. Chakrawariuz, "Philip Morris ls Still Hungry," Forbes, April 12, 1990, pp. 96-101; and "Leaders of the Most Admired," Fortune, January 29, 1990, pp.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรณี 6.1 ฟิลิปมอร์ริส: ลดยาสูบอ้างอิงพูดถึงฟิลิปมอร์ริส และทุกคนทันทีคิดของ tobaccos Indeed ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 ฟิลิปมอร์ริสได้เล็กที่สุดของยาสูบบริษัทหกของสหรัฐอเมริกา ในปี 1990 อย่างไรก็ตาม มันอันดับหนึ่ง Wus จาก Marlboro บุหรี่ชั้นนำของประเทศ การตลาดร้อยละ 26 ร่วม มันรวมกับ Slims บุญ เวอร์จิเนีย และเบนสัน และป้องกันความเสี่ยง ให้ฟิลิปมอร์ริส 42% ของตลาดบุหรี่สหรัฐ ฟิลิปมอร์ริสก่อนหน้านี้กระจายมาในปี 1970 ไหนฉบับสมบูรณ์ Hamish Maxwell กลายเป็น ซีอีโอและประธานใน 1984 กรกฎาคม เป้าหมายของเขาคือ ฟิลิปมอร์ริสจากมวนเน้นหล่อ ย้าย- แต่ไม่มีใครคิดว่า มันจะเกิดขึ้นเพื่อให้รวดเร็ว หรือไปจนในปลายปี 1985 แมกซ์เวลซื้อ Ge อาหารสำหรับ $5.7 พันล้าน ฟิลิปมอร์ริสเริ่มเข้าหลักการแปรรูปอาหารที่ทีตามมาในปลายปี 1988 โดยการซื้อของกระที่มอร์ริส Phili จ่าย 813 ล้านย้ายมา ยี่ห้อที่คีย์สำหรับแต่ละต่อไปนี้:แมกซ์เวลท่องอาหารทั่วไปคราฟท์บ้านเนยเทียม Parkay Sanka Rusen Sealtest Jell-O Breyers โพสต์ฟิลาเดลเฟียแบรนด์ครีมชีออสการ์เมเยอร์ดีใจถังทั้งอเมริกันอาหารแช่แข็งร้านนกตา Maxwell ทันทีผสานสองในรูปแบบการดำเนินงานประชากร pac luged อาหารในโลก เบื้องหลังเท่านั้นเนสท์เล่ เขาอาจจะผ่านได้ แต่มันอาจจะใช้เวลาเป็นปี หรือดังนั้น การย่อยอะไร จะ alrea มา มันเป็น orpected ที่ระหว่าง 1990 และปี 1994 ฟิลิปมอร์ริส หลังหักภาษีและเงินปันผล จะยังคงมีกระแสเงินสดส่วนเกินเพื่อสุขภาพของ 8l.3 พันล้าน การจัดการชำระหนี้ 15 พันล้านดอลลาร์ หมายความ ว่า คุณสามารถค้นหาบริษัทอาหารอื่นจะอยู่ที่เมนู แมกซ์เวลล์กล่าวว่า เขามีความตั้งใจในการเข้าภาพเคลื่อนไหว เคเบิลทีวี หรือดูแล ธุรกิจ ฟิลิปมอร์ริสจะมีการประสานงานที่ได้รับอาหารสองคีย์ชื่อที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นเป็นผู้สมัครที่มีแนวโน้มที่ เป๊ปซี่และน้ำซุปแคมป์เบล เป๊ปซี่มีตำแหน่งที่โดดเด่นในขนมขบเคี้ยว (Frito Lay), และทำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม- (พิซซ่าฮัท) ในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ การคืนเงินของเป๊ปซี่คือ แนวโน้มราคาสูง ($18-$20 พันล้าน), บวกความน่าเป็นที่ว่า ยุติธรรม De-partment อาจต้องฟิลิปมอร์ริสจะปลดตัวเองเป็นฝ่ายชงมิลเลอร์จะตอบสนองกฎหมายควบคุมเป็นเจ้าของบริษัทเบียร์ของ restau-เล็กของพี่ บริษัทซุปแคมป์เบล คง ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งในซุป แต่ มี เมนูเลอ Swanson นาง พอล ซึ่งจะ com plement เต็มมื้ออาหาร All-American และตานกแบรนด์จากการซื้อ Krall ในขณะเดียวกัน ธุรกิจยาสูบคือจะยังคงแข็งแกร่ง แม้ มีแรงกดดันภายนอกเพิ่มขึ้นจากรัฐบาลและกลุ่มสุขภาพและประชาชน หลังจากซื้อคราฟท์และอาหารทั่วไป ac อาหารนับร้อยละ 50 ของฟิลิปมอร์ริสขายและร้อยละ 30 ของกำไรบุหรี่ ในขณะที่บัญชีเพียง 40% ของยอดขาย ส่วนมหันต์ 65 เปอร์เซ็นต์กำไรแมกซ์เวลล์จะช่วยลดความเสี่ยง โดยใช้ผลกำไรที่เกิดขึ้นจากยาสูบการลดฟิลิปมอร์ริสพึ่งมัน เด่นชัด บางคนชอบเขาทำอะไรอยู่ - สต็อกฟิลิปมอร์ริสที่เตะขึ้นร้อยละ 63 ในปี 1989 นอกจากนี้ ฟิลิปมอร์ริสเป็นรองชนะเลิศณ"อเมริกา สุดบริษัทกำหนด" ใน Fortune สำรวจประจำปีแหล่งที่มา: Chakrawariuz Subrata N. "ฟิลิปมอร์ริส ls ยังคงหิว Forbes, 12 เมษายน 1990, pp. 96-101 และ "ผู้นำที่สุดชื่นชม ฟอร์จูน 29 มกราคม 1990, pp

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรณี 6.1 ฟิลิปมอร์ริส: การลดการพึ่งพาการบริโภคยาสูบกล่าวถึงฟิลิปมอร์ริสและทุกคนทันทีคิดว่ายาสูบที่จริงในต้นปี 1960 ฟิลิปมอร์ริสที่เล็กที่สุดของ บริษัท สหรัฐหกยาสูบ ในปี 1990 แต่ก็อันดับหนึ่ง Marlboro WUS บุหรี่ชั้นนำของประเทศที่มีส่วนแบ่งการตลาด 26 เปอร์เซ็นต์; รวมกับบุญเวอร์จิเนีย Slims และเบนสัน & ต้นไม้มันทำให้ฟิลิปมอร์ริส 42 เปอร์เซ็นต์ของตลาดบุหรี่สหรัฐ ฟิลิปมอร์ริสก่อนหน้านี้การกระจายการลงทุนมาในปี 1970 Whe Hamish แมกซ์เวลกลายเป็นซีอีโอและประธานในเดือนกรกฎาคมปี 1984 เป้าหมายของเขาคือ Lo ย้ายฟิลิปมอร์ริสออกไปจากบุหรี่ของโฟกัส แต่ไม่มีใครคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วหรือไปเพื่อให้ห่างไกลในช่วงปลายปี 1985, แมกซ์เวลซื้อจีอีอาหารสำหรับ $ 5.7 พันล้านซึ่ง ย้ายไปฟิลิปมอร์ริสเรียบร้อยเป็นหลักแปรรูปอาหาร Thi ตามมาในช่วงปลายปี 1988 โดยการซื้อกิจการของกระที่ Phili มอร์ริสจ่าย 813000000000 แบรนด์ที่สำคัญสำหรับแต่ละต่อไปนี้:
คราฟท์ฟู้ดส์ทั่วไป Velveeta Maxwell House Parkay เนยเทียม Sanka Sealtest Jell-O Breyers โพสต์เดลเฟียครีมชีสยี่ห้อออสการ์เมเยอร์ rusen ดีใจถังอเมริกัน Gourmet แช่แข็ง Entrees ตานกแมกซ์เวลทันทีรวมทั้งสองในรูปแบบที่สองที่ใหญ่ที่สุดในการดำเนินงาน Pac luged อาหารในโลกหลังเท่านั้นเนสท์เล่ เขามีแนวโน้มที่จะผ่าน แต่ก็อาจจะใช้เวลาเป็นปีหรือมากกว่านั้นที่จะแยกแยะสิ่งที่ถูก alrea ที่ได้มา
มันก็ orpected ว่าระหว่างปี 1990 และปี 1994 ฟิลิปมอร์ริสหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินปันผลจะยังคงมีกระแสเงินสดที่มีสุขภาพดีเกิน 8l.3 พันล้านทำให้ $ 15 พันล้านหนี้จัดการได้ นั่นหมายความว่าคุณสามารถมองหา บริษัท อาหารอื่นที่จะอยู่ในเมนู แมกซ์เวลบอกว่าเขามีความตั้งใจที่จะได้รับเป็นภาพเคลื่อนไหว, เคเบิลทีวี, หรือธุรกิจการดูแลส่วนบุคคลไม่เป็นฟิลิปมอร์ริสจะไม่ได้มีการทำงานร่วมกันที่จะได้รับอาหารที่มีสองชื่อที่สำคัญที่ดูเหมือนจะปลูกขึ้นเป็นผู้สมัครที่มีแนวโน้มที่จะมีเป๊ปซี่และแคมป์เบลซุป เป๊ปซี่มีความโดดเด่นในขนมขบเคี้ยว (Frito Lay) และเครื่องดื่มและธุรกิจร้านอาหาร (Pizza Hut) ที่มีการทำดีในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศ ข้อเสียเปรียบของเป๊ปซี่เป็นราคามีแนวโน้มสูง ($ 18- $ 20 พันล้าน) บวกน่าจะเป็นที่ partment ยุติธรรม De- อาจจำเป็นต้องใช้ฟิลลิปมอร์ริสที่จะปลดตัวเองของมิลเลอร์กอง Brewing เพื่อตอบสนองกฎหมายที่ควบคุมการเป็นเจ้าของ บริษัท เบียร์ของภัตตาคาร แคมป์เบลซุป บริษัท ในมืออื่น ๆ ที่ไม่เพียง แต่มีความแข็งแกร่งในซุป แต่มี Le Menu, สเวนสันและนางพอลซึ่งจะ COM plement เต็มรูปแบบอาหาร All-American แบรนด์ Gourmet และนกตาจากการเข้าซื้อกิจการครัลล์ ในขณะที่ธุรกิจยาสูบจะยังคงแข็งแกร่งแม้จะมีการเจริญเติบโตแรงกดดันภายนอกจากภาครัฐและการดูแลสุขภาพกลุ่มและประชาชน หลังจากที่คราฟท์และอาหารทั่วไปกิจการ AC อาหารนับเป็นร้อยละ 50 ของยอดขายฟิลิปมอร์ริสและร้อยละ 30 ของการสูบบุหรี่ผลกำไรในขณะที่คิดเป็นเพียงร้อยละ 40 ของยอดขายส่วนมหันต์ร้อยละ 65 ของรายได้จากการดำเนินงานแมกซ์เวลจะยังคงช่วยลดความเสี่ยงโดยใช้ ผลกำไรที่เกิดจากยาสูบเพื่อลดการพึ่งพาฟิลิปมอร์ริสกับมัน เห็นได้ชัดว่า some- ใครชอบสิ่งที่เขาทำ - หุ้นฟิลิปมอร์ริสเตะขึ้นร้อยละ 63 ในปี 1989 นอกจากนี้ฟิลิปมอร์ริสวิ่งขึ้นเป็น "ส่วนใหญ่เป็น บริษัท ติดหล่มของอเมริกา" ในฟอร์จูนแหล่งที่มาของการสำรวจประจำปี: Subrata เอ็น Chakrawariuz " LS ฟิลิปมอร์ริสยังคงหิว "ฟอร์บ 12 เมษายน 1990, PP 96-101. และ "ผู้นำของการชื่นชมมากที่สุด" ฟอร์จูน 29 มกราคม 1990, PP