Generally, co-digestion scenarios w

Generally, co-digestion scenarios with high proportion of energy crops (Base SS-1 and Base LS-1) had relatively higher
environmental impacts as would be expected (Table 2). For example, the data for small-scale biogas plants showed that POF impact value was nearly twice as high for Base SS-1 (0.63 kg NMVOC), compared to base case Base SS (0.34 kg NMVOC). Analysis of single feedstock scenarios already showed (Table 1), that POF impact potential was 60% and 125% higher for grass silage and whole wheat plant silage, respectively, compared to corn silage (0.67 kg NMVOC); hence, corn silage feedstock was more environmentally compatible. Co-digesting cattle manure with 35% corn silage, 18% grass silage and 22% whole wheat plant silage (Base LS-1) incurred 7 times higher POF impacts compared to digesting mainlyMSWand food industry residues (Base LS). Results in Table 1 already showed that residues from food industry incurred lower POF impacts of between 0.15 (grease separator sludge) and 0.30 kg NMVOC (pomace), in contrast to energy crops with 0.67 (corn silage) up to 1.51 kg NMVOC (whole wheat plant silage).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทั่วไป สถานการณ์ย่อยอาหารร่วมกับสัดส่วนของพืชพลังงาน (SS-1 ฐานและฐาน LS-1) มีค่อนข้างสูง
(ตารางที่ 2) คาดว่าผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นจะ ตัวอย่าง ข้อมูลสำหรับโรงงานก๊าซชีวภาพระบุพบว่า ค่าผลกระทบ POF ถูกเกือบสองเท่าสำหรับฐาน SS-1 (0.63 กิโลกรัม NMVOC), เมื่อเทียบกับพื้นฐานกรณีพื้นฐาน SS (0.34 kg NMVOC) วิเคราะห์สถานการณ์เดียววัตถุดิบแล้วพบว่า (ตาราง 1), ว่า POF ศักยภาพผลกระทบคือ 60% และ 125% สูงกว่าหญ้าไซเลจต่อและไซเลจต่อพืชข้าวสาลีทั้งหมด ตามลำดับ เปรียบเทียบกับข้าวโพดไซเลจต่อ (0.67 กก. NMVOC); ดังนั้น วัตถุดิบข้าวโพดไซเลจต่อเข้ากันได้เพิ่มเติมสิ่งแวดล้อม ร่วม digesting มูลวัวกับไซเลจต่อข้าวโพด 35% ไซเลจต่อหญ้า 18% และไซเลจต่อพืชข้าวสาลีทั้งหมด 22% (Base LS-1) เกิดขึ้น 7 ครั้งผลกระทบ POF สูงเมื่อเทียบกับ digesting mainlyMSWand อาหารอุตสาหกรรมตก (Base LS) ผลลัพธ์ในตารางที่ 1 แล้วพบว่า ตกค้างจากอุตสาหกรรมอาหารเกิดขึ้นต่ำกว่า POF ผลกระทบของระหว่าง 0.15 (ไขมันแยกตะกอน) และ 0.30 กก. NMVOC (pomace), ตรงข้ามพืชพลังงานกับ 0.67 (ไซเลจต่อข้าวโพด) ถึง 151 กก. NMVOC (ไซเลจต่อพืชข้าวสาลีทั้งหมด)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยทั่วไปแล้ว บริษัทย่อยสถานการณ์สัดส่วนของพืชพลังงาน ( ss-1 ฐานและ ls-1 ฐาน ) มีค่อนข้างสูง
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่คาดเอาไว้ ( ตารางที่ 2 ) ตัวอย่างเช่น ข้อมูลขนาดเล็กพืชก๊าซชีวภาพพบว่าค่า POF ผลกระทบเกือบสองเท่าสูง ss-1 ฐาน ( 0.63 kg โดยมีปริมาณ ) , เมื่อเทียบกับฐานกรณีฐาน SS ( 0.34 กิโลกรัมโดยมีปริมาณ )การวิเคราะห์สถานการณ์วัตถุดิบเดียวแล้วพบ ( ตารางที่ 1 ) ว่า ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น คือ คอนโดมิเนียม 60% และ 125% สูงกว่าหญ้าหมักหญ้าและพืชทั้งข้าวสาลีหญ้าหมัก ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ ข้าวโพดหมัก ( 0.67 กิโลกรัม โดยมีปริมาณ ) ; ดังนั้น วัตถุดิบข้าวโพดหมักเป็นสิ่งแวดล้อมที่เข้ากันได้ บริษัทย่อยปุ๋ยคอก กับ ข้าวโพดหมัก 35 %หญ้าหมักร้อยละ 18 และ 22 เปอร์เซ็นต์ข้าวสาลีพืชหมัก ( ฐาน ls-1 ) ที่เกิดขึ้น 7 เท่าเมื่อเทียบกับไขมันย่อยตกค้างจากอุตสาหกรรมอาหาร mainlymswand ( มีฐาน ) ผลลัพธ์ในตารางที่ 1 แล้ว พบว่า ของเสียจากอุตสาหกรรมอาหารลดไขมันที่เกิดจากระหว่าง 0.15 ( ไขมันแยกกาก ) และ 0.30 กก. โดยมีปริมาณ ( กาก ) ในทางตรงกันข้ามกับพืชพลังงานกับ 0.67 ( ข้าวโพดหมัก ) ได้ถึง 1โดยมีปริมาณ 51 กิโลกรัม ( ข้าวสาลีพืชอาหารสัตว์ )