In pragmatics (linguistics), entail

In pragmatics (linguistics), entailment is the relationship between two sentences where the truth of one (A) requires the truth of the other (B).

For example, the sentence (A) The president was assassinated. entails (B) The president is dead. Notice also that if (B) is false, then (A) must necessarily be false. To show entailment, we must show that (A) being true forces (B) to be true, or, equivalently, that (B) being false forces (A) to be false.

Entailment differs from implicature (in their definitions for pragmatics), where the truth of one (A) suggests the truth of the other (B), but does not require it. For example, the sentence (A) Mary had a baby and (B) got married implicates that (A) she had a baby before (B) the wedding, but this is cancellable by adding – not necessarily in that order. Entailments are not cancellable.

Entailment also differs from presupposition in that in presupposition, the truth of what one is presupposing is taken for granted. A simple test to differentiate presupposition from entailment is negation. For example, both The king of France is ill and The king of France is not ill presuppose that there is a king of France. However The president was not assassinated no longer entails The president is dead (nor its opposite, as the president could have died in another way). In this case, presupposition remains under negation, but entailment does not.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เน้นใน (ภาษาศาสตร์) entailment คือความสัมพันธ์ระหว่างสองประโยคที่ความจริงของหนึ่ง (A) ต้องใช้ความจริงของอื่น ๆ (B). ตัวอย่างเช่นประโยค (A) ประธานาธิบดีถูกลอบสังหาร สร้างความ (B) ประธานจะตาย แจ้งให้ทราบว่าถ้า (B) เป็นเท็จแล้ว (A) จำเป็นต้องเป็นเท็จ เพื่อแสดง entailment เราจะต้องแสดงให้เห็นว่า () เป็นกองกำลังที่แท้จริง (B) ที่จะเป็นจริงหรือเท่าที่ (B) เป็นกองกำลังที่เป็นเท็จ (A) เป็นเท็จ. Entailment แตกต่างจาก implicature (ในคำจำกัดความของพวกเขาสำหรับเน้น) ซึ่งความจริงของหนึ่ง (A) ที่แสดงให้เห็นความจริงของอื่น ๆ (B) แต่ไม่จำเป็นต้องใช้งาน ตัวอย่างประโยค (A) แมรี่มีทารกและ (B) ได้แต่งงาน implicates ว่า (A) เธอมีลูกน้อยก่อน (B) แต่งงาน แต่นี้ยกเลิกโดยการเพิ่ม - ไม่จำเป็นต้องอยู่ในลำดับที่ Entailments ไม่ได้ยกเลิก. Entailment ยังแตกต่างจากข้อสันนิษฐานในข้อสันนิษฐานว่าในความจริงของสิ่งหนึ่งคือการ presupposing เป็นที่สำหรับรับ ทดสอบอย่างง่ายที่จะแยกความแตกต่างจากข้อสันนิษฐาน entailment เป็นผลทางลบ ตัวอย่างเช่นทั้งสองกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสป่วยและพระมหากษัตริย์ของฝรั่งเศสไม่ได้ส่อป่วยที่มีพระมหากษัตริย์ของฝรั่งเศส แต่ประธานไม่ได้ถูกลอบสังหารไม่ส่งผลประธานจะตาย (หรือตรงข้ามของตนเป็นประธานจะมีผู้เสียชีวิตในอีกทางหนึ่ง) ในกรณีนี้ข้อสันนิษฐานยังอยู่ภายใต้การปฏิเสธ แต่ entailment ไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในภาษา ( ภาษาศาสตร์ ) entailment คือความสัมพันธ์ระหว่างสองประโยคที่ความจริงของหนึ่ง ( ) ต้องใช้ความจริงของอื่น ๆ ( B )

ตัวอย่างประโยค ( ) ประธานาธิบดีถูกลอบสังหาร ใช้ ( ข ) ประธานาธิบดีตายแล้ว สังเกตว่าถ้า ( B ) เป็นเท็จ แล้ว ( ) จะต้องเป็นเท็จ แสดง entailment เราต้องแสดงให้เห็นว่า ( ก ) ( ข ) ถูกจริง แรงจริง หรือก้อง , ( ข ) การบังคับเท็จ ( ) เป็นเท็จ .

entailment แตกต่างจากความหมายนัย ( ในความหมายของภาษา ) ซึ่งความจริงแห่งหนึ่ง ( A ) แสดงให้เห็นความจริงของอื่น ๆ ( B ) แต่ไม่ต้องใช้มัน ตัวอย่างประโยค ( 1 ) แมรี่มีลูกและ ( ข ) แต่งงานเกี่ยวพันกับที่ ( ) เธอมีลูกก่อนแต่งงาน ( B ) ,แต่นี้คือโดยการเพิ่มและยกเลิกคำสั่งนี้ไม่จำเป็น entailments ไม่ยกเลิก

entailment ยังแตกต่างจากรูปที่ในรูป ความจริงของสิ่งหนึ่งคือสันนิษฐานถูกมองข้าม การทดสอบที่ง่ายเพื่อแยกความแตกต่างจาก entailment เป็นรูปปฏิเสธ ตัวอย่างเช่นทั้งกษัตริย์ของฝรั่งเศสกำลังป่วย และกษัตริย์ของฝรั่งเศสไม่ป่วย สันนิษฐานว่ามีกษัตริย์ของฝรั่งเศส แต่ท่านประธานไม่ฆ่าไม่ใช้ประธานาธิบดีตาย ( หรือตรงกันข้าม เป็นประธานาธิบดี จะต้องตายในอีกทางหนึ่ง ) ในกรณีนี้รูปยังคงอยู่ภายใต้การปฏิเสธ แต่ entailment ไม่ได้